10 คำถามเซ็กส์ยอดฮิต

10 คำถามเซ็กส์ยอดฮิต


เพศสัมพันธ์ใครคิดว่าไม่สำคัญ บางคนเห็นด้วยแน่นอน บางคนอาจจะค้านอยู่ในใจว่าไม่มีความจำเป็น หลากหลายความคิดความต้องการที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่ลักษณะเฉพาะของแต่ละคน บางคนไม่เคยมีเพศสัมพันธ์เลยเพราะไม่เคยมีโอกาส หรือไม่ให้ความสนใจกับมันมากนัก แต่แน่นอนล่ะบางคนก็เคยมีและพึงพอใจบ้าง ทุกข์บ้าง ด้วยสาเหตุต่างๆ กันออกไป เช่น ไม่มีความสุขเมื่อมีเพศสัมพันธ์ หรือมีปัญหาในการมีเพศสัมพันธ์ ผมจึงขอจะนำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวกับคำถามต่างๆ ที่ค้างคาใจของคนที่พบบ่อยๆ เพื่อให้คนที่ไม่กล้ามีเพศสัมพันธ์เข้าใจและยอมรับได้อย่างเหมาะสม และคนที่เคยมีเพศสัมพันธ์แล้วเจอปัญหาหรือคำถามได้สบายใจและมีความสุขอย่างแท้จริงในการมีเพศสัมพันธ์

คำถามที่เจอบ่อยๆ ก่อนมีเพศสัมพันธ์
1.เพศสัมพันธ์เป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ ทำไมคนบางคนถึงหมกมุ่นกับมันมากนัก
คำถามนี้มิได้พบเฉพาะในคนที่ไม่กล้ามีเพศสัมพันธ์เท่านั้น คนที่เคยผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาก่อนก็อาจรู้สึกได้เมื่อวันเวลาผ่านไป พบในคุณผู้หญิงเสียมาก สาเหตุส่วนใหญ่เป็นเพราะผู้หญิงคิดว่าการมีเพศสัมพันธ์คือการแสดงความรัก ความห่วงใย ความใส่ใจของผู้ชายที่มีต่อผู้หญิง หาใช่การร่วมเพศไม่ การไม่เข้าใจธรรมชาติซึ่งกันและกันแบบนี้จะทำให้การที่ผู้ชายมีอารมณ์ทางเพศแล้วแสดงต่อผู้หญิงแบบต้องการร่วมเพศจึงทำให้ผู้หญิงรู้สึกเบื่อ และมองว่าเป็นความหมกมุ่นของผู้ชายทั้งๆ ที่ตนเองไม่รู้สึกแบบนั้นสักหน่อย อยากให้เขาแสดงความรัก ความใส่ใจมากกว่า นานๆ เข้าก็กลายเป็นความรังเกียจและไม่อยากมีเพสสัมพันธ์ คิดว่าอยู่ธรรมดาไปวันๆ หาสิ่งอื่นทำก็สบายใจกว่า ไม่เจ็บตัวด้วย และนี่ก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สามีไปมีบ้านเล็กบ้านน้อย นอกจากนี้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายบางคนก็เคยมีประสบการณ์ในเรื่องทางเพศที่ไม่ดีมาก่อน อาจจะเป็นช่วงวัยเด็ก ทำให้ไม่กล้าหรือขยะแขยงในการที่จะมีเพศสัมพันธ์ กรณีเหล่านี้คงต้องพบกับจิตแพทย์เพื่อบำบัดทางด้านจิตใจด้วย

