ปัญญาแยกแยะตามจริง
ขอให้เรามองให้เห็นฝั่งความจริงที่เป็นอยู่
หากตอนนี้ไม่ค่อยมีเงินเราจะเป็นคนใช้จ่ายฟุ่มเฟือยแล้วคิดว่าเดี๋ยวเงินมาเองเช่นนั้นหรือหากเราเป็นโรคก็ต้องหาหมอ หรือคิดว่าอยู่ดีๆ โรคจะหายไปเองเป็นไปได้ไหม
การบำเพ็ญธรรมในยุคปัจจุบันนี้อาศัยตัวเองเป็นผู้บำเพ็ญเอง
หากเราไม่บำเพ็ญย่อมไม่ได้รับผล เจอปัญหาก็ไม่ใช่หนีปัญหา แล้วคิดว่ามันจะพ้น มีแต่ต้องสู้ต่อไป เมื่อเราก้าวหน้าแล้ว ก็ยังจะต้องให้ตัวเองก้าวหน้าต่อไปเรื่อยๆ เหนือฟ้ายังมีฟ้า ถ้าเราไม่เปรียบเทียบกันไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน ทุกอย่างก็จะราบรื่น หากทะเลาะกันยังใช้เหตุผลมาสู้กันได้ พอจบเรื่องจบราวก็อาจจะไม่รู้เรื่องอะไรกันอีก แต่หากว่าทุ่มเถียงกันอย่างคนไร้คุณธรรมคนเมื่อไม่มีคุณธรรมต่อกันไม่ว่าวันนี้ไม่ว่าวันไหน หากไม่มีเมตตา หากไม่รู้จักช่วยเหลือผู้อื่น อยากได้แต่ความสุขไม่รู้จักช่วยผู้อื่นแล้วความสุขนั้นจะมาจากไหนอยากให้ทุกคนใช้ปัญญาแยกแยะตามจริง ใช้สติ ใช้ความคิด ใช้จิตใจอันบริสุทธิ์สะอาดของเรา มาขัดเกลาจิตใจของตัวเราเอง เมื่อเราไม่ชอบให้คนอื่นว่าเรา ไม่ชอบให้คนอื่นติเรา เราจึงต้องติตัวเอง
เวลาอยู่ในที่มืดคนเดียว อย่าได้คิดทำในสิ่งไม่ดี
คิดว่าใครมองไม่เห็น ใครมองไม่เห็นก็ใช่ แต่เรามองเห็นตัวเองไหม จิตของเราเป็นจิตพุทธะ เมื่อคนอื่นมองไม่เห็น พุทธะนั้นมองเห็น ถ้าหากเราไม่มีจิตที่ลังเล สู้ต่อไป วันข้างหน้าของเราก็ถือพุทธะใช่หรือไม่ พุทธะต่างจากปุถุชนตรงไหน ปุถุชนนั้นคิดทุกอย่างเพื่อตัวเอง ทำเพื่อตัวเอง แต่หากว่าเรามีจิตเป็นพุทธะ ก็ทำทุกอย่างเพื่อคนอื่น
พระอาจารย์จี้กง
สถานธรรมจินจง จ.พิจิตร
18 มีนาคม 2544