ข้อมูล: Chocolate Hills แห่งนี้ เรียงรายครอบคลุมพื้นที่ราว 50 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยเนินเขาแบบเดียวกันกว่า 1,200 ลูก ท่ามกลางหญ้าเขียวขจี และเนินเขาจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลในช่วงฤดูแล้ง
ตำนาน: นานมาแล้ว มีควายยักษ์ ตัวเท่าเนินเขา เข้ามากัดกินพืชผักในทุ่งนาของชาวบ้านเสียหาย ชาวบ้านจึงช่วยกันคิดกลอุบายโดยหาอาหารบูดเน่ากองโตมาให้ควายยักษ์กินแทน เจ้าควายกลืนกินด้วยความตะกละและทันใดนั้นก็เกิดอาการท้องเสียอย่างรวดเร็ว จนวิ่งพล่าน ทิ้งกองอุจจาระเรี่ยราดไปทั่ว เมื่อมูลควายแห้งก็จำแลงเป็นเนินเขาช็อกโกแลตในบัดดล อืมม..หอมหวนมั้ย!?
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า: อย่ารับของจากศัตรูหรือคนแปลกหน้า
****************************************************************
สถานที่แปลก : 6. Tsingy, Madagascar
ข้อมูล: ใกล้กับชายฝั่งด้านตะวันตกของ Madagascar เป็นที่ตั้งของเขาหินปูน Tsingy ซึ่งมีรูปร่างประหลาด แหลมคมคล้ายกับเข็มยักษ์
ตำนาน: Sifaka (Sifaka คือสัตว์ในตระกูลลีเมอร์ อาศัยอยู่ที่ Madagascar) ได้รับของขวัญพิเศษจากเทพแห่งจันทรา ด้วยการเนรมิตสีขนให้เปล่งประกายเหมือนแสงแห่งจันทร์ ทำให้พวกมันรู้สึกภาคภูมิใจในความสง่างาม แต่ในขณะเดียวกัน “ขนเรืองแสง” อันโดดเด่น ก็ทำให้ Sifaka เป็นที่สังเกตและมองเห็นได้ง่าย ไม่ปลอดภัยจาก เจ้า Fossa จอมเจ้าเล่ห์ (แมวนักล่า) ในไม่ช้า พวกพ้อง Sifaka ก็ถูกกำจัดทิ้งอย่างน่าใจหาย เจ้าตัวที่เหลืออยู่จึงหาหนทางแห่งการรอดชีวิต ด้วยการสร้างที่หลบภัยในป่าหิน และขอความช่วยเหลือจากเทพแห่งจันทรา ด้วยความสงสาร เทพแห่งจันทราจึงเสกป่าหินธรรมดาให้กลายเป็นหินเข็มยักษ์ ซึ่งมีความแหลมคมมาก หากปีนป่ายไม่ระวัง มีดับอนาถขาดสองท่อน Tsingy แห่ง Madagascar จึงเป็นสถานที่ที่อยู่อาศัยได้ยาก แต่ก็มั่นใจได้ว่าปลอดภัยจากพวกนักล่าแน่นอน
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า: สถานที่ที่อันตรายที่สุดอาจเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด
****************************************************************
สถานที่แปลก : 5. Bear Rock (Devils Tower Monument), USA
ข้อมูล: ภูเขาหินยักษ์ Bear Rock (อนุสาวรีย์ปีศาจ) ซึ่งสูงตระหง่านจากพื้นดิน มีลักษณะพื้นผิวประหลาดเป็นร่องลึกยาวเป็นเส้นรอบด้าน
