คลั่งกินหน้าคน ตำนานซอมบี้หรือโรคจิต

คลั่งกินหน้าคน ตำนานซอมบี้หรือโรคจิต


ข่าวคราว "ซอมบี้" อาละวาดทั้งในสหรัฐฯ และในประเทศจีน ฟังดูเผินๆแค่เรื่องโจ๊ก แต่ก็เป็นสิ่งสะท้อนความเข้มแข็งของสังคมที่ถูกบั่นทอน จากเรื่องความเชื่อพวกนี้

ซอมบี้มีจริงหรือไม่ หลังเมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมาเกิดเหตุ
ชายเปลือยรายหนึ่งซึ่งทราบชื่อภายหลังคือนายรูดี้ ยูจีน วัย 31 ปีกัดแทะเนื้อบริเวณใบหน้าของนายโรนัลด์ เอ็ดเวิร์ด ป็อบโป ชายเร่ร่อนวัย 65 ปีและไม่ยอมจำนนต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยิงเพื่อยับยั้งไปก่อนหน้านี้ 1 นัดจนทำให้ชายคนนี้เสียชีวิต

ซึ่งผลจากการชันสูตรพลิกศพฆาตกรกินหน้าคน พบเพียงกัญชาในร่างกายของเขาเท่านั้น ด้านริกเกีย ครอส แฟนสาวของนายยูจีน กล่าวกับสื่อท้องถิ่นว่า เธอเชื่อว่าเหตุสยองครั้งนั้น อาจเป็นผลมาจาก"สิ่งเหนือธรรมชาติ" หรือมีใคร"เล่นของ"ใส่เขา เพราะเธอเชื่อว่านายยูจีนตัวจริงไม่เคยมีพฤติกรรมเช่นนั้นทั้งนี้เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านรัฐบาลสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ยินยันว่าอมนุษย์ในตำนานอย่างซอมบี้นั้นไม่มีอยู่จริง นอกจากนี้ศูนย์ควบคุมและป้องกันภัยพิบัติ (ซีดีซี) ได้แถลงไปก่อนหน้านี้ว่า ไม่พบหลักฐานยืนยันว่าซอมบี้มีจริงหรือไม่ พร้อมออกคู่มือแนะนำประชาชนให้อย่าหลงเชื่อตำนานซอมบี้ซึ่งทางศูนย์ชี้ว่า เป็นเพียงการโฆษณาชวนเชื่อแบบขำๆ เพื่อดึงดูดกลุ่มผู้ฟังด้วยสารที่ตระเตรียมมาเป็นอย่างดี

เหตุการณ์มนุษย์กินคนหรือซอมบี้ได้ลุกลามจากสหรัฐอเมริกามาถึงเอเชีย ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นที่จีน โดยเว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์เซี่ยงไฮ้เดลีรายงานว่าชายคนหนึ่งวิ่งขึ้นไปบนถนนเส้นหนึ่งใกล้สถานีรถบัสในเมืองอู๋ไห่ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน และทำการหยุดรถของเหยื่อที่แล่นผ่านมาพอดีจากนั้นชายรายนี้ปีนขึ้นไปบนกระโปรงรถและเริ่มชกที่กระจกหน้ารถอย่างแรง เมื่อเห็นดังนั้น หญิงสาวรายนี้ ซึ่งรู้สึกตกใจมากจึงพยายามลงจากรถเพื่อหลบหนี แต่เคราะห์ร้าย
เธอถูกนายต่ง กระโจนเข้าใส่จนล้มลง จากนั้นเขาก็เริ่มกัดเข้าที่ใบหน้าของเธอจนเกิดแผลเหวอะหวะ

ท้ายที่สุดแล้วตำรวจก็เข้ามาช่วยเหลือหญิงเคราะห์ร้ายรายนี้ เอาไว้ได้และจับกุมผู้ก่อเหตุ ทั้งนี้ ตำรวจระบุว่าชายคนดังกล่าวตั้งวงดื่มสุรากับเพื่อนๆ จนเมามายอย่างหนักก่อนลงมือก่อเหตุในครั้งนี้

ทั้งนี้เหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งเมื่อย้อนกลับไปปี 2488 หลีอุยซึ่งเป็นคนจีนหรือที่คนไทยรู้จักในชื่อ ซีอุย ได้ลิ้มรสการกินเนื้อมนุษย์เป็นครั้งแรก หลังจากถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารรบในสงครามโลกครั้งที่สอง ด้วยความแร้นแค้นซีอุยได้เข้ามาทำงานที่เมืองไทยอย่างผิดกฎหมายและอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ ก่อนที่เขาจะก่ออาชญากรรมด้วยจับเด็กมาผ่าเอาตับมากินโดยเชื่อว่าเชื่อว่าเป็นยาอายุวัฒนะตามที่นักบวชรูปหนึ่งได้แนะนำเขา

ซึ่งเขาได้ก่อเหตุครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2501 ในพื้นที่จังหวัดระยอง เขาถูกจับขังคุกและประหารชีวิตด้วยการยิงเป้า ซึ่งระหว่างที่เขาถูกดำเนินคดี 9 วัน เขายอมรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือ 7 คดี ขณะที่จิตแพทย์ลงความเห็นว่า ซีอุยไม่ได้เป็นบ้าแต่อาจจะเป็นเพราะว่าความเชื่อและความยากจนที่ติดตัวเขามาตั้งแต่เกิดทำให้เขาตัดสินใจก่อเหตุแบบนี้ขึ้น

อย่างไรก็ตามทั้ง 3 เหตุการณ์นี้มีลักษณะคล้ายคลึงกันคือ การกินเนื้อหรืออวัยวะมนุษย์สดๆ แต่แตกต่างกันที่ปัจจัยหรือแรงจูงใจในการก่อเหตุ ซึ่งอาจเกิดจากพฤติกรรมเลียนแบบหรือร่างกายได้รับสารบางอย่างจนยากแก่การควบคุมตัวเอง

อย่างไรก็ตาม บางครั้งพฤติกรรมการแสดงออกของมนุษย์ ที่ดูเหมือนจะหลุดโลก บางส่วนนักจิตวิทยา ก็ให้ข้อมูล เป็นการแสดงออกซึ่งความรู้สึกหมดหวัง ท้อแท้ หรือวิตกจริตอย่างสุดขั้ว กระทั่งอยากลองทำอะไรบางอย่างขึ้นมา หรือแม้กระทั่งพฤติกรรมเลียนแบบที่อาจเป็น หนึ่งในแนวการเลียนแบบ ก็อาจเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดเรื่องลักษณะนี้ขึ้นได้

ดีที่ประเทศไทย ไม่มีข่าวทำนองนี้เกิดขึ้นอีก เพราะทุกวันแค่กินหิน กินทราย ก็ทำให้คนไม่มีจะกินกันแล้ว


ที่มา news.voicetv / thaiza

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์