อวัยวะหลายอย่างของสตรีที่ใช้เป็นที่ดึงดูดทางเพศได้ แต่ที่มักจะมองข้ามกันไปก็ได้แก่สะดือนี่แหละ ทั้งๆ ที่ประจำอยู่บริเวณหน้าท้อง อีกทั้งตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างส่วนเพศทั้งบนและล่าง และก็มีรูปแบบเฉพาะตัวโดยเป็นลักษณะแต่ละคนที่ไม่เหมือนกันทั้งรูปลักษณ์และสัณฐาน
"สะดือ" โดยหน้าที่คือใช้ในการถ่ายทอดอาหารและทางเชื่อมต่อระหว่างแม่กับลูกหรือทารกในครรภ์มารดาเท่านั้น เพราะเนื่องจากเป็นเรื่องของมารดาและเจ้าชะตา ดังนั้น แม่หรือมารดาจึงเป็นเรื่องสำคัญของเจ้าชะตา ซึ่งตามปรัชญาของวิชาโหราศาสตร์เขาจึงให้สะดือมีดวงจันทร์ ครอง อวัยวะนี้ ซึ่งจันทร์นั้น มีความหมายแปลว่า ‘มารดา ภรรยา เพศหญิง’ และในทางมหภาค วงกว้าง ก็แปลว่า ‘ประชาชน’ ก็ได้
เนื่องจากสะดือนั้นใช้เป็นอวัยวะสำคัญเฉพาะในช่วงเป็นทารกในครรภ์ อุปมาเปรียบเหมือนพลังชีวิตสำรองมาแต่ดั้งเดิม ถ้าสะดือมีรูปทรงสมบูรณ์สวยลงตัว อีกทั้งบริเวณที่ตั้งของสะดือได้แก่หน้าท้องบริเวณนั้น อวบอิ่มสมบูรณ์สมทรงกับโครงกายและมีขนอุยขึ้นรอบสะดือ
รวมไปถึงการดูแลรักษาความสะอาดในรูสะดือที่ดี จะทำให้เจ้าชะตามีฐานะอุดมสมบูรณ์ ตามวงจรและสิ่งแวดล้อมสังคมที่ไปอาศัยอยู่ อีกทั้งมีร่างกายพลานามัย ดีมีสุขภาพแข็งแรง
เนื่องจากมีพลังชีวิตสำรองเดิมพรั่งพร้อม ถ้าเป็นเพศหญิงก็จะเปรียบได้กับเป็นแม่พันธุ์ที่ดี สามารถมีบุตรที่แข็งแรงและเลี้ยงลูกเก่ง ซึ่งมีผลอย่างมากต่อการสืบทายาทโดยหลักการนี้ใช้กันมาตั้งแต่ในสมัยโบราณ
และในทางตรงข้ามการบอกสุขภาพและความอดทนต่อสภาพแวดล้อมที่แปรเปลี่ยนความอึดและการอดทน ก็สามารถที่จะพิจารณาไปถึงความย่อหย่อนทางกายภาพที่ไม่แข็งแรง ผู้ที่รู้ที่ศึกษามาเพียงแค่พิจารณาจากเฉพาะรูปร่างสะดือก็สามารถที่จะบอกเป็นไปได้สูง
ลักษณะของสะดือ มี 2 มิติหลักได้แก่
1. สะดือปูด หรือทรงภูเขา หรือ ที่เรียกว่า สะดือจุ่น หรือสะดือแนวหยางเชิงรุก
2. สะดือเป็นเหว หรือหลุมลึก หรือที่เรียกว่าสะดือโบ๋ หรือสะดือแนวหยินเชิงรับ
ในคนที่สะดือจุ่นนั้น จะชอบสังคม มีบุคลิกเชิงรุก ใจร้อน เปิดเผยตัวเอง มีความกระตือรือร้นมาก ยิ่งในเรื่องความรักนั้นเป็นคนเปิดเผย จริงจัง แสดงออกก่อนว่ารักว่าชอบ ใจถึงนักเลง กล้าได้กล้าเสียและไม่คร่ำครึอยู่กับกรอบของประเพณีและสังคม ตามใจตนเองเป็นใหญ่
