เกี่ยวกับเรื่องนี้ นีเวีย ซัน เผยว่า เมื่อต้องเผชิญกับแสงแดดแรง ควรทาครีมกันแดดซ้ำทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง หรือ บ่อยกว่านั้นหากทำกิจกรรมกลางแจ้ง, ว่ายน้ำ เพราะแสงแดดจะทำลายคุณสมบัติของครีม ทำให้ประสิทธิภาพในการป้องกันลดลง
อย่าลืมเลือกค่าเอสพีเอฟให้เหมาะกับผิว และกิจกรรมที่ทำ โดยผู้ที่มีผิวบอบบางมากๆ ลักษณะผิวไหม้ได้ง่าย เปลี่ยนเป็นสีแดงทันทีที่ถูกแสงแดด และลอกออก หรือ เมื่อโดนแดดสักระยะผิวเปลี่ยนเป็นสีแดง และคล้ำขึ้นภายหลัง ควรใช้ครีมกันแดดค่าเอสพีเอฟ 45 หรือ 60
สำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางปานกลาง ลักษณะไม่ค่อยเป็นสีแดงเมื่อถูกแดด ควรใช้ครีมกันแดดค่าเอสพีเอฟ 15 หรือ มากกว่านั้นหากทำกิจกรรมกลางแจ้ง
ส่วนผู้ที่มีผิวทนต่อแสงแดดได้ดี ลักษณะผิวไหม้ได้ยาก สีผิวเปลี่ยนได้ยาก ส่วนใหญ่จะมีผิวสีเข้ม สามารถเลือกครีมกันแดดค่าเอสพีเอฟไม่สูงมาก อาจแค่ 8 หรือ 20
ด้านผู้ที่ใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้ประจำ ผิวจะไวต่อแสงแดด เหมาะกับค่าเอสพีเอฟตั้งแต่ 30 ขึ้นไป
ทั้งนี้ แสงแดดแรงที่ควรเลี่ยงอยู่ในช่วงเวลาประมาณ 11.00-15.00 น. แต่หากจำเป็น อย่าลืมใส่เสื้อผ้าให้มิดชิด สวมหมวก และใช้ร่มกางป้องกัน นอกจากนั้น หลังออกแดดควรบำรุงผิวด้วยโลชั่น เพื่อช่วยคืนความชุ่มชื้นให้ผิวหลังเผชิญแดด
เนื่องจากในแสงแดดมีรังสียูวีบีที่ทำให้ผิวไหม้ หรือ แสบร้อน รวมทั้งรังสียูเวีเอที่สามารถซึมลึกสู่ผิวชั้นใน หากได้รับมากเกินไปอาจทำให้การสร้างเม็ดสีเมลานินผิดปกติ และก่อให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้ จึงควรทาครีมกันแดดป้องกันเป็นประจำ ทั้งยังส่งผลต่อผิวกายดูสุขภาพดีด้วย.