เลือดกำเดาบอกโรคอะไรได้ และควรจะปฏิบัติตัวอย่างไรหากเลือดกำเดาออกบ่อย ๆ มาดูกันเลย
1.ไข้หวัด ไซนัสอักเสบ เยื่อจมูกอักเสบ เมื่อสั่งน้ำมูกมาก จนเส้นเลือดฝอยในจมูกแตก ทำให้มีเลือดกำเดาไหล ซึ่งถ้ารักษาโรคที่เป็นต้นเหตุ หรือดูแลร่างกายให้แข็งแรง เพื่อเป็นการป้องกันโรคทางเดินหายใจเหล่านั้น อาการเลือดกำเดาไหลก็จะหายไปด้วย
2.เส้นเลือดฝอยเปราะเนื่องจากอากาศแห้ง หรือกรณีที่เป็นหวัดบ่อย ๆ ควรรับประทานอาหารที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม ฝรั่ง มะเขือเทศ มะขามป้อม สับปะรด เป็นประจำก็จะช่วยป้องกันได้ สำหรับในเด็ก ส่วนมากจะเกิดจากการแคะจมูกแรง ๆ ถ้าแบบนี้ก็ต้องสอนเด็ก และหากิจกรรมให้เด็กทำมือจะได้ไม่ว่างไปแคะจมูก และที่พบบ่อยอีกอย่างคือถูกกระแทกที่ดั้งจมูก หรือหกล้มค่ะ
ควรปฐมพยาบาลด้วยการ นั่งเงยหน้าขึ้น หรือก้มหน้าลงมาก ๆ แล้วใช้มือบีบปีกจมูกทั้งสองข้าง นาน 5-10 นาที ระหว่างนั้นให้หายใจลึก ๆ ทางปากแทน แต่ถ้ามีเลือดกำเดาไหล ร่วมกับมีเลือดออกตามส่วนอื่น ๆ ด้วย หรือมีจุดแดงจ้ำเขียวตามตัว ซ้ำยังรู้สึกแน่นอึดอัดท้อง ควรที่จะไปพบแพทย์ด่วน เพราะอาจเป็นโรคเลือด และหากคุณมีนิสัยเครียดเป็นประจำ ชอบรับประทานอาหารมัน ๆ เรื่องออกกำลังกายไม่ต้องพูดถึง และมีอาการเลือดกำเดาไหลอยู่บ่อย ๆ ขอแนะนำว่าไม่ควรมองข้ามการตรวจเช็คความดันเลือดค่ะ เพราะอาจจะเกิดจากโรคความดันโลหิตสูง
หรือถ้ามีเลือดกำเดาไหลร่วมกับอาการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ เช่น น้ำหนักลด มีก้อนที่คอ เสียงแหบนานกว่า 3 สัปดาห์ คัดจมูกเรื้อรัง พบเนื้องอกในรูจมูก เหล่านี้ล้วนไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะอาจเป็นเนื้องอก หรือมะเร็งในจมูกหรือลำคอได้ ร่างกายคือเครื่องตรวจที่ซื่อสัตย์ หากไม่ละเลยที่จะรับรู้สิ่งที่ร่างกายฟ้องออกมาบ้างก็ยาก ที่จะลุกลามเป็นโรค ภัยร้ายแรงค่ะ