พูดถึงเรื่องชวนหงุดหงิดใจ เชื่อว่าแต่ละคู่ก็จะมีประเด็นเซนซิทีฟแตกต่างกัน แต่เมื่อเกิดปัญหาแล้วไม่เปิดอกพูดคุย ปล่อยสะสมไว้ อาจกลายเป็นความขัดแย้งที่หนักขึ้นได้ในภายหลัง!
หนึ่งในนั้น คือ “ความเครียดกับงานมากเกินไป และไม่สามารถจัดการ หรือ ควบคุมอย่างเหมาะสม แล้วพาลมาลงกับคู่รัก” อารมณ์ขุ่นมัวหงุดหงิดที่ยังคงอยู่ในใจนั้น เป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดการกระทบกระทั่งกันได้ง่าย และทำให้บรรยากาศน่าอึดอัด ลองเล่าปัญหาให้คู่รักฟังก็เป็นแนวทางหนึ่งที่ช่วยบรรเทาความเครียด และความกดดันในใจได้ดี ทั้งยังอาจพบมุมมอง หรือ ทางออกใหม่
ขณะที่ “การทิ้งงานบ้านให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนั้น” ในต่างประเทศเคยมีการสำรวจพบว่า กลุ่มตัวอย่างประมาณร้อยละ 26 ขัดแย้งกับคู่รักด้วยเหตุนี้เช่นกัน เนื่องจากสภาพสังคมปัจจุบันที่ทั้งคุณผู้ชาย และคุณผู้หญิงต่างทำงานทั้งคู่ ดังนั้น การแบ่งเบาช่วยเหลือจึงสำคัญ ช่วยลดความเหนื่อยล้าของกันและกัน และถือเป็นกิจกรรมกระชับสัมพันธ์ปรองดองได้อีกทางหนึ่ง
นอกจากนั้น “การทำงานที่ต้องเดินทางบ่อย” ทำให้เกิดความน้อยใจ และความกังวลหลายประการ หัวใจสำคัญ คือ ความซื่อสัตย์ และไว้ใจ พูดคุยแบ่งปันเรื่องราวต่าง ๆ อย่างตรงไปตรงมา ไม่ปิดบัง และรักษาความเชื่อมั่นนั้นร่วมกัน จะทำให้สองฝ่ายไม่ทุกข์ และอึดอัด
รวมทั้ง “ความหึงหวง” ลองพิจารณาว่า สิ่งที่รู้สึกนั้นมีโอกาสเป็นจริงแค่ไหน ดีกว่าแสดงพฤติกรรมรุนแรงออกไปก่อน ขณะเดียวกัน ทั้ง 2 ฝ่ายควรสังเกตตัวเองว่า มีพฤติกรรมใดไม่พึงประสงค์ หรือ กระตุ้นความหึงของคู่รักหรือไม่ หากมี ควรปรับเปลี่ยน ปฏิบัติให้เคลียร์ และชัดเจนมากขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจต่ออีกฝ่าย
การเปิดอกพูดคุยเป็นกระบวนการหนึ่งในการคลี่คลายปัญหา เพียงแต่ต้องใช้การสื่อสารที่ดีเป็นสำคัญ ไม่ทำร้ายน้ำใจกัน ด้วยการเป็นทั้งผู้พูด และผู้ฟังที่ดี.
เรื่องชวนทะเลาะของคู่รัก
เรื่องชวนทะเลาะของคู่รัก