หลายเรื่องที่คุณไม่รู้เกี่ยวกับ RS Promotion

1.คำว่า "รัก" เป็นภาษาไทยคำแรกที่ "ปุ๊กกี้" เขียนภาษาไทยได้

2.ส่ิง ที่ "เจมส์ เรืองศักดิ์" ไม่ลืมก่อนตีกลองใน มิชชั่น4 คือ "ใส่ถุงมือ" เพราะกลัวว่าเวลาแฟนๆ มาจับมือเขาแล้วจะรู้สึกว่ามือเขาด้านขึ้น

3.กฎเหล็กของการเข้าตึก RS คือ ห้ามใส่รองเท้าแตะ เพราะ "นุ๊ก สุทธิดา" ชอบแต่งตัวเซอร์ๆ ใส่กางเกงเล รองเท้าแตะเข้าห้องอัดบ่อยครั้ง

4.จอน นี่ หลุยส์ เล่นหนังเรื่องแรกด้วยกันคือ "โตแล้วต้องโต๋" แต่เคยปรากฎตัวพร้อมกันในฉากสุดท้ายของหนังตำนาน "โลกทั้งใบให้นายคนเดียว" (จำไม่ได้ว่ามีเรื่องโตแล้วต้องโต๋ด้วย)

5.อาร์เอสเคยจัดปารตี้ "ยึดโลกอีกทีให้เธอทั้งวันทั้งคืน" ฉลองที่หนัง 4 เรื่องที่ทำได้ 200 ล้าน คือ โลกทั้งใบฯ เด็กระเบิดฯ เกิดอีกทีต้องมีเธอ และ เจนนี่ กลางวันครับฯ"

6."โดม ปกรณ์ ลัม" คือ ลูกศิษย์คนแรกของ "ครูแหม่ม พัชริดา"

7.รั้วบ้านของเจมส์ มีกราฟฟิคเป็นตัวโน็ต เพลง "ไม่อาจเปลี่ยนใจ"

8."เจมส์" เคยเป็น back stage ให้กับคอนเสิร์ต ลิฟต์ ออย เพราะทั้งสามคนสนิทกันเนื่องจากเข้า คลาสเรียน ร้อง เต้น ด้วยกัน

9.ออยเกือบถูกถอดไม่ให้ออกเทป เพราะหายไปจากคลาสเต้น 1 สัปดาห์ โดยไม่บอกใคร จนภายหลังมาสารภาพว่าออกไปรับงานนอกเพื่อเก็บเงินซื้อของขวัญให้ "นุ๊ก สุทธิดา" เพื่อนสนิท เป็นตุ๊กตา superhero 7 ตัว

10.อุบัติเหตุเครื่องบินตกที่สุราษฎร์ วันที่ 11 ธค 41 มีคนเสียชีิวิต 104 ศพ รอด 42 เจมส์คือ 1 ใน 42

11.เพื่อนสนิทเท่านั้นที่สามารถเรียก "เต๋า สมชาย" ว่า "เข่ง"

12.นางเอก MV ปลอบเพื่อน ของแรปเตอร์ คือ "ไบรโอนี่" ซึ่งภายหลังไม่นาน มาเป็นนักร้องของ "แกรมมี่"

13.ก่อนหน้าจะมาเป็น เจอาร์-วอย์ "วอยด์" ถูกวางตำแหน่งในวง   "gang4" ส่วน เจอาร์ นั้นถูกวางตัวให้จับคู่กับ "ปราโมทย์ แสงศร


14.ในยุคแรก ที่เปลี่ยนชื่อบริษัทจากโรสซาวน์ มาเป็น อาร์เอส เฮียฮ้อและเฮียจั๊วเคยไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยวไก่หน้าปั๊มคาลเท๊กซ์ เพื่อคุยกันถึงปัญหาที่คนไม่ติดภาพค่ายเพลงวัยรุ่นที่พยายามสร้าง พอเงยหน้าไปเห็นโลโก้ 5 ดาว ของปั๊ม เฮียเลยคิดโปรเจ๊กท์ "รวมดาว" ให้ ฟรุ๊ตตี้ คีรีบูน มาทำอัลบั้มรวมศิลปินกัน

15.อาร์เอส ไม่เคยทำ "เพลงเพื่อชีวิต" มาก่อนเลย จนกระทั่งมาเกิด "หนุ่มบาวสาวปาน"

16.อนันต์ บุญนาค เป็นศิลปินเบอร์แรก ที่ประเดิมอาคารใหม่ ที่เพิ่งย้ายมาจากย่านโคลีเซียม

17.ใครจะรู้ นักร้องเพลงร็อก อย่าง "เสือ ธนพล" เคยทำงานอยู่ฝ่ายคอสตูม (เสื้อผ้า) และออกแบบปกเทปของอาร์เอส