2.ฉันมีเสน่ห์เพียงพอหรือเปล่าที่จะดึงดูดใจเขา
ทั้งหญิงและชายนอกจากกังวลเรื่องหน้าตาของตนเองแล้ว สิ่งที่กังวลอีกเรื่องหนึ่งก็คือ เรื่อง “ขนาด” ใครจะบอกสักกี่ครั้งว่าขนาดนั้นสำคัญไฉน ฉันก็ไม่เข้าใจและยอมรับ ผู้ชายกังวลเรื่องขนาดของอวัยวะเพศตนเองว่าเล็กเกินไป ฝ่ายตรงข้ามจะไม่พึงพอใจหรือมีความสุขเวลามีเพศสัมพันธ์ ส่วนผู้หญิงก็กังวลว่าหน้าอกเล็กเกินไป หรืออวัยวะเพศมีสีคล้ำๆ แปลก คิดไปคิดมาพาลหมดอารมณ์ทางเพศไปซะเฉย นอนก่ายหน้าผากกันทั้งคู่ (น่าแปลกใจที่คอยกังวลกับความใหญ่ คิดว่ายิ่งใหญ่ยิ่งดี แถมไม่สนใจกับฝ่ายตรงข้ามด้วยว่าเขาจะกลัวหรือเปล่า) ความจริงคนที่หมกมุ่นเรื่องขนาดหรือความงามจนมากเกินไป ก็ถือว่าเป็นคนที่ขาดความมั่นใจในตัวเองในระดับหนึ่ง และลืมนึกถึงข้อดีอื่นๆ ของตนเองที่มีอยู่ ถ้าคิดเสียว่า “ลีลาดีมีชัยไปกว่าครึ่ง” ก็น่าจะเพียงพอมิใช่หรือ ความจริงเรื่องเหล่านี้ฝึกกันได้ อาจต้องอาศัยเวลาสักหน่อย อย่าฝืนธรรมชาติไปเลยครับ เพราะเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องที่เกิดตามธรรมชาติ มิใช่เรื่องดัดแปลงจากธรรมชาติ ของเทียมฤาจะสู้ของจริงและบางครั้งอาจเกิดผลเสียตามมาได้ หลายๆ คู่ที่รักกันจริงๆ แทบไม่ให้ความสำคัญกับขนาด หรือรูปลักษณ์ของอีกฝ่ายมากนัก

คำถามที่พบบ่อยๆ ในขั้นตอนที่เริ่มจะมีเพศสัมพันธ์
3.ตื่นเต้นเร้าใจแต่ไร้อารมณ์
หลายคนคาดหวังว่าคืนนี้ล่ะจะต้องทำให้ดีที่สุด ต้องมีความสุขมากจริงๆ อีกฝ่ายต้องประทับใจแน่ๆ แต่ความคาดหวังอาจนำมาซึ่งความผิดหวังได้เช่นเดียวกัน การมีเพศสัมพันธ์จริงๆแล้วอย่างที่ได้กล่าวมาข้างต้นเป็นเรื่องของธรรมชาติที่ดำเนินไปตามอารมณ์ที่เกิดขึ้น บ่อยครั้งที่คู่ของเราอาจต้องฝืนใจที่จะทำทั้งๆ ที่ยังไม่พร้อม เช่น ฝ่ายหญิงไม่เคยมาก่อน แต่ฝ่ายชายช่ำชองเสียเหลือเกิน แถมฝ่ายหญิงยังรู้สึกกลัวๆ อยู่ หรือฝ่ายชายคาดหวังในการตอบสนองของฝ่ายหญิงมากเกินไป พอรู้ว่าฝ่ายหญิงไม่ได้มีอารมณ์ร่วมกับตนด้วย อารมณ์รักอารมณ์ใคร่ก็แปรเปลี่ยนเป็นอารมณ์เบื่อเซ็ง เผลอๆ แถมหงุดหงิดและโกรธตามมาก็มี ดังนั้น การใจเย็นๆ ค่อยๆ คุมอารมณ์ การใช้คำพูดหวานๆ อาจจะรวมถึงการเล้าโลม ช้าๆ จะทำให้ได้ศึกษาอารมณ์ของแต่ละฝ่ายร่วมกัน ว่าคิดอย่างไร ต้องการอย่างไร น่าจะดีกว่าครับ ตำราคนโบราณถูกต้องแล้ว “ ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม” ก็ยังใช้ได้ดีในเรื่องนี้ครับ