ตำนาน: กาลครั้งหนึ่ง มีเด็กผู้หญิง 7 คน เข้าไปวิ่งเล่นในป่า แต่กลับถูกไล่ล่าจากกลุ่มหมียักษ์ เด็กๆ จึงพากันหนีด้วยการปีนขึ้นเนินหินเล็กก้อนหนึ่ง ขณะเดียวกันหมีใจโหดก็ไม่ลดละ ใช้กรงเล็บจิกไต่เพื่อตามขึ้นไปหวังจะจับตัวให้ได้ เด็กหญิงช่วยกันสวดมนต์ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง และก็เป็นผล อำนาจลึกลับเสกเนินหินก้อนเล็กให้กลายเป็นภูเขาสูงเสียดฟ้า เหล่าหมีร้ายค่อยๆ ลื่นไถล ครูดตกลงไปทีละตัว ทิ้งไว้เพียงรอยเล็บรอบด้านของภูเขา และเมื่อเด็กหญิงทั้ง 7 ขึ้นสู่ท้องฟ้า ก็กลายร่างเป็น กลุ่มดาว Pleiades หรือ seven sisters ในบัดดล (บ้านเราก็คือ ดาวลูกไก่ นั่นเอง)
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า: ถ้าคิดจะสู้กับหมี ต้องแน่ใจว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง
****************************************************************
สถานที่แปลก : 4. Socotra Island, Yemen
ข้อมูล: Socotra Island แห่งนี้ อุดมไปด้วยสัตว์ป่าและพืชหายาก กว่า 700 สายพันธุ์
ตำนาน: บนเกาะเล็กกลางทะเลอาหรับ พระเจ้าผู้สร้างได้รังสรรค์โลกใหม่ซึ่งเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตสวยงามน่าหลงใหล และ “มังกร” คือสัตว์ที่บรรจงสร้างให้งดงามที่สุด เปรียบได้กับ ราชาแห่งเกาะ รูปร่างอัศจรรย์แต่เปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความโหดร้าย หลักจากนั้นหลายปี พระเจ้าลงมาเยือนเกาะแห่งนี้ แต่กลับไม่พบสิ่งมีชีวิตใดหลงเหลืออยู่ เพราะถูกเจ้ามังกรเขมือบไม่เหลือซาก ด้วยความโกรธา พระเจ้าจึงเสกมังกรยักษ์ให้กลายเป็นต้นไม้ เป็นที่รู้จักกันในชื่อ Dragon tree หากลองกรีดเปลือกไม้ เลือดของมังกรจะไหลรินออกมา
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า: อย่าฝากปลาย่างไว้กับแมว
****************************************************************
สถานที่แปลก : 3. Uluru (Ayer’s Rock), Australia
ข้อมูล: Uluru โขดหินสีแดงขนาดมหึมา ไพศาลกว่าเกาะ ตั้งอยู่ใจกลางประเทศออสเตรเลีย
ตำนาน: ชนเผ่าผู้อยู่อาศัยกำลังจะตาย เนื่องจากสภาพอากาศกลางทะเลทรายอันร้อนแรง แสงอาทิตย์สาดบดบังเมฆ น้ำระเหยแห้งเหือด มวลมนุษย์จึงสวดอ้อนวอน “เทพแห่งสายฝน” ด้วยความเมตตา เธอจึงสัญญากับทุกคนว่าจะสร้าง “ทะเลสาบอันกว้างใหญ่” ซึ่งแสงแดดจะไม่ส่องถึง จึงปล่อยสายฝนสาดกระหน่ำ แต่กลับเกิดการเติบโตของก้อนหินยักษ์กลางทะเลทราย ท่ามกลางความสงสัยของชนเผ่า แต่สุดท้ายก็ตระหนักได้ถึงกระบวนการทางธรรมชาติ ว่าแท้จริงแล้วนั้น โขดหิน Uluru เกิดจากปริมาณน้ำฝนจำนวนมากที่ไหลและแทรกตัวอยู่ในผืนทราย ก่อตัวกันดันมวลดินทรายจากรากลึกให้ผุดขึ้นสู่ท้องฟ้า หรืออีกนัยหนึ่ง Uluru คือทะเลสาบที่ถูกแปรสภาพ
