“อาการบวมน้ำ” เรื่องเล็กๆ ที่ไม่ควรมองข้าม

“อาการบวมน้ำ” เรื่องเล็กๆ ที่ไม่ควรมองข้าม


ตื่นนอนตอนเช้า ลองสังเกตตัวเองว่ารู้สึกตัวตึงๆ หรือเปล่า  ดูบวมๆ อืด ผิดปกติกว่าทุกวัน ใส่เสื้อผ้ารู้สึกอึดอัดทั้งๆที่ยังไดม่ได้รับประทานอะไรเลยในช่วงนั้น  หากมีอาการเหล่านี้แสดงว่าคุณกำลังมีอาการของ “อาการบวมน้ำ”

“อาการบวมน้ำ” เกิดจากของเหลวที่ควรเดินผ่านหลอดเลือดและน้ำเหลืองกลับซึมเข้าสู่เซลล์และช่องว่างระหว่างเซลล์  เพราะร่างกายของคนเราจะสามารถรักษาระดับความสมดุลของน้ำในร่างกายได้ตามธรรมชาติ หากคุณมีพฤติกรรมที่ส่งผลต่ออาการบวมน้ำ เช่น ทานอาหารรสจัด  ดื่มจัด ขี้เกียจไม่ยอมลุกออกจากเตียงในวันนั้นของเดือน  การยืนนานๆ และการนั่งห้อยขา ก็ทำให้ข้อเท้าบวม

ส่วนอาการบวมน้ำก่อนมีประจำเดือน เกิดจากระดับฮอร์โมนแปรปรวนซึ่งมีผลต่อการทำงานของหลอดเลือดและต่อมน้ำเหลือง สาเหตุอื่นคือ เกิดจากโรคตับ โรคไต หรือภาวะหัวใจล้มเหลวได้ก็จะส่งผลให้เกิดอาการบวมน้ำขึ้นได้ ยิ่งไปกว่านั้นก็จะยิ่งทำให้น้ำหนักตัวของสาวๆ พุ่งขึ้นอีกด้วย

วิธีที่จะทำให้สาวๆ ลดอาการบวมน้ำได้มีดังนี้

ว่ายน้ำ –  การออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำจะสามารถช่วยบรรเทาอาการที่เกิดขึ้นได้ ดังที่เรียกว่า “หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง” เพราะน้ำในสระจะเป็นแรงดันน้ำส่วนเกินจากเนื้อเยื่อออกไปได้  และควรว่ายน้ำในอุณหภูมิ 27-32 องศาเซลเซียส สำหรับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์หลีกเลี้ยงน้ำที่มีอุณหภูมิสูงเกิน 37 องศาเซลเซียส

งดอาหารรสจัด – หลีกเลี่ยงอาหารประเภทนี้โดยเฉพาะอาหารรสเค็ม  ซึ่งความเค็มจะไปกระตุ้นให้ร่างกายกักเก็บน้ำเอาไว้จนกว่าไตจะทำหน้าที่ขับออกมา  ซึ่งกว่าไตจะขับออกมาก็ใช้ระยะเวลานานถึง 24 ชั่วโมง

ดื่มน้ำ-  พยายามดื่มน้ำให้มากขึ้น  ด้วยวิธีการจิบน้ำครั้งละเล็กน้อย  เพราะการดื่มน้ำเพิ่มเข้าไปจะช่วยให้อาการดังกล่าวลดลง  น้ำจะช่วยให้เราขับปัสสาวะและเจืองจางความเค็มออกจากร่างกายได้เร็วขึ้น

กินคื่นฉ่าย – คื่นฉ่ายถือเป็นสมุนไพรที่หาได้ง่าย  และยังมีสรรพคุณช่วยลดอาการบวมน้ำที่เกิดขึ้นได้ ด้วยการช่วยเร่งให้คุณปัสสาวะ บรรเทาอาการได้ดี

นอนยกเท้าขึ้นสูง –  ช่วยให้น้ำที่ขังอยู่ตามขาไหลกลับเข้าระบบไตเพื่อขับออกมาได้ง่ายขึ้น

สุดท้ายฝากคุณสาวๆ ช่วยเช็กอาการบวมน้ำของตัวเองให้ดีนะค่ะ  ด้วยการลองกดลงไปบริเวณผิวหนังของคุณดู หากลองกดแล้วผิวของเราบุ๋มลงไปแล้วกลับคืนสภาพช้าลง ควรรีบปรึกษาแพทย์


ขอบคุณ : woman plus

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์