4.เจอพายุเมื่อใกล้จะถึงฝั่ง
อ่านแล้วอย่าเพิ่งงงครับ ก็คือล่มปากอ่าวนั่นเอง หรือนกกระจอกไม่ทันกินน้ำ คำเหล่านี้ก็คล้ายๆ กันล่ะครับ สาเหตุคงคล้ายๆ กับข้อที่ผ่านมาคือตั้งใจมากเกิน หรือตื่นเต้นมากเกินไป จึงทำให้ถึงจุดสุดยอดเร็วกว่าที่ควรจะเป็นโดยอีกฝ่ายยังไม่ทันได้มีความสุขอย่างเต็มที่ เจ้าตัวก็หมดอารมณ์เร็วเกินไป อาจจะเพราะหลังจากเสร็จเร็วแล้วหรืออาจจะรู้สึกว่าตนเองไม่เอาไหน

ความจริงแล้วปัญหานี้พบบ่อยมากๆ และเป็นปัญหาที่แก้ไม่ง่ายเลย เพราะมาจากหลายสาเหตุ เช่น บางคนเป็นคนที่ประสาทการรับรู้ไวมาก แตะนิดแตะหน่อยก็เรียบร้อยแล้ว หรือบางคนก็เก็บกดมานาน เตะนิดเดียวก็เขื่อนพัง ที่พบอีกอย่างหนึ่งก็คือ ความเคยชินกับความรีบร้อนบ่อย เช่น บางคนรีบสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองเป็นประจำจนชิน หรืออยู่ในสถานที่หรือสถานการณ์ที่ต้องรีบให้เสร็จกามกิจเร็วๆ จนติดเป็นนิสัย พอมาปฏิบัติจริงไปไม่ถึงไหนก็ล่มเสียแล้ว เรื่องนี้ต้องอาศัยการบำบัดระยะยาวพอสมควรทั้งทางด้านจิตใจและตรวจเช็คปัญหาทางด้านกายร่วมด้วยในบางราย ดังนั้นความไวของกามนิตหนุ่มแบบนี้จึงไม่ค่อยเป็นที่พึงปรารถนามากนัก

5.ออรัลเซ็กส์เป็นสิ่งที่น่ารังเกียจหรือเปล่า
ถ้าคำถามนี้ถูกถามในหมู่รักร่วมเพศก็คงแทบจะไม่มีปัญหาที่ต้องสงสัยอะไร เพราะส่วนใหญ่รับได้และพึงพอใจที่จะมีแบบนั้น แต่ถ้ามาเกิดกับคู่ชายหญิง คำถามที่มาจากฝ่ายชายก็คงน้อย และบางคนก็อาจจะชอบเสียด้วย ในขณะที่ส่วนใหญ่ของฝ่ายหญิงจะรู้สึกอึดอัดและลำบากใจ (กรณีที่คุณเป็นผู้หญิงธรรมดาที่ไม่ใช่ดาราหนังเอกซ์หรือช่ำชองอะไรมากมาย) นะครับ และมักส่งผลให้ฝ่ายหญิงปฏิเสธการกระทำหรือถูกกระทำดังกล่าวไป ในความเป็นจริงแล้วการกระทำออรัลเซ็กส์นั้นก็เป็นวิธีการหนึ่งที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายมีความสุข ไม่ใช่เรื่องที่แปลกประหลาดอะไรถ้าไม่ได้ทำอย่างพิสดารมากนัก(ขออนุญาตไม่อธิบายวิธีการที่พิสดารเพราะไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญ และคงไม่เหมาะสมที่จะนำมาเขียนนะครับ) นอกจากนี้สิ่งที่ทั้งคู่มักกังวลในเรื่องของความสะอาดก็จะต้องมีการเตรียมตัวที่ดีพอก็คงไม่มีปัญหาอะไร (ถ้าเป็นกิจกรรมทางเพศของคู่ของคุณจริงๆ ) แต่ถ้าเป็นการกระทำออรัลเซ็กส์กับคนแปลกหน้าหรือเปลี่ยนคู่บ่อยๆ โดยขาดความระมัดระวังที่ดีพอก็มีโอกาสติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้เช่นกัน

