เว็บไซต์ด้านศิลปวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชีย CNNGO ได้นำเสนอบทความแนะนำนักท่องเที่ยว 10 เทคนิคและวิธีการง่ายๆ ที่จะทำให้คุณดูเหมือนเป็นชาวกรุงเทพฯ โดยกำเนิด โดยบทความดังกล่าวนำเสนอว่า ชาวกรุงทั้งหลายถูกตัดสินจากคนภายนอกที่มองเข้ามาด้วยทัศนคติความเชื่อที่มีมาอย่างยาวนาน อันที่จริงแล้ว ทุกคนไม่ได้ทำงานอยู่ในบาร์เพียงอย่างเดียว และไม่ได้เป็นชาวพุทธที่เคร่งครัดที่ไปวัดทุกเช้า และในบางครั้งก็ไม่ได้ยิ้ม
เทคนิคที่นำมาเสนอนี้เป็น ลักษณะของวัยรุ่นชาวกรุงเทพฯ ส่วนจะใช่หรือไม่ คนไทยลองอ่านดู
1.วิธีการขึ้นบันไดเลื่อน
ใน บางเมืองที่ประเทศอื่นๆ ผู้โดยสารจะยืนอยู่อีกฟากหนึ่งของบันไดเลื่อนเพื่อให้ผู้ที่เร่งรีบสามารถ เดินลงได้อย่างรวดเร็วแต่คุณไม่จำต้องทำเช่นนั้นที่กรุงเทพฯเพราะไม่มีใคร เร่งรีบหรอกดังนั้นจงยืนอยู่ตรงกลางของบันไดซะเลย!
2.จะสำรวจเมืองนี้ให้ทั่วได้อย่างไร
หากคุณไม่ได้แบกผักจำนวนมากมายมหาศาลคุณก็คงไม่คิดที่จะนั่งตุ๊ก-ตุ๊ก จงไปเยือนสถานที่ต่างๆด้วยรถยนต์แม้ว่าสถานีบีทีเอสจะอยู่ห่างจากที่ๆ คุณอยู่ไม่ถึงระยะช่วงตึก
จงขับรถหรือไม่ก็นั่งแท็กซี่ อะไรก็ได้ที่จะทำให้คุณหลีกเลี่ยงการเจอกับแสงแดดและความร้อน แม้ว่านั่นจะหมายถึงการต้องติดอยู่บนถนนที่การจราจรติดขัดเป็นเวลา 2 ชั่วโมง ก็ตาม
3.วิธีการตั้งชื่อของตนเอง
ไม่มีใครในกรุงเทพฯ หรือกระทั่งในประเทศไทยเรียกชื่อจริงของแต่ละคนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเป็นคนที่มีชื่อยาว เราจึงเรียกชื่อเล่นกัน และชื่อรถก็มักจะถูกนำมาตั้งเป็นชื่อเล่น เช่น "เบนซ์" หรือหากคุณชอบกินแอปเปิ้ล ลูกของคุณอาจมีชื่อว่า "แอปเปิ้ล" เป็นต้น
4.วิธีการสื่อสาร
ทุกๆ คนเป็นครอบครัวเดียวกัน พนักงานหญิงสาวเป็นญาติพี่น้องกับคุณ (เพราะคุณเรียกเธอว่าน้อง) คนขับแท็กซี่เป็นคุณลุงของคุณ (เพราะคุณเรียกเขาว่าลุง) และผู้หญิงที่ขายผัดไทยก็เป็นคุณป้าของคุณ
การไหว้ของคนไทยเป็นวัฒนธรรมที่ดีในการ ทักทาย และการพูดขอบคุณก็เป็นวิธีการที่ดีเช่นกัน แต่คุณไม่ต้องไหว้กับทุกๆ คนก็ได้ คนท้องถิ่นมักคิดว่าเมื่อเวลาที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไหว้เช่นนั้นเป็น สิ่งที่แลดูน่ารัก แต่จริงๆ แล้วมันเป็นสัญลักษณ์ของการบอกว่าคุณเป็นคนที่ไม่ประสีประสา
นอกจากนี้ เวลาส่งข้อความหรือคอมเมนท์ในเฟซบุค คนไทยมักใช้ 555 แทนเสียงหัวเราะ เพราะเลข 5 ในภาษาไทยอ่านว่า ห้า นึกออกไหม มันดูตลกดีนะ 555 (five five five)
5.วิธีการจัดการเมื่อต้องรับมือกับสถานการณ์ยากๆ
ถ้าคุณเกิดทำอะไรผิดพลาดขึ้นในออฟฟิศ เช่น ไปเหยียบเท้าคนอื่นเข้าให้? หรือไม่รู้คำตอบของคำถาม? ...
