เปิดโผ วิตามิน เสี่ยงต่อการเสียชีวิต

เปิดโผ วิตามิน เสี่ยงต่อการเสียชีวิต

ในโลกปัจจุบันหลายคนมีวิถีชีวิตแบบรีบเร่ง โดยเฉพาะ "คนเมือง" ต่างคนต่างทำงานแข่งขันกับเข็มนาฬิกา ไม่มีเวลาดูแลสุขภาพ แม้แต่เวลาออกกำลังกาย ก็น้อยเต็มที

บวกกับสภาพอากาศในช่วงนี้ที่เปลี่ยนแปลงแบบมี 3 ฤดูใน 1 วัน จึงทำให้หลายคนโหยหาตัวช่วยทางสุขภาพแบบทางลัดด้วยการวิ่งตามหาวิตามินต่าง ๆ นานา เพียงเชื่อว่าจะเป็นเสมือนเกราะป้องกันโรคภัยไข้เจ็บได้

เมื่อเอ่ยถึง "วิตามินและอาหารเสริม" ผู้คนส่วนใหญ่เชื่อสนิทใจว่าอุดมไปด้วยประโยชน์นานัปการ ทว่าสำหรับผู้ที่สรรหาการรับประทานวิตามินที่เกินขนาด อาจจะส่งผลร้ายและทำลายสุขภาพแบบที่หลายคนอาจมองข้ามไป

เสียงจากนักวิจัยหลายสำนักระบุว่า การรับประทานวิตามินหรืออาหารเสริมที่มากเกินความจำเป็น อาจส่งผลต่อความเสี่ยงให้เกิดโรคต่าง ๆ โดยเฉพาะเงามืดจากโรคมะเร็ง งานวิจัยจากต่างชาติหลายสำนักกำลังส่งข้อความเตือนภัยถึงผู้ที่ฝากความหวังการดูแลสุขภาพ ด้วยการพึ่งพิงตัวช่วยจากวิตามินชนิดต่าง ๆ คงต้องตระหนักถึงแง่แหลมคมของการบริโภควิตามินที่เกินพอดี

เริ่มต้นด้วยการรับประทานวิตามินเอที่มากเกินควร ทำให้เกิดความผิดปกติในตับและส่งผลต่อความหนาแน่นของแร่ธาตุในกระดูกลดลง นั่นอาจ ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน ในขณะที่วิตามินยอดนิยมอย่างวิตามินซีก็ติดโผอันตรายหากรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป เพราะจะทำให้เกิดการสะสมธาตุเหล็กตามกระดูกข้อต่อต่าง ๆ มากขึ้นและอาจนำพาไปสู่โรคเกาต์ได้ในที่สุด

ตามมาด้วยภัยร้ายจากปริมาณของวิตามินดีที่มากเกินไป งานวิจัยหลายชิ้นชี้ว่า อาจจะส่งผลให้เกิดโรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคกระดูก และ โรคมะเร็งได้ โดยนักวิจัยจากจอห์น ฮอปกินส์ (Johns Hopkins) กล่าวว่า ระดับการรับวิตามินดีที่สูงเกินระดับปกติ อาจมีผลข้างเคียงต่อระดับการเต้นของหัวใจไม่เป็นจังหวะ บางรายอาจเสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลวได้

สำหรับผู้ที่เลือกตัวช่วยทางสุขภาพจากวิตามินอี อาจต้องเตรียมรับมือกับอาการกล้ามเนื้ออ่อนล้า สายตาพร่ามัว โดยเฉพาะผลวิจัยจากวารสารสมาคมการแพทย์แห่งสหรัฐระบุว่า ท่านผู้ชายอาจจะมีแนวโน้มสูงที่จะเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก

ผลวิจัยจากฝั่งมหาวิทยาลัยวอชิงตัน เปิดเผยว่า การรับประทานวิตามินอีที่มากเกินไปอาจจะเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอดได้อีกด้วย

นอกจากนี้ ผลการวิจัยสำนักอื่น ๆ ยังระบุว่า วิตามินและแร่ธาตุเสริม เช่น วิตามินรวม กรดโฟลิก ทองแดง สังกะสี และเหล็ก ทำให้เกิดอัตราความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น

นักวิจัยเตือนว่า โดยส่วนมาก ผู้บริโภคเลือกซื้อ "ตัวช่วย" เหล่านี้มาโดยไม่ทันทราบว่า วิตามินและอาหารเสริมแต่ละชนิดนั้นมีประโยชน์อย่างไร ในความเป็นจริงนั้นธาตุอาหารเสริมควรจะใช้สำหรับผู้ป่วยที่จำเป็นเท่านั้น โดยควรมีหลักฐานทางการแพทย์ที่ยืนยันว่าผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับวิตามินหรือธาตุอาหารนั้นจริง ๆ เพราะว่าธาตุอาหารเสริมแต่ละประเภทอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้

ขอบคุณ prachachat.net

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์