คำถามที่พบบ่อย ในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์
6.จะใช้เวลาในการท่องเที่ยวนานแค่ไหนดี
อย่าเพิ่งคิดว่าเขียนผิดเรื่องหรือออกนอกเรื่องนะครับ คือหลายคู่กังวลว่าตนเองใช้เวลาน้อยไปในกิจกรรมทางเพศ หรือใช้เวลามากไปจนอีกฝ่ายรู้สึกเหนื่อยและเบื่อ ไม่มีสูตรสำเร็จหรือมาตรฐานนะครับว่าระยะเวลานานแค่ไหน เป็นปัจจัยของแต่ละตัวบุคลคนนั้นเอง เช่น บางคนกว่าจะสำเร็จใช้เวลานาน หรือบางคนเร็ว ก็แล้วแต่ แต่สิ่งที่ควรจะทำและควรสังเกตค ือควรสังเกตอีกฝ่ายหนึ่งว่าเขามีความสุข ความพึงพอใจมากน้อยขนาดไหน อย่ามัวแต่คิดถึงเรื่องของตนเองมากเกินไป เพราะเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องของคนสองคน มิใช่เรื่องของคนใดคนหนึ่งควรใส่ใจซึ่งกันและกัน เพราะฉะนั้นบางคนอาจท่องเที่ยวในประเทศไทยก็มีความสุขมากแล้ว แต่บางคนบอกว่าอยากใช้เวลานานๆ ไปให้ถึงยุโรปหรืออเมริกา ก็ไม่ว่ากันขึ้นอยู่กับ “ความต้องการ” และ “กำลัง” ของทั้งสองฝ่ายด้วยเช่นกัน

7.การดื่มน้ำอสุจิจะเป็นอันตรายหรือเปล่า
เป็นคำถามยอดฮิตอีกเช่นเดียวกัน แต่ไม่อยากใช้คำว่าดื่มหรอกนะครับเพราะว่าการดื่มใช้สำหรับของเหลวที่มีปริมาณมากพอในระดับหนึ่ง แต่ความจริงน่าจะใช้ว่า “กลืน” น่าจะดีกว่า

มีหลายคู่ที่แสดงความรักกันอย่างดูดดื่มจนต้องการให้อีกฝ่ายหนึ่ง “ดื่ม” หรือ “กลืน” ลงไปด้วย ถ้าเป็นความต้องการหรือความพึงพอใจก็คงไม่เป็นไรครับ แต่ความเชื่อที่ว่าจะให้ผิวพรรณผ่องใส เปล่งปลั่งนั่นคงไม่จริง ยังไม่มีใครทดลองเป็นงานวิจัย (ยังคิดไม่ออกเลยว่าถ้าเป็นการศึกษาวิจัย จะทดลองกันอย่างไรด้วย คงลำบากน่าดู) แต่มีการศึกษาที่พบว่าในการมีเพศสัมพันธ์นั้นจะทำให้หัวใจสูบฉีดโลหิตได้ดีและเลือดไปเลี้ยงเซลล์ต่างๆ ดีขึ้น จึงดูเปล่งปลั่งเหมือนคนที่ออกกำลังกายนั่นล่ะครับ แต่ก็อย่าเพิ่งคิดเลยต่อไปว่าต่อไปนี้จะออกกำลังกายในร่มแบบนี้มากๆ จนลืมออกกำลังกายกลางแจ้งไปเลย อันนี้ก็ไม่รับประกันนะครับว่าจะดีหรือเปล่า เอาเป็นว่าพอดีๆ ก็น่าจะพอ วกกลับมาเรื่องการดื่มอีกครั้ง ความจริงน้ำอสุจิมีสารอาหารเพียงปริมาณเล็กน้อยเท่านั้นไม่มีความจำเป็นต่อร่างกาย เพราะอาหารที่รับประทานแต่ละวันเพียงพออยู่แล้ว ส่วนเรื่องอันตรายมีหรือไม่นั้น อาจจะมีก็ได้ครับ ถ้าในช่องปากมีแผล (แม้กระทั่งแผลเล็กๆ ที่มองไม่เห็น) ก็อาจเสี่ยงต่อการติดโรคได้ ถ้าคู่นอนมีโรคอยู่ (ซึ่งบางทีอีกฝ่ายหนึ่งก็ไม่รู้) แต่ที่แน่ๆ คุณผู้ชายคงทราบว่ากลิ่นของน้ำอสุจินั้นจริงๆ แล้วก็ไม่น่าพึงปรารถนาสำหรับคุณผู้หญิงอยู่แล้ว ถ้าสงสารเขาว่าจะเหนื่อย หรือกระหายน้ำก็ลองเตรียมน้ำหวานหรือน้ำผลไม้หอมๆ ไว้ในห้องน่าจะดีกว่ากระมัง