ส่วนคนสะดือโบ๋ นั้น จะชอบตั้งรับ มีหัวอนุรักษ์นิยม เก็บตัว น้ำนิ่งไหลลึก อ่านใจยาก มีชั้นเชิงสูง พูดน้อยแต่เมื่อพูดก็มีคำคมออกมาให้คู่สนทนาต้องขบคิด เก็บตัวมีโลกส่วนตัวที่เข้าถึงยากแต่ จริงจังและจริงใจ
ในเรื่องความรักนั้นเป็นคนคบคนน้อยแต่คบสนิทและลึกซึ้ง จริงจัง รักแล้วมั่นคง แต่ต้องใช้เวลาและวิธีการในการเปิดใจให้ยอมรับก่อน จึงจะสนิทสนมด้วย สิ่งที่แสดงออกกับสิ่งที่เป็นจริงจะไม่เหมือนกัน
นอกจากนี้จะต้องพิจารณาองค์ประกอบร่วมของสะดือทั้งโบ๋และจุ่นอีกว่ามีรูปแบบอะไรที่ผันแปรเข้ามาอีกบ้าง ซึ่งรูปแบบพวกนี้จะได้แก่
1. ขนาดของรูสะดือใหญ่ เล็ก หรือพอสวยงามดีรับกับสภาพหน้าท้องเป็นหลัก
รูสะดือใหญ่ เป็นคนใช้ชีวิตฟุ่มเฟือย เหนื่อยล้า เคร่งเครียด หักโหมทำงานในการดำเนินชีวิต
รูสะดือเล็ก ก็เป็นคนรักสะดวกสบาย มีชีวิตเรื่อยๆ เฉื่อยๆ เป็นสุขนิยมและมักจะอายุยืน สุขภาพดี เพราะถนอมพลังการใช้พลังงานสำรองของชีวิตไว้ตามนิสัย
รูสะดือปานกลาง ดูสวยงามจึงเป็นที่รู้จักใช้ชีวิตเป็น สมดุลทำให้ไม่ลำบากจนเกินไปในการดำเนินวิถีชีวิตที่ได้สมดุล
2. การเชิดและการกดลงต่ำของรูสะดือ หรือที่เป็นสำนวนว่า สะดือหงายและสะดือคว่ำนั่นเอง
สะดือหงายนั้น หมายถึงสะดือเชิดขึ้น รูสะดือชี้เฉียงขึ้นบน จะเป็นคนชอบอวด มุ่งมั่นมีเป้าหมาย และมักใหญ่ใฝ่สูง ข้อเสียคือ ขี้อิจฉา และทุกข์ตรมเพราะความทะเยอทะยาน
สะดือคว่ำนั้น รูสะดือมีลักษณะชี้คว่ำต่ำลงพื้นดินเป็นมุมก้มจากแนวระนาบพื้น เป็นคนเชิงปฏิบัติ สม่ำเสมอ เฉยๆ สมถะ พอเพียงไม่พิถีพิถันจู้จี้ ใจเย็นและอดทนรอคอยได้ แต่มีความสุขในวิถีชีวิตและครอบครัว
ดังนั้นเรื่องสะดือจึงไม่ใช่เรื่องเล็กๆ สามารถที่จะบ่งบอกนิสัยและวิธีการดำเนินชีวิตได้ถ้าศึกษาอย่างมีหลักการ เพราะปราชญ์โบราณท่านวางหลักการไว้แบ่งนิสัยใจคอ ของมนุษย์เอาไว้แล้ว แต่ทฤษฎีนี้โดยมากนำมาใช้เพื่อใช้ การเลือกคู่แบบคลุมถุงชน เพื่อหาสะใภ้หรือลักษณะเมียที่ดี
โดยมองเลยไปถึงการตั้งครรภ์ การเลี้ยงดูบุตรธิดา และนิสัยใจคอที่เข้ากันได้ของคู่บ่าวสาว ซึ่งหลักการนี้ตรงกันทั้งสายตะวันตกเช่น ฮินดูและอิสลาม และสายตะวันเช่นของจีน เพียงแต่ปัจจุบันนี้ระบบคลุมถุงชนได้ซาลงมากแล้วแต่การเลือกคู่ matching ทางอินเทอร์เน็ตกลับเฟื่องฟู
ที่มา ... เพนท์เฮ้าส์