18.ผู้นำแฟชั่น รองเท้า ด็อกเตอร์ มาร์ติน หนังแก้วสีเชอรี่ คือ อิทธิ พลางกูร

19.อิทธิ พลางกูร คือคนที่ชักนำ "อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง" ซึ่งขณะนั้น "ขายกางเกงยีนส์อยู่หน้าราม" ให้ออกเทป ทำให้เพลงในอัลบั้มแรก "ไม่เจียม" และ "เธอลำเอียง" ดังเป็นพลุแตก

20.พระเอกอย่าง "ธานินทร์ ทัพมงคล" "สรพงษ์ ชาตรี" ฉัตรชัย เปล่งพานิช" เคยออกเทปกับอาร์เอสมาแล้ว

21.หิน เหล็ก ไฟ คือวงร็ิอกวงแรก ที่ยอดขายเกิน 1 ล้านตลับ

22.เต๋า สมชาย มาเทสต์เสียงช้าไป 2 ชั่วโมง เพราะซ้อมฟุตบอลในฐานะยุวชนทีมชาติไทย โดยเลือกเพลง "มาเพื่อลา" ของทัช ณ ตะกั่วทุ่ง ซึ่งคงไม่ต้องบอกว่าจะร้องได้ขนาดไหน แต่เหลือเชื่อ "เต๋า ถูกเซนต์สัญญาเป็นนักร้องแค่ไม่กี่วันหลังจากนั้น

เต๋าเข้าคลา สร้องเพลงได้แค่ 1 ชั่วโมง ก็บอกว่าไม่อยากเรียนออกเสียงอักขระ "ขอเข้าห้องอัดเลยได้ไหม" ทำให้อัลบั้ม "เต๋า หัวโจก" ใช้เวลา สองปีเต็มๆ ในห้องอัด
แต่พอส่งเพลง "บอดี้การ์ด" กับ "คนเก่ง" ออกมา ทำให้เขาปิดตัวเลขอัลบั้มแรกได้ 780,000 ม้วน

อัลบั้มที่สอง "สมชายจดปลายเท้า" เขาก็ทำยอดขายแค่จิ๊บๆ 1,600,000 ม้วน
(สมัยนั้นเทปราคา 55-60 บาท นักร้องคนเดียวทำเงินเกือบ 100,000,000 บาท)
และในปีเดียวกัน "เต๋า" ทำยอดขายหนัง "โลกทั้งใบฯ" 55 ล้านบาท

23.โจ ต๊ะ ดิ๊ป แห่ง บอยเสก๊าซ์  มีความฝันอยากเป็นเหมือน "อินคา" ซึ่งทั้งสามคนเป็นเพื่อนกันตั้งแต่หนังเรื่อง "อนึ่ง คิดถึงพอสังเขป" หลังจากนั้นทั้งสามคนถูกเรียกเข้าเทสต์เสียงที่อาร์เอส

จากคำ สัมภาษณ์ของเฮียฮ้อ ได้ถามว่า "อยากทำงานร่วมกับใคร" ทั้งสามตอบเป็นเสียงเดียวกัน จึงเกิดที่มาของวง "บอยสเก๊าซ์" โดย ราเชนทร์ ลิ้มตระกูล ได้วางคาแรกเตอร์ให้วงนี้

คอนเสริิต์แรกจัดที่ MBK HALL คนแน่นจนต้องร่นพื้นที่เวทีให้เล็กลง และปรับจากเดิมเป็นที่นั่งเปลี่ยนมาเป็นยืนแทน เพื่อที่จะรองรับคนดูให้เพียงพอ

24.นุ๊ก สุทธิดา เคยฝันอยากเป็นนักวิ่งทีมชาติ อย่างเรวดี ศรีท้าว แต่พอเล่นละคร จักร์ๆ วงศ์ๆ เลยมาได้เล่นเอ็มวีของต้อม เรนโบว์ จากนั้นนุ๊กก็ได้กลายเป็นนักร้องหญิงคนแรกของค่าย เธอออกอัลบั้มแรก โดยเลือกเพลง "รักกวนๆ" ของวงทู เป็นเพลงออดิชั่น

นุ๊กเล่นหนัง เรื่องแรก "โลกทั้งใบฯ" ทำรายได้ 55 ล้าน แล้วก็หนีไปเล่นหนังและละครอีกหลายเรื่องตามสไตล์ นางเอกสุดฮ็อต แล้วเธอก็ออกอัลบั้มที่สอง ซึ่งห่างจากอัลบั้มแรก 3 ปี พอกำลังจะปล่อยซิงเกิ้ลแรก นุ๊กได้ย้ายไปอยู่อังกฤษ แต่เพลงในอัลบั้ม เช่น "แค่ไม่รัก" และ "เป็นอันสลบ" ก็ยังดังอยู่ในเมืองไทย

นุ๊กเคยเป็นพิธีกรรายการ saturday show on the beach ซึ่งเป็นรายการเพลงที่ฉายในช่วงวันหยุด

