ถนอมมือให้เนียนนุ่ม
หลายคนคงสงสัย มือของเราก็ใช่ว่าจะสมบุกสมบันลุยงานหนัก แต่ทำไมจึงยังแห้งกร้าน ไม่นุ่มนวล ดูแล้วขัดตาจริง ๆ จะอวดใครก็ไม่กล้า ปล่อยไว้ไม่ได้แล้ว ถึงเวลาดูแลเอาใจใส่มือของคุณเสียที
สมุนไพรถนอมมือ
สูตรที่ 1 เอาเปลือกส้มเขียวหวานประมาณ 2-3 ผล แช่ในน้ำประมาณ 30 นาที จากนั้นนำมาชโลมทาบริเวณมือ โดยทาทุกวัน น้ำจากผิวส้มจะช่วยถนอมมือให้นุ่มนวล
สูตรที่ 2 นำเปลือกส้มจีนมาตำพอแหลก แล้วแช่ลงไปในแอลกอฮอล์หรือสุรา ใส่ขวดปิดไว้ให้แน่นสนิท ทิ้งไว้ 1 สัปดาห์ แล้วกรองเอากากออก ใช้น้ำยานี้มาทาถนอมมือ เพราะเปลือกส้มมีกรดที่ช่วยถนอมผิว
สูตรที่ 3 นำสับปะรดมาหั่นพอดีคำ ใช้เพียง 4-5 ชิ้น แล้วใส่ในเครื่องปั่น เติมน้ำผึ้งลงไป 2 ช้อนโต๊ะ ปั่นให้ละเอียดเป็นครีมเหลว (กรณีไม่มีเครื่องปั่น ให้ใช้ช้อนหรือส้อมตีๆ ยีๆ ให้สับปะรดเละเหลว แล้วผสมน้ำผึ้งคลุกเคล้าให้เป็นเนื้อเดียวกัน) จากนั้นล้างมือให้สะอาดด้วนน้ำอุ่นกับสบู่ แล้วเช็ดซับน้ำให้หมาด ใช้ครีมสับปะรดชโลมลูบไล้มือทั้งสองข้าง ล้างออกด้วยน้ำอุ่นๆ แล้วใช้ผ้าขนหนูซับจนแห้งดีตบท้ายด้วยโลชั่นที่คุณใช้เป็นประจำ
สูตรที่ 4 หยดน้ำมันมะกอก 1-2 หยด ในน้ำอุ่น 1 แก้ว เอาน้ำนี้ล้างมือ แล้วใช้ผ้าซับให้แห้ง ป้องกันไม่ให้มือหยาบกร้าน
ให้สวมถุงมือเมื่อทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ยกตั้งหนังสือ การหยิบยกกระเป๋าเดินทางหนัก ๆ หรือแม้แต่หิ้วถังน้ำ การพรวนดิน ทำสวนดอกไม้หรือต้นไม้ไว้หน้าบ้าน ฯลฯ การสวมถุงมือเป็นประจำช่วยป้องกันไม่ให้ผิวพรรณที่มือเสียไปโดยง่าย
ทำเป็นประจำทุกวัน รับรองว่ามือของคุณจะเนียนนุ่มอยู่เสมอ
โรคแฝงมากับอาหารขยะ (junk food)
สังคมปัจจุบันนี้ มีการแข่งขันสูง ความเร่งรีบจึงทำให้ลักษณะนิสัยของผู้บริโภคต้องการความสะดวก รวดเร็ว หาซื้อได้ รับประทานได้ทุกที่ทุกเวลา อาหารสำเร็จรูปและอาหารจานเดียวจึงเป็นทางเลือกยอดนิยม ที่หลายคนเรียกอาหารเหล่านี้ว่า "Jung Food" หรือ "อาหารขยะ" นั่นเอง
โดยนักโภชนาการ เปิดเผยถึงอาหารจำพวก แฮมเบอร์เกอร์ม เฟรนซ์ฟราย, พิซซ่า และ น้ำอัดลม ว่าเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูงแต่โปรตีนน้อยมาก และมีคุณค่าทางโภชนาการต่ำ จึงไม่สนับสนุนให้กินเป็นอาหารมื้อหลัก หากกินอาหารเหล่านี้มากๆ อาจส่งผลต่อร่างกายหรือได้รับโรคที่แฝงมากับอาหารก็เป็นได้
- โรคหัวใจ คอเลสเตอรอบสูง เพราะกินอาหารที่มีไขมันบ่อย พอสะสมในร่างกายเยอะๆ เสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิตและโรคไต
- โรคข้อกระดูกอักเสบ น้ำหนักที่มากเกิน ส่งผลให้ข้อเข่าและสะโพกล้า กระดูกอ่อนอาจเสื่อมสภาพได้
- โรคตับ หากสะสมไขมันในตับ อาจทำให้เป็นโรคตับแข็งได้
- โรคเบาหวาน พอมีไขมันที่หน้าท้องมากเกิน ทำให้เกิดการต้านอินซูลินส่งผลให้สะสมกลูโคสในร่างกายทำให้เป็นเบาหวาน ส่งผลให้ทำลายหลอดเลือดในจอตา ทำให้ตาบอดแทรกซ้อนได้
- ไขมันในเลือดสูง เพราะกินอาหารจำพวกนี้เป็นประจำ เสี่ยงต่อการเป็นเส้นเลือดในสมองอุดตัน หลอดเลือดพิการ เพราะไขมันไปเกาะผนังหลอดเลือด
ไม่ว่าจะเป็นอาหารอะไร ล้วนแต่มีประโยชน์ หากรู้จักเลือกรับประทาน และทานในปริมาณที่เหมาะสม หรือจะลองเปลี่ยนจาก Fast Food จานด่วนต่างชาติเป็นข้าวราดแกงริมฟุตบาท ที่คุณค่าทางโภชนาการเหมาะกับคนไทยอย่างเรา ก็ยิ่งดี
ที่มา ... Tv inside