อาการผิดปกติที่ควรไปตรวจตา

อาการผิดปกติที่ควรไปตรวจตา


หลายๆ คนคงจะคิดว่าแม้ไม่มีดวงตา หรือตาบอดก็ยังไม่ถึงแก่ชีวิต ทำให้การระวังรักษาดวงตากลายเป็นเรื่องรองจากการรักษาโรคทางกายอื่นๆ ความคิดเช่นนี้มีส่วนถูกต้องอยู่ก็จริง แต่ก็คงต้องยอมรับว่า การมีสายตาปกติตั้งแต่เกิดไปจนเสียชีวิต จะทำให้เราสามารถประกอบภารกิจต่างๆ ได้ดี มีคุณภาพชีวิต ได้เห็นโลกกว้าง และมีชีวิตอยู่อย่างเป็นสุข สามารถช่วยเหลือสังคม และไม่เป็นภาระของรัฐที่ต้องให้ความช่วยเหลือ ซึ่งหนึ่งในวิธีการดูแลดวงตาก็คือการไปตรวจตา โดยเฉพาะเมื่อเกิดอาการผิดปกติต่างๆ

อาการผิดปกติควรใส่ใจ

     เพราะอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นเป็นการแสดงว่าเกิดพยาธิสภาพของอวัยวะนั้นๆ เป็นการเตือนให้เราไปรับการตรวจจากแพทย์ สำหรับอาการผิดปกติของดวงตาที่เราควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาความผิดปกติก็ได้แก่ 

1. ความผิดปกติของการมองเห็น ซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลายอย่าง เช่น

      - ตามัวลง ไม่ว่าจะเป็นเพราะเคยมองเห็นได้ดีกว่านี้ หรือมองเห็นได้น้อยกว่าผู้อื่นในวัยเดียวกัน เช่น เด็กนักเรียนยืนอยู่หลังชั้น เพื่อนๆ เห็นตัวหนังสือบนกระดานดำ แต่เราไม่เห็น หรือเคยมองเห็นป้ายบอกทางในระยะนี้ แต่บัดนี้มองไม่ชัด เป็นต้น ซึ่งโดยทั่วไปต้องคอยทดลองตาทั้ง 2 ข้าง ด้วยการปิดตาเพื่อเทียบการมองเห็นจากตา 2 ข้าง เพราะมีอยู่บ่อยมากที่ผู้ป่วยไม่ทราบว่า มองเห็นข้างเดียวมานาน เพราะตาที่เป็นโรคมัวลงอย่างช้าๆ จนเจ้าตัวไม่ได้สังเกต

      - เห็นภาพบิดเบี้ยว อาจจะเห็นเส้นตรงเป็นโค้งหรือหงิกๆ งอๆ มักเป็นตาเดียว ซึ่งอาจทดสอบด้วยตัวเองโดยเทียบกับตาข้างดี อาการอย่างนี้จะบ่งถึงว่ามีความผิดปกติของจอประสาทตาส่วนกลาง (macula)

      - เห็นภาพขาดหายไป เช่น มองหน้าคนไม่เห็นลูกตา หรือมองภาพคล้ายๆ ใครเอาผ้าม่านมาปิดบางส่วน หรือเห็นภาพดำๆ ตรงกลาง อาการแบบนี้เป็นความผิดปกติของลานสายตา บางคนอาจมาด้วยลานสายตาซีกขวาไม่เห็น หรือมาด้วยอาการมักจะเดินชนวัตถุที่มาทางด้านขวา เป็นต้น ภาวะดังกล่าวอาจเกิดจากความผิดปกติของจอประสาทตา ประสาทตา ตลอดจนสมอง

      - มองเห็นวัตถุข้างหน้าเป็น 2 อัน หรือหลายอัน เช่น คนสูงอายุเห็นดวงจันทร์สองดวง หรือหลายดวง อันเนื่องมาจากโรคต้อกระจก หรือผู้ป่วยมีเนื้องอกในโพรงจมูก เกิดอาการมึนงง เพราะเห็นคนเดียวข้างหน้าเป็น 2 คน จากกล้ามเนื้อตาผิดปกติ เป็นต้น

      - เห็นจุดดำๆ หรือตัวแมลง หรือเป็นเส้นๆ ลอยไปมา แสดงถึงมีพยาธิสภาพของน้ำวุ้นตา ตลอดจนเห็นแสงคล้ายๆ แฟลชเป็นบางครั้ง บ่งถึงอาจมีความผิดปกติของจอประสาทตา ฯลฯ

      2. ตาแดง เป็นอาการที่สำคัญอันหนึ่งอาจพบในโรคเยื่อบุตาอักเสบ ต้อลม ต้อเนื้อ ซึ่งไม่อันตราย รักษาได้ง่ายหรืออาจหายเองได้ ตลอดจนตาแดงจากโรคที่รุนแรง เช่น ต้อหินเฉียบพลัน ม่านตาอักเสบ การอักเสบภายในลูกตา ฯลฯ ซึ่งหากรักษาช้าหรือไม่รับการรักษา จะทำให้ตาบอดได้ ผู้มีอาการตาแดงจึงควรปรึกษาแพทย์

     3 . ปวดตา เจ็บตา ร่วมกับมีหรือไม่มีขี้ตา บ่งถึงมีความผิดปกติภายในหรือรอบๆ บริเวณเบ้าตา

      4. ปวดศีรษะบ่อยๆ ในบางรายอาจเป็นอาการแสดงของสายตาผิดปกติ หรือมีการอักเสบของเบ้าตา 
ตลอดจนการใช้สายตาผิดๆ เช่น การใช้คอมพิวเตอร์วันละหลายๆ ชั่วโมง เป็นต้น



ขอบคุณ : healthtoday

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์