25.แรปเตอร์

เสือ ธนพล ได้คิดชื่อนี้ออก ตอนดูหนังเรื่อง "จูลาสสิก พาร์ค" คิดออกในฉากที่มีไดโนเสาร์ กำลังไล่กวดเด็กๆ จึงเป็นที่มาของชื่อ

"แร็ปเตอร์"

หลุยส์กับจอนนี่เป็นเพื่อนกัน เรียนโรงเรียนเดียวกัน มาเทสต์เพื่อเล่นเอ็มวีเหมือนกัน แต่ได้จับคู่เป็นนักร้องด้วยกัน

ขณะนั้น มีดูโอ ที่เมืองนอก ชื่อวง "kris kross" ซึ่งบุคลิกลักษณะเหมือนกันกับแรปเตอร์ ปัจจุบันวงนี้คือผู้จุดกระแส เพลงเก่า อีกครั้ง

26.ลิฟท์ ออย

ลิฟท์ ชื่อเล่นจริงๆ ว่า "โด่ง" เป็นคน "ลำพูน" ส่วน "ออย" เป็นคน "ราชบุรี"

ลิฟท์ถูกเรียกให้เข้ามาเทสต์เสียงพร้อมกับรู้จักกับออย ทั้งสองถูกใบสั่งว่า "ทำยังไงก็ได้ให้สนิทกันมากที่สุด"

ทั้งคู่เลยไปเช่าบ้านอยู่ด้วยกัน ซึ่งบ้านนั้นมีประมาณ 10 คน (มีเจมส์ เรืองศักดิ์ ด้วย)

ทั้งสองเปิดตัวครั้งแรกในงาน RS Meeting concert ซึ่งเป็นแขกรับเชิญ แต่ดังมากกกกกกก
อัลบั้มแรก ทำยอดขายเกิน ล้านตลับ ทำให้ต้องเปลี่ยนปกใหม่เอาใจแฟนๆ

อาร์เอสทำอัลบั้ม "สนามเด็กเต้น" เพื่อลบล้างอาถรรพ์เลข 2 แล้วก็ทำสำเร็จ เพราะ zoo-a-ha ก็โด่งดังมากจริงๆแต่ดูโอคู่นี้มาแยกกันเพราะ ออย ติดทหารสองปี


27.เจอาร์ วอย
วอย ออกจากบ้านเพื่อตระเวณเล่นดนตรีตามงานต่างๆ และส่งเดโมเข้าค่ายอินดี้
เจอาร์ มาอัด สปอตให้เพลง ไซเรนเลิฟ และไม่อาจเปลี่ยนใจ
ทั้งคู่่ห่างกัน 7 ปี เรียนกรุงเทพคริสเตียนเหมือนกัน
แต่มาจับคู่กันเป็นคู่หูต่างวัย

28.ทัช
เคยออกอัลบั้ม "ทัช ไซโคลน" แต่ด้วยคดียาเสพติด ทำให้ฟังเพลงในอัลบั้มนี้จากทางวิทยุเท่านั้น ไม่อนุญาตให้ออกทีวี เพราะต้นสังกัดแบน เพลงในอัลบั้มนี้ "ไม่มีใครยอมได้ ไม่มีใครยอมให้"

29.เจมส์
เพลงไม่อาจเปลี่ยนใจ แต่งโดย เวสป้า จิตติพล บัวเนียม เพลงนี้แต่งเป็นเพลงสุดท้ายของอัลบั้มที่สอง และไม่ได้เป็นเพลง 1 ใน 3 ของเพลงโปรโมทด้วย
(เพลงโปรโมทมี ไซเรน เลิฟ ด้วยไอรัก และ ข้าวมันไก่)

30.หนังเรื่องแรกของอาร์เอสคือ รองต๊ะ แล๊บแปล๊บ แล้วก็มีหนังออกมาอีกหลายเรื่อง แต่ถูกคั่นด้วยยุคซบเซาของหนังไทย ก่อนจะกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง กับหนังเรื่อง มือปืน โลก พระ จัน ที่ทำรายได้ 100 ล้าน

31.ท่าเต้นในเพลง ดูมั้ยดู เป็นท่าที่ได้มาจากหนังเรื่อง nutty professor ที่แปลงมาจากท่าดีใจของเอ็ดดี้เมอร์ฟี่

ส่วนท่าเต้น ยูเอฟโอ ของ ราฟฟี่ แนนซี่ ทีมแดนซ์คิดกันตั้งแต่ 5โมงเย็น ถึง 6 ทุ่ม สุดท้ายมาสรุปที่เลือกท่าที่คิดท่าแรก (จนปัจจุบันถูกเอามาล้อเลียนอย่างทะลึ่งๆ 555)
จบแล้วครับ

ขอบคุณ  เปริมี่1
http://www.pantip.com/cafe/chalermkrung/topic/C12638079/C12638079.html