เมื่อมองด้วยเหตุผล แมลงให้สารอาหารเช่นเดียวกับเนื้อสัตว์ทั่วไป รวมถึงเป็นแหล่งโปรตีนที่สำคัญ ตามข้อมูลของมหาวิทยาลัยวาเกนิงเกน ประเทศเนเธอร์แลนด์ พบว่าค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงสัตว์จำพวกแมลง ต่ำกว่าการเลี้ยงสัตว์ใหญ่ค่อนข้างมาก พวกมันบริโภตอาหารและน้ำน้อยกว่า รวมถึงปล่อยของเสียน้อยกว่า อีกทั้งยังพบว่า แมลงที่มนุษย์สามารถนำไปบริโภคได้ยังมีกว่า 1,400 ชนิด
เกย์กล่าวว่า แมลงจำพวกจิ้งหรีดหรือตั๊กแตน สามารถนำมาแปรรูป และใช้เป็นส่วนผสมในอาหารประเภทเบอร์เกอร์ได้
รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ ได้ศึกษาความเป็นไปได้ดังกล่าวอย่างจริงจัง และเริ่มทุ่มเงินกว่า 1 ล้านยูโร ในการวิจัยเพื่อนำแมลงมาดัดแปลงเป็นอาหารในชีวิตประจำวัน และเพื่อเตรียมออกกฎหมายในการทำฟาร์มเลี้ยงแมลง
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ประชากรในหลายภูมิภาคของโลกได้บริโภคแมลงกันมาช้านาน ชาวแอฟริกานิยมบริโภคด้วงและตั๊กแตนยักษ์ ตัวต่อได้รับความนิยมจากชาวญี่ปุ่น และชาวไทยก็นิยมบริโภคจิ้งหรีดกันมานาน
แต่แมลงที่ว่ามานี้ จำเป็นต้องผ่านกระบวนการการปรับโฉม เพื่อให้น่าตาดูน่าบริโภคและเหมาะกับชาวตะวันตก ที่มองว่าการบริโภคแมลงเป็นสิ่งที่น่าขยะแขยง เกย์เชื่อว่า แมลงจะกลายเป็นเมนูที่ได้รับความนิยม จากมันถูกทำให้ดูห่างไกลจากคำว่าแมลง และใช้คำเรียกใหม่ ที่คล้ายกับคำว่า "ปศุสัตว์ขนาดเล็ก"
อาหารที่ผ่านการปรับปรุงรสชาติด้วยเสียง
มีการศึกษาหลายชิ้นที่ระบุว่ารูปลักษณ์และกลิ่นของอาหาร ส่งผลต่อพฤติกรรมการกินของมนุษย์ แต่ผลกระทบจากเสียง ที่มีต่อรสชาติอาหารยังคงมีการวิจัย ผลการศึกษาล่าสุดโดยนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด พบว่า โทนเสียงในระดับหนึ่งสามารถช่วยทำให้รสชาติอาหาร"หวานขึ้น"หรือ"ขมขึ้น"ได้
รัสเซล โจนส์ จากบริษัทคอนดิเมนต์ จังกี้ ที่ร่วมทำการศึกษา กล่าวว่า คนเรามักสนใจแต่รูปลักษณ์และกลิ่นของอาหาร แต่มักไม่ทราบว่าเสียงก็มีผลต่ออาหารเช่นกัน
โดยการศึกษาในหัวข้อ "The Bittersweet Study" โดยชาร์ลส์ สเปนซ์ ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาการทดลอง จากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด พบว่ารสชาติอาหารสามารถปรับเปลี่ยนได้โดยการเปลี่ยนเสียงที่เป็นแบ็คกราวด์ เขากล่าวว่า ยังไม่แน่ชัดนักว่าเกิดอะไรขึ้นในสมองของมนุษย์ แต่มีการเปลี่ยนแปลงแน่นอน