วิธีดูแลผิวหน้าให้สวยสดใสตามวัย

การที่เราจะดูแลผิวหน้าให้สวยสดใสตลอดกาลนั้นย่อมมีวิธีที่แตกต่างกันออกไปตามสภาพผิวของแต่ละช่วงอายุ หลายคนอาจสงสัยว่าเหตุใดเด็กและผู้ใหญ่จึงมีเครื่องสำอางหรือเครื่องประทินผิวหลากหลายสูตรทำให้ยากต่อการเลือกใช้ วันนี้เคล็ดลับสุขภาพดีมีวิธีการเลือกใช้เครื่องสำอางและเครื่องประทินผิวหน้ามาฝากกันค่ะ

วิธีดูแลผิวหน้าให้สวยสดใสนั้น บริษัทเฮลท์คอร์ จำกัด ผู้ผลิตเวชสำอางแบรนด์ โปรวาเมด ให้ความรู้พร้อมคำแนะนำว่า ช่วงวัยรุ่น อายุ 15-20 ปี เป็นช่วงวัยที่เกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศ มักมีความเครียดหรือนอนดึก จึงก่อให้เกิดปัญหาสิวได้ง่าย หากเราไม่ไปแคะ แกะ หรือบีบสิวก็มักจะหายไปเองตามธรรมชาติ ทำให้ไม่เกิดปัญหารอยดำหรือการอักเสบ ดังนั้นการดูแลผิวในช่วงวัยนี้คือล้างหน้าด้วยสบู่อ่อน ๆ วันละ 2 ครั้ง หลีกเลี่ยงการใช้คลีนเซอร์หรือโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะค่อนข้างแรงต่อผิวหน้าอาจทำให้ผิวหน้าใส ๆ ของเราดูกร้านก่อนวัยได้

สำหรับผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป ถือว่าเป็นช่วงวัยที่ผิวกำลังเปล่งปลั่งเต็มที่ แต่ยังมีปัญหาสิวอยู่ เพราะฮอร์โมนเพศยังคงเปลี่ยนแปลงอยู่ ทำให้การดูแลผิวหน้าในช่วงวัยนี้ควรเลือกใช้เครื่องสำอางอ่อน ๆ ที่มีส่วนผสมของสารต้านการเกิดสิวเล็กน้อย เช่น ซาลิไซลิค แอซิด หรือซัลเฟอร์ และหากผิวหน้าเริ่มหมองคล้ำหรือแห้งกร้าน การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA จะสามารถช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตาย และเร่งการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้หนุ่ม ๆ สาว ๆ วัยนี้มีผิวหน้าสดใสและเปล่งปลั่งมากขึ้น ที่สำคัญคือต้องไม่ลืมทาครีมกันแดดก่อนออกแดดทุกครั้ง เพราะแสงแดดจะทำให้ริ้วรอยมาเยือนผิวได้เร็วขึ้น

ส่วนผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป เป็นช่วงเวลาที่ผิวเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน เช่น ผิวบางส่วนมีความมันและบางส่วนมีความแห้ง จนทำให้เกิดความสับสนในการเลือกใช้ครีมบำรุงผิวหรือเครื่องสำอางได้ นอกจากนี้ผิวพรรณที่เคยเปล่งปลั่งจะเริ่มขาดความยืดหยุ่น ผิวหน้าดูหยาบกร้าน และรูขุมขนกว้างขึ้น จึงต้องดูแลผิวมากเป็นพิเศษ คือควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของสารที่เกี่ยวกับสิวและให้เลือกใช้ครีมบำรุงหรือโลชั่นที่มีส่วนผสมของสารแอนตี้ออกซิแดนท์ เช่น ผสมวิตามิน C วิตามิน E และเบต้าแคโรทีน เพื่อช่วยซ่อมแซมผิวที่ถูกแสงแดดทำร้าย และการใช้เครื่องสำอางให้เลือกที่มีส่วนผสมของกลูต้าไธโอนหรือผสมสารอาหารที่เสริมสร้างคอลลาเจน อย่างไรก็ตามวัยนี้จะพบปัญหาของริ้วรอยใต้ตาด้วยจึงควรเลือกใช้อายเจล หรืออายครีมเพื่อช่วยทำให้ผิวรอบดวงตาชุ่มชื้นสดใส และที่สำคัญเลยคือต้องทาครีมกันแดดก่อนออกแดดเป็นประจำทุกวัน

สุดท้ายสิ่งที่สำคัญที่สุดในการดูแลผิวในทุกวัยให้ได้ผลดี คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้ผิวมีสุขภาพที่ดีจากภายใน โดยเริ่มจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ รวมไปถึงการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เท่านี้ก็จะช่วยให้ผิวของเราสามารถฟื้นตัวและแข็งแรงสุขภาพดีได้ค่ะ.