สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานผลสำรวจร่วมกับ Ipsos พบว่า 4 ใน 5 ของผู้ใช้งาน Facebook นั้น ไม่เคยซื้อสินค้าหรือบริการที่โฆษณาอยู่ในเว็บเลย นอกจากนั้น ผลสำรวจยังพบว่า 34% ของผู้ใช้งานใช้เวลากับ Facebook น้อยลงในช่วง 6 เดือนหลังสุด มีเพียง 20% เท่านั้นที่ใช้งานมากขึ้น
ผลสำรวจนี้ทำการสำรวจจากกลุ่มตัวอย่างชาวอเมริกันจำนวน 1,032 คน โดย 20% บอกว่าไม่มีบัญชี Facebook
แม้ว่าในการสำรวจจะไม่ได้สอบถามถึงรูปแบบการโฆษณาที่มีผลต่อการตัดสินใจ แต่รอยเตอร์อ้างรายงานจากผลการวิจัยของ eMarketer ว่าการโฆษณาใน Facebook นั้น มีผลต่อการตัดสินใจน้อยกว่า email หรือ direct-mail marketing ซะอีก
นี่อาจเป็นเหตุผลให้ General Motors ซึ่งเป็นผู้โฆษณารายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ในอเมริกา ตัดสินใจเลิกโฆษณาบน Facebook
ด้าน Facebook ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในเรื่องนี้ แต่อ้างถึงบริษัทอย่าง Nutella ว่ายอดขายเพิ่มขึ้นถึง 15% จาก Facebook หรือ chain ร้านอาหารอย่าง Applebee ที่มีผลกำไรถึงสามเท่าจากการลงโฆษณาใน Facebook
การวัดผลที่เกิดจากการโฆษณาอาจทำได้ค่อนข้างยาก โดยเฉพาะการโฆษณาเพื่อการสร้าง brand นั้น มักมีเป้าหมายมุ่งให้เกิดการซื้อในอนาคต มากกว่าการซื้อในทันที
มีกลุ่มตัวอย่าง 2 ใน 5 ที่กล่าวว่าใช้ Facebook ทุกวัน เกือบครึ่งนึงบอกว่าใช้ Facebook เท่าๆ เดิมในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
ตามผลสำรวจ กลุ่มผู้ที่ใช้ Facebook บ่อยที่สุดอยู่ในช่วงอายุ 18 - 34 ปี โดย 60% ในกลุ่มนี้เป็นผู้ใช้งานเป็นประจำทุกวัน ส่วนกลุ่มที่มีอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไป มี 29% ที่ใช้งานทุกวัน
ในจำนวน 34% ที่ตอบว่าใช้ Facebook น้อยลงนั้น ให้เหตุผลว่าเริ่มเบื่อแล้วนั่นเอง