จงอย่าได้ยอมรับว่านั่นเป็นความผิดของคุณเด็ดขาด เพราะนั่นเป็นสัญลักษณ์ของความอ่อนแอ แต่จงแสร้งทำเป็นไม่ใส่ใจซะ
6.วิธีการดื่ม
เดินเข้าไปที่บาร์เพื่อหาไวน์ดื่ม คุณไม่จำเป็นต้องรู้จักอะไรมากมายเกี่ยวกับไวน์ แค่เพียงสั่งไวน์ชื่อแปลกๆ มาดื่มก็พอ
ก่อนดื่มอย่าลืมหมุนวนแก้วและสูดกลิ่นพร้อมออกเสียงกระซิบกระซาบว่า "อืมมมมมม นี่เป็นไวน์ที่ดีทีเดียว"
7.หนทางสู่การเป็นผู้ที่ร่างกายขาดวิตามินดี
ในประเทศไทย ผิวขาวใสนั้นเป็นเสมือนรางวัลชนะเลิศ ดังนั้น จงพกร่มติดตัวตลอดเวลาเพื่อให้มั่นใจได้ว่า รังสีจากแสงอาทิตย์จะไม่มีวันเยื้องกรายเข้าสู่อนุภาคผิวหนังของคุณ
หากคุณไม่มีร่ม ก็หาหนังสือหรือกระเป๋าปิดหน้าปิดตาเวลาที่เดินข้ามถนน
จงลงทุนกับครีมไวเทนนิ่งให้มาก เข้าไว้ ทาโรลออนระงับกลิ่นกายที่ทำให้วงแขนของคุณขาวใส และปกปิดร่างกายจากแสงแดดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
8.วิธีการใช้รถไฟฟ้า BTS
คุณอาจรอคิวอยู่ที่หลังเส้นสีเหลืองอย่างเรียบร้อยเพื่อรอรถไฟฟ้า BTS แต่เมื่อรถมาถึง ไม่ต้องรอให้ผู้โดยสารบนรถออกมาจากรถไฟ แต่จงแทรกตัวเข้าไปเลยผลักทุกคนที่ขวางทางเพื่อที่จะได้เข้าไปในขบวนรถไฟ เป็นคนแรก
และถ้าหากไม่มีที่นั่ง จงหาผนังโล่งๆ เพื่อที่จะให้ร่างกายของคุณทั้งหมดได้พิงตัวอย่างมั่นคง ไม่ต้องใส่ใจว่าบริเวณนั้นจะมีผู้คนจับหรือโหนอยู่หรือไม่ เพราะความสะดวกสบายของคุณเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด
9.วิธีการเลือกร้านอาหาร
อาหารตามข้างถนนนั้นเป็นตัวเลือกที่ยอมรับได้สำหรับชาวกรุงหากคุณเป็น 1. เด็กนักเรียน 2. หากคุณเป็นพนักงานออฟฟิศที่มีเวลารับประทานอาหารกลางวันเพียง 1 ชม. 3. เมื่อคุณเมาในช่วงเวลาตอนตีสอง
หรือมิฉะนั้น ก็จงหาร้านอาหารที่ดูแพง พร้อมการตกแต่งที่สวยงาม ที่เสิร์ฟอาหารฝรั่งเศส/ อิตาเลียน/ ญี่ปุ่น/ ไทยฟิวชั่น และที่ๆ ผู้คนนิยมไปกันมากก็คือบริเวณทองหล่อ "Community mall"
10. วิธีการแต่งกาย
ผู้ชายต้องสวมเสื้อเชิ้ตโปโล (อาจเป็นยี่ห้อ Ralph Lauren, Paul Smith หรือ Comme des Garçons) สวมกางเกงขาสั้นและรองเท้าแตะ
ผู้หญิงต้องเลือกนักร้องวง K-Pop ที่ชื่นชอบมาสักวง แล้วพยายามแต่งกายเลียนแบบหนึ่งในสมาชิกวงนั้นๆ แม้ว่าการศัลยกรรมพลาสติกจะไม่ได้เป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วๆ ไปในกรุงเทพฯ เหมือนที่เกาหลีใต้ แต่เราก็กำลังพัฒนาไปสู่ระดับนั้น
สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ กระเป๋าราคาแพงไม่ว่าจะเป็น Chanel, Mulberry, Hermès, Louis Vuitton หรือ Coach ที่มาพร้อมกับไอแพดสีชมพูแปร๊ด!