ชุดชั้นในกับสุภาพสตรีเป็นของคู่กัน หากเราเลือกใส่ชุดชั้นในที่เหมาะสมกับรูปร่างสรีระ นอกจากจะช่วยให้มีรูปร่างดี เสริมความมั่นใจแล้วยังส่งผลดีต่อสุขภาพอีกด้วย แต่สำหรับสาว ๆ บางคนที่มีปัญหาไม่สามารถสวมใส่เสื้อชั้นในตามท้องตลาดได้ลองหันไปพึ่งชุดชั้นในสั่งตัดดู โดยวันนี้เคล็ดลับสุขภาพดีมีคำแนะนำจากช่างตัดชุดชั้นในเพื่อสรีระของคุณผู้หญิงมาฝากกันค่ะ
สุขศรี ใจเอื้อ เจ้าของร้านยกทรงสุขศรี แปดริ้ว ซึ่งเปิดมากว่า 40 ปี แนะนำว่า ส่วนใหญ่ผู้หญิงที่มาสั่งตัดชุดชั้นในจะมีปัญหาเกี่ยวกับรูปทรง เช่น ตัวอ้วนแต่เต้าเล็กหรือบางคนต้องการให้รูปร่างเข้ารูป ซึ่งลูกค้าที่มาต่างมีความต้องการหลากหลายทั้งอยากให้เพิ่มขนาดหน้าอกหรือลดขนาดลง ซึ่งจุดเด่นของการมาตัดชุดชั้นใน คือช่วยให้เกิดความกระชับเข้ารูปกับเต้านมของแต่ละคน เพราะบางคนเนื้อบริเวณใต้รักแร้โผล่มามากทำให้ใส่เสื้อผ้าไม่สวย ทำให้ไม่มั่นใจ จึงต้องมาตัดชุดชั้นในเพื่อช่วยแก้ไขในจุดนั้น
ปัจจุบันชุดบอดี้สูทที่ทำให้หน้าอกไปจนถึงหน้าท้องและต้นขากระชับเข้ารูปค่อนข้างได้รับความนิยม โดยกลุ่มลูกค้าได้แก่ ดารา,นักร้อง, นักแสดง, พริตตี้, แอร์โฮสเตส, เจ้าสาว หรือแม้กระทั่งผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ต้องตัดเต้าทิ้ง ซึ่งเดิมการตัดยกทรงบริเวณเต้านมนิยมให้เป็นเหลี่ยม แต่ช่วง 20 ปีหลังมักนิยมทรงเต้าแบบกลมมนและเสริมโครงให้ดูยกกระชับ ตลอดจนเนื้อผ้ามีความยืดหยุ่นมากขึ้นกว่าเดิม สำหรับผู้ที่มีหน้าอกใหญ่ไม่ควรใช้ผ้ายืดในการตัดเย็บทั้งหมดควรมีผ้าอื่น ๆ มาช่วยเสริมให้เนื้อไม่ถูกบีบรัดมากเกินไป ยิ่งถ้าเราใส่ชุดชั้นในขนาดเล็กจนเกินไปจะรู้สึกอึดอัดส่งผลเสียต่อสุขภาพ รวมทั้งทำให้หน้า อกผิดรูปทรง ที่สำคัญเกิดรอยกดทับบริเวณใต้อก เป็นสาเหตุหรือปัจจัยที่เสี่ยงต่อโรคมะเร็งเต้านม แต่ถ้าใส่ขนาดใหญ่เกินไปไม่พอดีกับเต้าก็จะทำให้หน้าอกหย่อนคล้อยก่อนวัยและไม่ได้รูปเมื่อสวมใส่เสื้อผ้า
การใช้งานของผู้ที่จำเป็นต้องใช้ชุดชั้นในแบบสั่งตัดแบ่งเป็น 5 ประเภทได้แก่
1. ใช้ในชีวิตประจำวัน เน้นผ้ายืดหยุ่นใส่สบายตามความเหมาะสม และชุดบอดี้สูทช่วยเก็บตะโพกได้ทั้งตัว
2. ใช้ในการออกงาน เน้นลวดลายและความต้องการของลูกค้าไม่ว่าจะเป็นขยายขนาดเต้าหรือลดบริเวณเต้าลง
3. เจ้าสาว เน้นตัดเป็นเกาะอกหรือต่อเป็นกระโปรงเก็บส่วนต่าง ๆ บริเวณเต้าให้เข้าที่
