
พูดถึง “ความกลัว” ถือเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ แต่การกลัวสิ่งแปลก ๆ เช่น กลัวผลไม้ สัตว์บางชนิด หรือ สถานที่บางแห่ง โดยมักจะมีอาการหลัก ๆ อย่าง ใจสั่น หัวใจเต้นแรง อึดอัด มือเย็น เหงื่อแตก หน้าซีด ท้องไส้ปั่นป่วน คล้ายจะเป็นลม ไม่อยากเผชิญหน้า จนมีผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของคน ๆ นั้นมาก
เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ผศ.พญ.วินิทรา นวลละออ จิตแพทย์ และผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า ภาวะดังกล่าวเรียกว่า “โรคกลัว” หรือ “โฟเบีย (Phobia)” ซึ่งอยู่ในกลุ่มโรควิตกกังวล แบ่งได้ 2 กลุ่มใหญ่ คือ สเปซิฟิค โฟเบีย (Specific phobia) เช่น กลัวสิ่งของ กลัวสถานที่บางอย่าง เช่น ที่แคบ ซึ่งเฉพาะเจาะจง
สอง คือ โซเชียล โฟเบีย (Social Phobia) กลัวการเผชิญหน้าผู้คนจำนวนมาก ซึ่งเป็นคนที่ไม่คุ้นเคย เช่น การพูดต่อหน้าคนเยอะ ๆ นำเสนอหน้าห้องประชุม แต่หากเป็นการพูดต่อหน้าคนในครอบครัว 5-6 คนที่คุ้นเคย ก็จะไม่เป็น
ซึ่ง ผศ.พญ.วินิทรา เผยว่า มักพบกลุ่มโซเชียล โฟเบีย เป็นส่วนใหญ่ โดยที่ความกลัวนั้น คือ กลัวจะแสดงท่าทางน่าอายออกไป เช่น กลัวไปยืนขาสั่น กลัวจะขึ้นไปบนเวทีแล้วพูดไม่ออก กลัวว่าจะทำในสิ่งน่าอายต่อหน้าคนเยอะ ๆ ผลตามมาก็คือการพยายามหลีกเลี่ยง เพราะฉะนั้น ก็จะเสียโอกาสในการทำงานหลายครั้ง
ทั้งนี้ การกลัวสิ่งแปลก ๆ นั้น แต่ละคนจะมีประสบการณ์ต่างกัน ซึ่งสัตว์แปลก ๆ บางอย่างอาจจะไปซ้อนทับกับภาพบางอย่างในอดีตของเขา หรือ สัตว์แปลก ๆ นั้นอาจจะไปอยู่ในเหตุการณ์ที่เขากลัวมากแล้วเกิดคู่กัน เช่น ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์แล้วบังเอิญมีสัตว์นั้นอยู่ใกล้ตัว เป็นต้น
สำหรับการรักษา ผศ.พญ.วินิทรา กล่าวว่า มีทั้งการใช้ยา รวมทั้งใช้พฤติกรรมบำบัด หลักการ คือ ให้เผชิญหน้ากับความคิดที่กลัว โดยคำนึงถึงความปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อชีวิตคนไข้ ตลอดจนปัจจัยด้านสุขภาพ ร่างกายของแต่ละบุคคล และลักษณะรูปแบบของอาการที่คนไข้เผชิญด้วย.
ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว