เมื่อวันที่ 27 มีนาคม ที่ผ่านมา สำนักข่าวเอพี รายงานว่า ท่าอากาศยานในกรุงนิวยอร์ก กำลังจะตั้งกฏการปรับผู้โดยสาร ที่ไม่ปิดอุปกรณ์สื่อสารและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บนเครื่องบิน ทั้งแท็บเล็ตและโทรศัพท์มือถือ เนื่องจากการเปิดอุปกรณ์ดังกล่าว จะส่งผลรบกวนต่อการบิน และทำให้เครื่องบินต้องดีเลย์
ทั้งนี้ ผู้บริหารสนามบินของรัฐนิวยอ์กและรัฐนิวเจอร์ซีย์ กล่าวว่า ขณะ นี้ ทางหน่วยงานด้านการบิน กำลังพิจารณากฏในการปรับผู้โดยสาร เป็นเงินจำนวนประมาณ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ หากเป็นผู้ที่มีพฤติกรรมที่อาจทำให้เครื่องบินดีเลย์
โดยนายแพท ฟอย ออกมาเปิดเผยว่า การ ตั้งกฏดังกล่าว ถือเป็นสิ่งที่ถูกต้อง หากคิดคำนวนกับเม็ดเงินที่เสียไปเนื่องมาจากเครื่องบินดีเลย์ การสร้างความวุ่นวายให้กับผู้โดยสารคนอื่น ๆ และผลกระทบต่อสนามบินที่ต้องรองรับผู้โดยสารกว่า 100 ล้านคนต่อปี
นอกจากนี้ นายฟอย ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อปีก่อน เจ้าหน้าที่สนามบิน ได้รับแจ้งกว่า 400 ครั้ง ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับผู้โดยสารปฏิเสธที่จะปิดเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ ในสนามบินชื่อดังอย่าง สนามบินนานาชาติจอห์น เอฟ เคนเนดี้ และสนามบินนานาชาติ ลากัวเดีย แอนด์ นิววาร์ค ลิเบอร์ตี้ ซึ่งสนามบินในกรุงนิวยอร์กนั้น ถือได้ว่าเป็นสนามบินที่มีผู้คนหนาแน่นที่สุดแห่งหนึ่งของอเมริกา และ หากเกิดเครื่องบินดีเลย์จากเพียง 1 แห่ง ใน 3 แห่งของสนามบินในเมืองนี้ ก็อาจจะส่งผลเสียต่อการบินทั่วโลกได้ ดังเช่นกรณีที่เกิดขึ้นในเดือนมกราคมปี 2009 เมื่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ต้องปิดเทอร์มินัลนานกว่า 6 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม ประเด็นการใช้เครื่องมือสื่อสารบนเครื่องบิน ได้กลายมาเป็นที่สนอกสนใจของสาธารณะอีกครั้ง เมื่อ อเล็ก บอลวิน นักแสดงฮอลลีวู้ดชื่อดัง ไม่ยอมที่จะปิดโทรศัพท์มือถือ ทั้งที่การใช้เครื่องมือสื่อสารบนเครื่องบินในขณะที่เครื่องกำลังบินขึ้น หรือลงจอดนั้น ถือเป็นพฤติกรรมต้องห้าม และก็ได้มีการประกาศเตือนผู้โดยสารทุกคนบนเครื่องแล้ว ทำให้เขาถูกปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่องที่บินจาก ลอสแองเจลิสไปนิวยอร์ก ซึ่งต่อมา บอลวิน ได้ออกมาขอโทษผู้โดยสารของสายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ จากการที่เขาเป็นเหตุทำให้เครื่องบินดีเลย์ในวันนั้น
นิวยอร์กจ่อปรับคนไม่ปิดเครื่องมือสื่อสาร ทำเครื่องบินดีเลย์
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!