8.จุดสุดยอดเป็นอย่างไร
ผู้ชายคงไม่ถามแล้วนะครับ ยกเว้นเด็กวัยรุ่นที่เพิ่งเริ่มเป็นหนุ่มกันใหม่ๆ แต่จะขอเขียนสำหรับคุณผู้หญิง มีหลายคนถามและก็ทำท่าอายๆ เพราะไม่รู้ว่าจะพูดดีหรือเปล่า ที่บ้านก็ไม่เห็นพูดกัน หญิงไทยควรระมัดระวังคำพูดแบบนี้ (แต่เคยได้ยินหญิงไทยบางคนพูดยิ่งกว่านี้ หนุ่มไทยยังอายม้วนไปเลยก็มี)

จุดสุดยอดหรือจุดไคลแม็กซ์ที่เขาพูดกันก็คือ การที่ร่างกายของคนเรามีการตอบสนองทางการกระตุ้นทางเพศจนถึงจุดหนึ่งที่มีความรู้สึกเสียวสุดขีดหรือมีการปลดปล่อยความอัดอั้นออกมาจากร่างกาย ซึ่งคุณผู้ชายนั้นก็จะมีการหลั่งน้ำกามหรือน้ำอสุจิ ส่วนผู้หญิงก็จะมีการเกร็งไปทั่วตัวและมีความเสียวซ่านในร่างกาย (ขออภัยที่ไม่สามารถบรรยายความรู้สึกได้หมดหรือละเอียดพอ เพราะผู้เขียนไม่เคยมีประสบการณ์ของคุณผู้หญิง เอาเป็นว่าตามที่หนังสือเขาเขียนไว้ก็แล้วกัน) ดังนั้นการที่ผู้หญิงมีข้อจำกัดหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการแสดงออกทางเพศ หรือการพูดถึงเรื่องนี้ และตัวผู้ชายเองบางคนก็ไม่ทราบหรือไม่ใส่ใจเรื่องความสุขสุดยอดของผู้หญิง ก็มักจะคิดแต่เรื่องว่าตนเองจะเรียบร้อยเมื่อไหร่เป็นพอ พอเสร็จแล้วก็ถือว่าจบเกม ทั้งๆ ที่ฝ่ายหญิงยังค้างอยู่ หรือรู้สึกว่าไม่เห็นมีความสุขเลย เจ็บตัวเปล่าๆ คุณเชื่อไหมครับมีผู้หญิงจำนวนหนึ่งที่ทั้งชีวิตที่เคยมีเพศสัมพันธ์มายังไม่เคยรู้ว่าจุดไคลแม็กซ์หรือจุดสุดยอดคืออะไร น่าสงสารจริง ดังนั้นความสุขจากการมีเพศสัมพันธ์นั้นหลักของความเป็นจริงก็คือ การที่อีกฝ่ายหนึ่งมีความสุขก็จะทำให้ตัวเราเองมีความสุขด้วยและพร้อมที่จะจูงมีกันเดินขึ้นสวรรค์ด้วยกัน เรื่องทางเพศถ้าเห็นแก่ตัวอย่างเดียวรับรองไปด้วยกันได้ไม่นานนะครับ

