ทำอย่างไรเมื่อรักจากไป

ในชีวิตคนเราคงต้องมีสักครั้งที่ประสบกับภาวะหัวใจล้มเหลว รักร้าง จากไกล ไม่มีใครสักคนอยู่เคียงข้าง ซึ่งล้วนแต่นำมาซึ่งความรู้สึกทางลบ เสียใจ เจ็บปวด เงียบเหงา และเศร้าหมอง แต่ในเมื่อเราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีต หรือไปยับยั้งเหตุการณ์ที่ขึ้นไปแล้วได้ การจมอยู่ในอดีตจึงไม่มีประโยชน์อันใด การลืม คือ ทางเลือกที่ดีที่สุด แต่ก็อาจจะยากที่สุดเช่นเดียวกัน หากหาหนทางไปสู่จุดนั้นไม่พบ

4 วิธีง่ายๆที่คุณคุ้นเคยอยู่แล้ว แต่คาดไม่ถึง อาจช่วยคุณได้ค่ะ

ฟัง ดนตรี ศิลปะอย่างหนึ่งที่มนุษย์ได้สร้างสรรค์ปรุงแต่งขึ้นจากธรรมชาติ ได้กลายมาเป็นเพื่อนทางจิตใจของมนุษย์มาช้านาน มีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์และทางการแพทย์นับครั้งไม่ถ้วนว่า ดนตรีมีผลต่ออารมณ์และความรู้สึกของคนเรา ความสบายอกสบายใจเกิดขึ้นได้จากการฟังรวมไปถึงการเล่นดนตรีด้วย Dannis Quaid ดาราฮอลลีวู้ด ยอมรับกับสื่อมวลชนว่า สมัยที่เขาเลิกรากับ Meg Ryan ดาราสาวซูปเปอร์สตาร์ขวัญใจชาวอเมริกัน เขารู้สึกเจ็บปวดจนแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป แต่ด้วยพลังอันมหัศจรรย์ของดนตรี ช่วยให้เขารวบรวมกำลังใจ กลับมาเป็นคนเดิมได้ในที่สุด แต่ขอร้องนะคะ ว่าอย่าได้เปิดเพลงเศร้า หกอักรักคุดเด็ดขาด ถ้าคุณยังไม่อยากมีอาการเหมือนคนจะขาดใจ

พูด การพูดกับใครสักคนที่เราไว้วางใจ คนที่เป็นเพื่อนแท้โดยเฉพาะคนที่คุณรู้อยู่แก่ใจว่าเขาจะมาหาและอยู่เคียงข้างคุณเสมอเวลามีความทุกข์(ต้องมีซักคนแหละน่า) คือการระบายความรู้สึกย่ำแย่ที่คั่งค้างอยู่ภายในออกมาได้อย่างดีเยี่ยม เมื่อระบายด้วยการพูดให้ใครสักคนฟังแล้ว คุณจะรู้สึกดีขึ้นอย่างประหลาด ทั้งนี้รวมไปถึงการพูดหรือบ่นพึมพำกับตัวเองเข้าไปด้วย สังเกตได้ว่านักกีฬาส่วนใหญ่จะใช้วิธีพูดหรือตะโกนออกมาหลังจากที่เพลี่ยงพล้ำในระหว่างการแข่งขัน เพื่อกระตุ้นให้ตัวเองพร้อมสู้ต่อ หรือเพื่อกลับเข้าสู่เกม แม้แต่จิตแพทย์ก็ใช้วิธีบำบัดขั้นพื้นฐานด้วยการให้ผู้เข้ารับการปรึกษาเล่าเรื่องราวต่างๆที่อยู่ในใจออกมา เพื่อนำกลับมาวิเคราะห์และหาทางแก้ไขต่อไป 

อ่าน มีคำกล่าวที่ว่า โลกของคนไม่เหงาคือโลกของคนอ่านหนังสือ เพราะการอ่านหนังสือดีๆสักเล่มเหมือนการสร้างโลกส่วนตัวขึ้นใหม่โดยไม่มีใครสามารถล่วงล้ำเข้ามาได้ ที่สำคัญมันทำให้เราอยู่กับตัวเองได้เป็นเวลานานๆ โดยไม่จำเป็นต้องมีเพื่อน ไม่ว่าจะเป็นหนังสือวิชาการให้ความรู้ ซึ่งจะช่วยให้เราพัฒนาตัวเองขึ้นไปทุกครั้งเมื่ออ่านจบในแต่ละเล่ม หนังสืออ่านเล่นให้ความบันเทิง เพลิดเพลิน สนุกสนาน แม้แต่หนังสือการ์ตูนก็มีประโยชน์หากทำให้เราหัวเราะได้สักครั้งหนึ่ง การอ่านหนังสือจึงเป็นมิตรแท้สำหรับคนทุกเพศ ทุกวัย

เขียน การเขียนคือการถ่ายทอดเรื่องราว ถ่ายเทความอัดอั้นตันใจลงในกระดาษนั่นเอง สำหรับบางคนที่ไม่อยากเปิดเผยเรื่องส่วนตัวให้คนที่รู้จักฟัง แต่ขณะเดียวกันก็ไม่อยากเก็บสิ่งที่สร้างความไม่สบายใจไว้กับตัวเอง การเขียนจึงเป็นทางออกที่ดีทางหนึ่ง การเขียนบันทึกประจำวันธรรมดาในสมุดเพื่อใช้เป็นบทเรียนชีวิตเมื่อได้กลับมาอ่านอีกครั้ง หรือการเขียนลงใน Blog หรือ Web board ต่างๆ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้สึกกับเพื่อนในโลกไอที หรือเพื่อถ่ายทอดประสบการณ์เจ็บปวดที่คุณไม่ควรเก็บมันไว้ตอกย้ำตัวเองก็ตาม หลังจากที่ได้ปลดปล่อยความรู้สึกทั้งหลายจากการเขียนแล้ว คุณจะพบว่า เรื่องทั้งหมดมันเล็กนิดเดียว ยังมีคนอื่นๆที่มีประสบการณ์ที่เหมือนกับคุณ หรืออาจจะเลวร้ายกว่า และที่สำคัญคุณจะพบว่า คุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวอีกต่อไป

ปลดแอกตัวเองจากความเศร้าหมอง แล้วลุกขึ้นใช้ชีวิตของคุณอย่างสง่างามต่อไป สู้ สู้ ค่ะ