จากนี้ไปรู้ไว้ว่า การลงแรงทำงานบ้านนั้น มิได้แค่ทำให้บ้านสะอาดน่าอยู่เท่านั้น คนทำยังได้สุขภาพ แถมมีผลถึงขั้นลดความเสี่ยงเป็นมะเร็งได้อีกด้วย
ประโยชน์ของการทำงานบ้านนี้อ้างตามผลวิจัยจากอังกฤษ ที่เดลิเมลนำมาเปิดเผยว่า นักวิจัยพบผู้หญิงที่ทำงานบ้านราว 6 ชั่วโมงต่อวัน สามารถลดความเสี่ยงป่วยเป็นมะเร็งเต้านมได้ร้อยละ 13 เมื่อเปรียบเทียบกับผู้หญิงที่ไม่ได้ทำงานบ้านหรือชอบอยู่เฉยๆ และแม้กระทั่งคนทำงานบ้านเพียง 2 ชั่วโมงครึ่งต่อวัน ก็ยังช่วยลดความเสี่ยงป่วยมะเร็งลงได้ร้อยละ 8
นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยหลายชิ้น ชี้ให้เห็นว่า กิจกรรมที่ทำแล้วได้ออกแรง เช่น ทำงานบ้าน ทำสวน ออกกำลังกาย ตลอดจนปัจจัยทางโภชนาการ มีผลในการลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านม เช่น กองทุนวิจัยมะเร็ง พบว่า ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมกว่า 8 พันราย ก่อนป่วยมักออกกำลังกายน้อย และมีพฤติกรรมการกินอาหารไม่ค่อยเหมาะสม
ด้านศาสตราจารย์ ทิม คีย์ จากมหาวิทยาลัยอ็อกฟอร์ด บอกว่า การออกกำลังกายที่เพียงพอ ยังสามารถลดความเสี่ยงป่วยมะเร็งชนิดอื่นๆ ได้อีก เช่น มะเร็งลำไส้ ดังนั้น จึงควรทำตามคำแนะนำของทางการที่ระบุว่า ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ ซึ่งพบผู้คนในอังกฤษเชื่อและทำตาม แบ่งออกเป็นชายร้อยละ 39 ส่วนผู้หญิงร้อยละ 29
อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อมูลวิจัยเมื่อปี ค.ศ.2010 ชี้ว่า ผู้ที่ออกกำลังกายน้อยกว่า 150 นาทีต่อสัปดาห์ มีความเสี่ยงป่วยมะเร็งเพิ่มขึ้น ทั้งยังสามารถแจกแจงความเสี่ยงให้เห็นว่า คนไม่ออกกำลังกายมีสิทธิ์ป่วยมะเร็งเต้านมร้อยละ 3 ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ร้อยละ 5 และป่วยมะเร็งมดลูกร้อยละ 4
ขณะที่ซาร่า ไฮออม ผู้ดูแลข้อมูลวิจัยของอังกฤษ มีความเห็นว่า การคุมน้ำหนักให้เหมาะสมด้วยการออกกำลัง และการงดดื่มแอลกอฮอล์ เป็นสองปัจจัยที่สามารถลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านมได้ แถมยังเตือนว่า ไม่อยากป่วยเป็นโรคร้าย เช่น มะเร็ง ต้องขยันขยับตัว และใช้เวลานั่งจมอยู่ที่โซฟาให้น้อยที่สุด
ได้รู้กันอย่างนี้ อย่าขี้เกียจทำงานบ้าน หรือออกกำลังกายกันเลย.