คำถามที่พบบ่อยหลังการมีเพศสัมพันธ์
9.ควรจะมีสักกี่ครั้งถึงจะเหมาะสม
หลังจากเสร็จกิจกรรมทางเพศไปแล้วก็มักจะมีคำถามเล็ดลอดหรือเปรยๆ ว่าน่าจะมีต่ออีก เรื่องนี้บางคนก็กังวล บางคนก็มีความเชื่อผิดๆ เคยมีคนมาเล่าให้ฟังว่า ถ้าสิบครั้งเป็นอมตะ คุณครับผมว่าจะ “มตะ” หรือเสียชีวิตได้นะครับ จริงๆ เรื่องธรรมชาติของมนุษย์โดยเฉพาะผู้ชายมักจะเป็นผู้กำหนดความถี่ของการมีเพศสัมพันธ์เสียเป็นส่วนใหญ่ เพราะหลังจากที่ถึงจุดสุดยอดแล้วนั้น ผู้ชายจะมีเวลาที่ต้องพักยกก่อนสักช่วงหนึ่ง จะมากจะน้อยขึ้นอยู่กับความแข็งแรง และวัยของแต่ละคน ส่วนผู้หญิงนั้นโดยธรรมชาติสามารถสร้างให้มีการถึงจุดสุดยอดได้หลายครั้งในเวลาไล่เลี่ยกัน (ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ชายอิจฉาก็ตรงนี้ล่ะ) อย่างไรก็แล้วแต่ก็ควรจะถามความพร้อมของทั้งสองฝ่ายจะดีกว่าว่าจะต่อหรือไม่ต่อ ให้เห็นอกเห็นใจและเข้าใจเรื่องความพร้อมทางด้านร่างกายและจิตใจด้วย เอาเป็นว่ายึดทางสายกลางไว้จะดีกว่า เพราะบางครั้งคนที่ขอมีซ้ำกลับไม่ใช่ผู้ชายแต่เป็นผู้หญิงแทน ถ้าผู้ชายเข้าใจก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าพอชายรู้สึกพอแล้วแต่ผู้หญิงขอเพิ่ม อาจมีการค้อนใส่กันและตามมาด้วยทัศนคติที่เป็นลบต่อฝ่ายหญิงได้ เอ้า...คราวนี้กลายเป็นเรื่องอีกครับ !

10. จะท้องหรือเปล่า
ข้อสุดท้ายนี้เขียนเป็นน้ำจิ้มเพิ่มรสชาติเท่านั้นเองเป็นคำถามที่ไม่น่าถาม แต่คุณเชื่อไหมครับว่าก็ยังมีคนถามบ่อย จนคนที่ถูกถามหรือฟังเรื่องนี้ผมเชื่อว่า 80-90 % หัวเราะและอยากด่ากลับไปด้วย (ไม่ขออธิบายว่าด่าว่าอะไรบ้างนะครับ)

การมีเพศสัมพันธ์อย่างมีสตินำมาซึ่งความสุขความพึงพอใจ แต่ถ้าเมื่อไร สติถูกอารมณ์บดบังแล้ว ความเสี่ยงก็จะตามมาไม่เฉพาะเรื่องการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์เท่านั้น แต่การติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์นั้นน่ากลัวไม่แพ้กัน การป้องกันมีวิธีที่ไม่ยากเลย เช่น การใช้ถุงยางอนามัย ซึ่งสามารถป้องกันได้ทั้งสองอย่างดังที่กล่าวมา แต่คุณคงทราบว่าก็มีอีกหลายคู่ที่สติ สตางค์ล่องลอยหาไม่เจอ แล้วอ้างเหตุผลต่างๆ นานา จนต้องมากลุ้มใจภายหลังจากมีความสุขไปแล้ว ใครจะช่วยได้ ก็ต้องคิดกันต่อไป


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์