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า: ธรรมชาติมีความลับมากมายที่จะบอก แต่จะมีสักกี่คนที่ตั้งใจฟัง
****************************************************************
สถานที่แปลก : 2. Cave of Crystals, Naica, Mexico
ข้อมูล: ถ้ำคริสตัล แห่ง Mexico ประกอบด้วย กลุ่มคริสตัลธรรมชาติที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สุกสว่างด้วยลำแสงจากแร่ยิปซั่ม ซึ่งยาวถึง 36 ฟุต
ตำนาน: ชาวนาผู้ยากจนคนหนึ่งได้ช่วยชีวิตเด็กหญิงซึ่งกำลังจะจมน้ำ และพบว่าเธอไม่ใช่เด็กหญิงธรรมดา แต่กลับเป็น “เทพธิดาแห่งดวงดาว” เหมือนฟ้ามาโปรดชาวนา เทพธิดามอบของตอบแทนเป็นคริสตัลอันล้ำค่าจำนวนมหาศาล ชาวนาดีใจอย่างล้นเหลือ และกลัวว่าใครจะมาขโมยไป เขาจึงขอร้องให้เธอช่วยซ่อนสมบัติของเขาไว้ในถ้ำลึก ห่างไกลจากสายตาผู้คน เม่ือเวลาผ่านไป ชาวนาผู้นั้นแก่ตัวลงและความจำเริ่มเลอะเลือน จนกระทั่งมาถึงวันสุดท้าย เมื่อเขากำลังจะตาย เขาเรียกญาติทุกคนมาเพื่อจะบอกเรื่องสำคัญนี้ แต่ความทรงจำกลับไม่มีเหลือ คริสตัลเหล่านั้นจึงถูกฝังไว้ในถ้ำตลอดกาล
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า: ทรัพย์สินมากมาย ตอนตายเอาไปไม่ได้สักชิ้น
****************************************************************
สถานที่แปลก : 1. Blue Hole, Belize
ข้อมูล: Blue Hole หลุมสีฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นหลุมลึกกลางทะเล และเป็นหนึ่งในเขตดำน้ำที่มหัศจรรย์ที่สุดในโลก
ตำนาน: ย้อนกลับไปเมื่อครั้งโลกถูกปลกคลุมด้วยน้ำแข็ง มีกลุ่ม “เสือเขี้ยวโง้ง” อาศัยอยู่ในแอ่งถ้ำลึก ซึ่งเสือใช้เป็นหลุมหลบภัยจากศัตรูร้าย และกลายเป็นที่พำนักจากรุ่นสู่รุ่น จากนั้นหนึ่งปีสัตว์ป่าอื่นๆ ผ่านมาเตือนพวกเสือถึงภัยทะเลที่กำลังจะมาถึง ให้ย้ายถิ่นฐาน แต่ไม่เป็นผล เสือเขี้ยวโง้งไม่เชื่อคำลือต่างๆ และมั่นใจในความปลอดภัยและแข็งแรงของถ้ำ ต่อมาด้วยอุณหภูมิที่สูงขึ้น สัตว์น้อยใหญ่จึงตื่นตระหนกพากันวิ่งหนีจ้าละหวั่น พวกเสือเงยหน้ามองจากถ้ำ และนึกขำ ไม่ใส่ใจกับเหตุการณ์ต่างๆ จนกระทั่งวันหนึ่งมาถึงคราวเคราะห์ คลื่นยักษ์จากมหาสมุทรถาโถมเข้าใส่และท่วมมิดแอ่งถ้ำที่พวกเสืออาศัยอยู่ภายในเวลาไม่กี่วินาที ดับอนาถทุกชีวีต “เสือเขี้ยวโง้ง”
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า: อย่าทำตัวเป็นกบในกะลา
………………………………………………………………….
ตำนานแปลก จาก 7 สถานที่แปลก ของโลก
ที่มา : www.elfproject.org