เดี๋ยวนี้คนเป็นโรคภูมิแพ้กันมากขึ้น นั่นก็เป็นเพราะปัจจัยหลายๆ อย่างในการดำรงชีวิต เช่น มลภาวะ หรือเรื่องของอาหารการกิน สำหรับคนที่มีอาการแพ้รุนแรงก็จะระมัดระวังมากขึ้นอยู่แล้วเป็นปกติ แต่สำหรับคนที่มีอาการเล็กๆ น้อยๆ มักจะมองข้ามสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการแพ้ไป
แต่คุณทราบไหมว่าโรคภูมิแพ้ โดยเฉพาะอาการแพ้ฝุ่นนั้น สาเหตุใหญ่ๆ มักมาจากสิ่งแวดล้อมใกล้ตัว โดยเฉพาะภายในบ้านหรือที่ทำงานนั่นเอง และหลายคนก็คงไม่ได้คาดคิดว่า ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้บางอย่างจะเป็นตัวการสำคัญ โดยเฉพาะ “พรม”
พรม ถือเป็นแหล่งสะสมฝุ่นและเชื้อโรคอันดับต้นๆ ของบ้านและที่ทำงาน ยิ่งถ้าบ้านหรือที่ทำงานไหนชอบเปิดเครื่องปรับอากาศทั้งวัน แถมยังไม่เคยเปิดประตูหน้าต่างเพื่อระบายอากาศเลย ซึ่ง นอกจากจะมีฝุ่นแล้ว พรมยังสะสมเชื้อราอีกด้วย ทั้งฝุ่นและเชื้อราไม่ได้ทำให้เราเจ็บป่วยอย่างรุนแรงทันที แต่จะค่อยๆ บั่นทอนสุขภาพที่ดีไปเรื่อยๆ จนวันหนึ่งก็แสดงอาการเจ็บป่วยรุนแรงออกมา
คนที่มีอาการแพ้ฝุ่นนั้นจะทำให้เยื่อจมูกอักเสบและบวม ทำให้มีอาการจาม คัดจมูก น้ำมูกไหล และอาจจะมีอาการเยื่อบุตาอักเสบ ไซนัส หรือคออักเสบด้วย แม้จะไม่ใช่อาการเจ็บป่วยที่รุนแรง แต่ก็ก่อความรำคาญให้ไม่น้อย ดังนั้นถ้าเลือกได้... ควรเลือกที่จะไม่ปูพรมในบ้านหรือที่ทำงานเลยจะดีที่สุด แต่ถ้าชอบพรม ก็อาจจะเลือกเป็นผืนเล็กหรือพรมแบบเคลื่อนย้ายได้ เพื่อให้ทำความสะอาดง่าย หรือถ้าปูพรมไปแล้ว การทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดปัญหาให้กับคนขี้แพ้(ฝุ่น) ได้มากทีเดียว เรามีเคล็ดลับง่ายๆ มาฝากกัน
-เปิดประตูและหน้าต่างห้องที่ปูพรมให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้อากาศถ่ายเทมากขึ้น
-ทำความสะอาดพรมด้วยการดูดฝุ่นบ่อยๆ โดยวิธีการดูดฝุ่นที่ถูกต้อง ควรลากเครื่องดูดฝุ่นอย่างช้าๆ และดูดฝุ่นในแต่ละจุดให้นานขึ้น เพื่อให้ฝุ่นและเชื้อราหลุดออกมาได้ทั้งหมด
-สำหรับพรมแบบที่เคลื่อนย้ายได้ ก็ควรนำไปผึ่งแดดอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง หรือซักแห้งทำความสะอาดให้บ่อยเท่าที่ทำได้
-ดูแลบ้านและที่ทำงานให้มีสุขอนามัยที่ดี เพียงเท่านี้ คุณก็จะเป็นคนร่างกายแข็งแรง สุขภาพดี ไม่เป็น “คนขี้แพ้” อีกต่อไป