แต่ไหนแต่ไรมา ไม่ว่าชนชาติใด เมื่อจะทำพิธีกรรมอันเกี่ยวเนื่องกับศาสนาหรือความเชื่อล้วนต้องมีไข่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรม
ประวัติความเป็นมาของความเชื่อเกี่ยวกับไข่ของตะวันตกและตะวันออกมีความคล้ายคลึงกัน คติทางตะวันตก ในศาสนาคริสต์มองว่าไข่เป็นสัญลักษณ์ของการกำเนิดให้ชีวิตใหม่ การกำเนิดของพระเยซูเจ้ามาจากไข่ ส่วนคติธรรมของชาวตะวันออก คติของพราหมณ์-ฮินดู เชื่อกันว่าไข่เป็นต้นกำเนิดแห่งจักรวาลทั้งมวล ตามคติความเชื่อตะวันออก ในศาสนาพราหมณ์ พระพรหมทรงสถิตอยู่ในไข่เป็นเวลาหมื่นกัลป์ จึงบันดาลให้ไข่แตกเป็นสองซีก ซีกบนเป็นแผ่นฟ้า โลกสวรรค์ ซีกล่างเป็นโลกมนุษย์ พร้อมกับสร้างและลิขิตสรรพสิ่งขึ้นมา
ส่วนความเชื่อว่าไข่เชื่อมโยงกับเรื่องของโชคลางและพิธีกรรมมีขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่11 ในกลุ่มทวีปยุโรปกลาง ตั้งแต่รัสเซีย ลงมาเยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ โปแลนด์ เล่ากันว่าพระแม่มารีนำไข่มาย้อมสีสดใสเป็นของเล่นสำหรับพระเยซู นับแต่นั้นมาเมื่อถึงเทศกาลปาสกา หลายประเทศ จึงมีการนำไข่มาตกแต่งระบายสี แล้วนำไปซ่อนเพื่อให้เด็กๆค้นหา สมัยพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่หนึ่งแห่งอังกฤษ ทรงสั่งซื้อไข่จำนวน 450 ใบ ทำการทาสีเคลือบด้วยทองคำเปลว ประทานแก่บรรดาสมาชิกในราชสำนัก ในกลุ่มของพวกที่มีความเชื่อเกี่ยวกับโชคลาง ปรัชญา นำไข่ปาสกาแขวนตามโรงงาน ฯลฯ เพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้าย
ประเทศในแถบยุโรปไปจนถึงอเมริกา เชื่อว่ากระต่ายปาสกา เป็นผู้ที่ออกไข่ปาสกาไว้ในสวนหรือบ้าน แต่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เชื่อว่านก cuckoo เป็นผู้ที่นำไข่ปาสกามาให้เด็กๆในฝรั่งเศส นอกเหนือจากประเทศดังกล่าว ในประเทศที่นับถือคาทอลิก เด็กๆได้รับการบอกเล่าว่าระหว่างวันพฤหัสศักดิ์สิทธิ์ และวันปาสกาเสียงระฆังจะเงียบหายไป เนื่องเพราะระฆังเหล่านั้น กำลังเดินทางไปเฝ้าพระสันตะปาปาที่กรุงโรม พร้อมไข่ปาสกา
ไข่กับศิลปะไทย สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จประพาสยุโรปครั้งพระองค์เสด็จเยือนประเทศรัสเซียพระเจ้าซาร์นิโคลัสทรงมอบไข่นกกระจอกเทศประดับตกแต่งเป็นที่ระลึกปัจจุบันจัดแสดงที่พระที่นั่งวิมานเมฆ พระราชวังดุสิต
สำหรับความเชื่อของคนไทยเกี่ยวกับไข่ ในพิธีกรรม ระหว่างการจัดบายศรีจะนำไข่วางเป็นชั้นๆ สิบยอด หมายความว่าหากมนุษย์ละกิเลสออกทีละชั้นๆ ก็จะไปสู่ชั้นสูงสุดคือพรหมมัน ความคิดความเชื่อแต่โบราณเกี่ยวโยงกับไข่มาตลอด
ความเชื่อเปลี่ยนไป
จากเดิมไข่ถูกนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในขั้นตอนการทำพิธีกรรมอันเกี่ยวเนื่องกับความเชื่อเรื่องโชคลาง ทว่าทุกวันนี้ไข่ได้รับการตกแต่งให้กลายเป็นสินค้าเครื่องประดับตกแต่ง และเครื่องใช้ไม้สอยไปเสียแล้ว
รัสเซียได้ชื่อว่าเป็นเจ้าต้นตำรับ เอาเปลือกไข่มาตกแต่งด้วยอัญมณีที่มีค่า เพื่อถวายกษัตริย์ ต่อมาเป็นที่นิยมในหมู่ขุนนาง สตรีและแพร่หลายสู่สังคมชั้นสูงในยุโรป ปัจจุบันมีหลายประเทศเปิดสอนวิธีการทำไข่วิจิตรอย่างเป็นล่ำเป็นสัน อาทิ ออสเตรเลีย อังกฤษ ฯลฯ
สำหรับในเมืองไทย แม้ความสวยงามวิจิตรตระการตาของไข่วิจิตรจะทำเอาผู้พบเห็นรู้สึกอึ้งและทึ่งในความงาม แต่ก็ยังไม่เป็นที่นิยมแพร่หลายกันมากนัก
ที่มา : กองสินธุ์ ไข่วิจิตร
ความเชื่อเรื่องไข่กับโชคลางและพิธีกรรม
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!