ช่วงนี้มีข่าวคนถูกน้ำกรดฉีดใส่บ่อยๆ ก็เลยเจอวิธีการดูแลแผลหลังถูกน้ำกรด เอามาฝากกัน
- เมื่อถูกน้ำกรดฉีดใส่ ถ้าเป็นกรดชนิดเข้มข้นสูงจะมีอาการแสบร้อนทันที แต่ถ้าความเข้มข้นไม่สูงมาก อาจจะแสบร้อนหลังโดนฉีดประมาณ 10 วินาที
- ถ้าสงสัยว่าถูกน้ำกรดฉีดใส่ อย่าตกใจ ให้ควบคุมสติไว้ก่อน อย่าพยายามเอามือไปป้ายออกหรือขยี้ กรดจะยิ่งกระจายไปโดนผิวหนังเป็นบริเวณกว้างขึ้น
- ถ้าเป็นไปได้ให้ใช้น้ำสบู่อ่อน ๆ ล้างทันที เพื่อทำลายฤทธิ์ของกรด แต่ถ้าไม่มีให้น้ำสะอาดล้างก็ได้ แต่ไม่ควรถูบริเวณที่ถูกกรดสาดใส่
- การล้างผิวหนังบริเวณที่ถูกกรด ควรใช่น้ำสบู่หรือน้ำสะอาดปริมาณมากค่อย ๆ เทใส่แผลโดยระวังไม่ให้โดนผิวหนังบริเวณใกล้เคียงเท่าที่จะทำได้
- การถูผิวหนังบริเวณที่ถูกกรดสาดใส่อาจทำให้กรดกระจายไปที่ผิวหนังบริเวณใกล้เคียง หรือทำให้ผิวหนังที่ไหม้จากกรดลอกออก เสี่ยงต่อการเป็นแผลเป็น
- หลังจากล้างแผลจนบรรเทาอาการแสบร้อนแล้ว ควรใช้ผ้าสะอาดพันหรือปิดทับบริเวณแผลเอาไว้ ไม่ให้เกิดการเสียดสีกับเสื้อผ้าหรือสิ่งของภายนอก
- รีบไปพบแพทย์เร็วที่สุดที่จะทำได้ เพื่อตรวจประเมินอาการ และให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไป
- ถ้าน้ำกรดที่ใช้สาดมีความเข้มข้นไม่สูงมาก ภายใน 1-2 วัน แผลที่ถูกน้ำกรดจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลหรือดำ ให้ทำแผลทุกวัน อย่าพยายามลอกสะเก็ดออก
- หลีกเลี่ยงการติดเชื้อ หรือถ้ามีอาการบวมแดง เจ็บ มีตุ่มหนองบริเวณแผล ต้องรีบกลับไปพบแพทย์ทันที
จะดูแลแผลอย่างไรดี เมื่อถูกน้ำกรดสาด
- โดยทั่วไปสะเก็ดแผลที่โดนน้ำกรดความเข้มข้นไม่สูงสาด จะลอกออกเองได้ในเวลา 7-10 วัน โดยไม่ทำให้เกิดแผลเป็น (ถ้าไม่มีการติดเชื้อ)
- ถ้าน้ำกรดที่ใช้สาดมีความเข้มข้นสูง แผลที่ถูกสาดอาจไหม้ลึกถึงผิวหนังแท้ ทำให้เกิดการติดเชื้อ มีหนองบริเวณแผลตามมา ควรทำแผลทุกวัน
- แผลจากการถูกสาดน้ำกรดชนิดเข้มข้นสูง เสี่ยงต่อการเกิดแผลเป็นมาก จึงควรดูแลรักษาด้วยแพทย์ บางกรณีอาจต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล
- ที่สำคัญที่สุดคือ ควรระวังเป็นอย่างยิ่งไม่ให้กรดเข้าตา หรืออย่าเอามือที่สัมผัสกับกรด หรือผิวหนังที่ถูกกรด มาขยี้ตาเป็นอันขาด
- การที่กรดมาสัมผัสกับกระจกตา จะทำให้เกิดภาวะกระจกตาขุ่น และมีผลต่อการมองเห็นได้
ที่มา...@DrRungsima
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!