4. พริตตี้และสาวประเภทสอง กลุ่มนี้บางส่วนต้องการตัดเพื่อให้มีหน้าอกหรือเข้ารูปพอดี ซึ่งสาวประเภทสองเน้นความใหญ่ของหน้าอกโดยไม่ต้องไปศัลยกรรม
5. ผู้ป่วยมะเร็งเต้านม กลุ่มนี้จะใช้วัสดุที่มีความนุ่ม ยืดหยุ่นและกระชับนำมาแทนเต้าที่สูญเสียไปเพื่อให้ผู้ใส่เกิดความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน
ด้าน สมจิตร์ เนติธรรมากร รองผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์ชุดชั้นใน บริษัท ไทยวาโก้ จำกัด (มหาชน) ให้ความรู้ว่า จากการสำรวจย้อนหลังไป 5 ปี พบว่าผู้หญิงไทยมีหน้าอกและช่วงเอวที่ใหญ่ขึ้น จากเดิมเคยใส่คัพเอมาก ปัจจุบันเริ่มลดลงกลายเป็นใส่คัพบีถึงดี สอดคล้องกับช่วงเอวที่มีความหนาขึ้น ส่งผลต่อหน้าอกทำให้ผู้หญิงส่วนใหญ่มีปัญหาการเลือกสวมใส่ชุดชั้นในตามท้องตลาดไม่ได้ จึงต้องใช้บริการตัดชุดชั้นในโดยเฉพาะผู้ป่วยมะเร็งเต้านม หากมีหน้าอกใหญ่อยู่แล้ว เมื่อตัดออกไปอาจสูญเสียการทรงตัวจะเห็นได้ว่าไหล่ข้างที่ทำการผ่าตัดจะเอียง ดังนั้นการทำเสื้อชั้นในประเภทนี้จะมีการใส่ถุงเสริมเพื่อเพิ่มความบาลานซ์ สำหรับผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่ต้องตัดเต้าหากไม่มีทุนทรัพย์ในการตัดซื้อชุดชั้นในสามารถเข้าร่วมโครง การกับวาโก้โบว์ชมพู โดยทางบริษัทจะตัดยกทรงให้ฟรี เพียงกรอกเอกสารเพื่อรับการพิจารณาที่บูธขายชุดชั้นในวาโก้
อย่างไรก็ตามปกติแล้วอายุการใช้งานของชุดชั้นในมีประมาณ 6 เดือน ถ้าใส่ไม่บ่อยอาจยืดได้ถึง 1 ปี เพราะขนาดหน้าอกเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา หรือมีวิธีสังเกตดังนี้ เนื้อผ้าเริ่มไม่มีความยืดหยุ่นและไม่มีความกระชับเหมือนเคย เต้าทรงยับมีคราบดำ ๆ คล้ายเชื้อรา รอยต่อของตะขอเริ่มชำรุด ยางยืดย้วย โครงทะลุออกมานอกตัวเสื้อชุดชั้นใน หากเป็นเช่นนี้ควรเลิกใส่เพื่อสุขภาพของทรวงอก
สาว ๆ ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น มักปวดเมื่อยหลัง ไหล่ บ่าบ่อย ๆ แบบไม่ทราบสาเหตุลองปรึกษาช่างตัดเย็บชุดชั้นในหรือลองปรับเปลี่ยนขนาดชุดชั้นในที่เคยสวมใส่ดู เพราะร่างกายเราเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อาจอ้วนหรือผอมลง หากสวมใส่ชุดชั้นในที่คับเกินไปจะทำให้ร่างกายถูกกดทับจนมีอาการปวดเมื่อยตามจุดต่าง ๆ หรือถูกบีบรัดที่หน้าอกนาน ๆ อาจทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับระบบหายใจ ส่งผลต่อสุขภาพร่างกายในอนาคตได้ค่ะ.