1 . ตักอาหารที่คิดว่ากินแล้วอิ่มพอดีไว้ในจาน เพื่อควบคุมปริมาณการกินของตนเอง
2. เคี้ยวอาหารช้าๆ หากกินเร็ว กว่าจะรู้ตัวก็แน่นท้องเสียแล้ว
3. สังเกตความอิ่มของตนเองก่อนตักอาหารเพิ่ม
4. ควรวางแผนการกินอาหารทุกครั้งก่อนไปงานเลี้ยง โดยเฉพาะอาหารบุฟเฟต์
5. ท่องคาถาระงับความหิวไว้ว่า “กินเพื่ออยู่ (นานๆ) ไม่ใช่อยู่เพื่อกิน (เยอะๆ)" กินแต่พออิ่มและอย่าลืมเลือกอาหารที่มีประโยชน์ด้วยนะคะ
" กินเพื่ออยู่ ไม่อยู่เพื่อกิน " ดีที่สุดเนาะ จะได้อยู่มีอายุ อยู่กินได้นานๆ เรียกว่า.." กินอย่างพอเพียง " ดีที่สุดเนาะ..
มื้อที่ควรเป็นมื้อที่หนักสุด ได้อ่านเจอมาจากคุณหมอ คุณหมอบอกว่า มื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดของคนเราที่ร่างกายต้องการ..ขอให้กินให้มากหน่อย..พอมามื้อกลางวันก็ให้กินพอกลางๆ พอแล้ว..พอตกมื้อเย็น หากเปลี่ยนจากข้าวมาเป็นซุปข้น ผัก ผลไม้ จะดีที่สุด เพราะร่างกายคนเราต้องการพัก ไม่ต้องใช้พลังงานทำอะไรแล้ว กินมากเกินไปกะเพาะก็จะต้องทำงานหนัก ทั้งต้องย่อยต้องส่งสารอาหารไปตามอวัยวะต่างๆของร่างกายอีก..
ขอแถมให้อีกนิดหนึ่ง..คุณหมอบอกว่า กินแต่ล่ะมื้อเอาแค่พอเพียงพอ..ในช่วงว่างๆ อาจชั่วโมง หรือสองชั่วโมง..กินอาหารเสริมจำพวกผลไม้ ถั่ว ธัญพืช ขนมที่ไม่มีรสหวาน อาจเป็นคุ้กกี้ธัญพืช หรือเครื่องดื่มผลไม้ก็ได้ นับว่าดีค่อยๆจิบ ค่อยๆเคี้ยว..จะเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายเราขยับตัวได้ง่าย ไม่อ่อนเพลียเกินไป..
อ้อ..คุณหมอให้จิบน้ำใสสะอาดบ่อยๆก็ดี..หรือหากใครเป็นตะคริว แสดงว่าร่างกายของเราต้องการน้ำ ในขณะเป็นตะคริว คุณหมอให้ดื่มน้ำ ดื่มจิบๆสักอึก สองอึก ค่อยๆจิบ ตะคริวก็จะคลายตัว ทำให้เราหายได้..นิสจะใช้วิธีที่ได้คำแนะนำมาจากคุณหมอแบบนี้บ่อยๆ ด้วยอยู่ๆตะคริวจะเป็นตรงใต้ลิ้นปี่..ขวดน้ำดื่มต้องมีอยู่ใกล้ๆมือไว้เลย พอเป็นตะคริว ก็หยิบขวดน้ำมาจิบๆ ที่ล่ะอึกสองอึก ตะคริวจะคลายตัวเองได้จริงๆ ทำให้เราไม่ต้องเกร็งตัว..
สรุป..กินมากรู้สึกแน่นท้อง นั่นแหละทำให้แก่เร็ว..แต่ค่อยๆกินค่อยๆเคี้ยว รู้สึกอิ่มๆ..ก็วางช้อนก่อน..อีกสัก 2 ชั่วโมงก็ค่อยกินใหม่ นั่นแหละจะทำให้ตัวเลขอายุไปข้างหน้า..แต่หน้าตาย้อนกลับไปเป็นเด็กได้ใหม่..อิอิ