รู้วิธีแบกเป้ ไปโรงเรียนอย่างปลอดภัย
ใกล้จะเปิดโรงเรียนกันอีกแล้ว เด็กๆ คงต้องรับบทหนักในการแบกเป้บรรจุหนังสือ และอุปกรณ์การเรียนกันอีกหน
ข้อดีของกระเป๋าเป้หลังนั้นอยู่ที่บรรจุของจำนวนมากได้ และสะพายไปไหนต่อไหนได้ สะดวก (หากไม่ใส่สิ่งของมากมายเกินความจำเป็นจนเกินตัว) การที่เด็กๆ แบกเป้ที่มีน้ำหนักมากเกินไปนั้นมีนักวิชาการด้านกายภาพบำบัดให้ข้อคิด เห็นไว้ว่า “การแบกเป้อย่างไม่ถูกท่า หรือว่าน้ำหนักเกินมากไปจะทำให้เด็กเพิ่มความเสี่ยง ในการบาดเจ็บเกี่ยวกับกล้ามเนื้อและโครงกระดูกได้” แมรี่ แอนน์ วิลมาร์ธ จาก มหาวิทยาลัยนอร์ธอีสเทิรน์ ยูนิเวอร์ซิตี ในบอสตัน กล่าวในรายงานสรุปหลังจากศึกษาเกี่ยวกับการแบกเป้หลังของนักเรียน
อาการบาดเจ็บนั้นเกิดขึ้นเมื่อตั้งท่าผิด
เช่น หลังโค้งงอ เอียงตัวไปข้างหน้า เอียงตัวไปข้างใดข้างหนึ่ง เมื่อพยายามแบกน้ำหนักที่มากจนเกินไป เมื่อเป็นอย่างนั้นก็จะทำให้กล้ามเนื้อต้องแบกภาระมากขึ้นเป็นพิเศษ เป็นสาเหตุให้เหนื่อยล้า ตึงที่คอ ไหล่ และเจ็บหลัง
อาจารย์วิลมาร์ธ ให้คำแนะนำในการแบกเป้หลังแก่เด็กไว้ด้วยว่า
เมื่อต้องใช้เป้ให้ดึงสายให้แนบกระชับกับตัวเพื่อกระจายน้ำหนักไปให้ทั่ว กับต้อง จัดท่าให้สมดุล ไม่เอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง การสะพายเป้ด้วยไหล่ข้างเดียวเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง เป้หลังควรแนบกับตัวไม่แกว่งไปมา ให้อยู่ตำแหน่งประมาณกลางหลัง อย่าห้อยต่ำลงมากจนเกินไป สำหรับ น้ำหนักกระเป๋าควรอยู่ที่ประมาณ 10-15 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักตัวเด็ก หรือน้อยกว่านั้นก็ได้ เวลาจัดกระเป๋าควรนำสิ่งของไปเท่าที่จำเป็น ของหนักให้ไว้ข้างล่าง และเด็กๆ ควรจะต้องทำตัวให้แอคทีฟเข้าไว้ เพื่อให้กล้ามเนื้อมีความแข็งแรงและยืดหยุ่นพอ ที่จะแบกรับเป้หลังไปโรงเรียนได้อย่างปลอดภัย.