สมัยนี้เวลาจะคบหาใครสักคนที นอกจากต้องดูหน้าดูตาว่าเหมาะสมกะเราไหม (แหมพูดหยั่งกะหน้าตาตัวเองดีตายชักถึงต้องเลือกสรรให้ลงล็อกกันเข้าไปนู่น) แต่อย่าลืมว่า “การดูใจ” ก็เป็นอีกสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะขืนหน้าตาดีอย่างเดียว แต่ใจไปคนละโยชน์ หรือตรงข้ามกับหน้าตาที่ทั้งหล่อหรือสวยแล้วละก็ แสดงว่าหน้าตาดีแต่ใจดำอ่ะเดะ หากคบกันไปก็ใช่ว่าจะมีความสุขว่ามะ
แต่ในเมื่อสังคมยุคนี้มีความสลับซับซ้อนมากกว่าเดิม เพราะนอกจากจะมีคนดี, คนดีปานกลาง, คนเลว, คนเลวพอประมาณ ไปจนถึงคนติงต๊องจริงและติงต๊องปลอมๆ ผสมปนเปกัน จึงหวังว่าพวกเราจะไม่ตาถั่วเลือกพวกโรคจิต หรือมีปัญหาทางอารมณ์มาเป็นแฟนละกัน พูดนี่ไม่ได้ว่าผู้ป่วยตัวจริงนะ เพราะคนเหล่านี้ที่ไม่สร้างปัญหาให้ สังคมก็มีถมเถ
ส่วนคนสติดีๆ นี่สิ เวลามีแฟนแล้วแฟนทำอะไร ให้ไม่ได้ดังใจ จนกลายไปมีปัญหาทางใจ หันมาแกล้งแฟนต่างๆนานา หรือบางคู่ยังไม่ทันเป็นแฟนกันด้วยซ้ำ แต่พอไปรักเค้าแล้วเค้าไม่รักตอบ ก็เกิดอาการช็อกเลือดขึ้นหน้ารับไม่ได้และตั้งตัวไม่ทัน ทีนี้ล่ะกลายเป็นอาฆาตตามราวีแฮะ บางทีแกล้งกันจนเป็นข่าวฮือฮาอย่างไม่น่าเชื่อเลยว่าจะทำกันได้ ซึ่งคนแบบนี้แหละที่กะเขียนถึงคราวนี้ล่ะ
หากท่านใดกำลังอยากเลิกกับแฟนที่เป็น “คนใจคอไม่ปกติ” อย่างเงี้ยะนะ ขอแนะนำให้ พิจารณาตัวคุณเองก่อนเถอะว่า ไอ้การที่เค้ากลายเป็นคนใจคอไม่ปกติน่ะ มีสาเหตุมาจากคุณด้วยรึเปล่า? เช่น คุณทำให้เค้าไม่ไว้วางใจบ้างมะ หรือไปทำท่าว่ารักม้ากมาก แต่ลับหลังเอาเค้าไปพูดซะเสียงี้ หรือปล่อยข่าวลือไปนู่นเลยว่า เค้าเป็นหยั่งงั้น หยั่งงี้ ทั้งที่เจ้าตัวไม่ได้เป็นสักหน่อย แต่ไม่อยากอยู่ด้วยกันแล้วไง จึงทำให้เค้ามีภาพพจน์ไม่ดีในสายตาประชาชีซะเลย เออ…แล้วน่าแค้นมะ
แต่ถ้าคุณไม่ใช่คนหาเรื่องก่อน ทว่าจู่ๆ เค้าก็ “สติแตก” ขึ้นมาเอง จนคุณคิดแล้วว่า ไม่น่าอยู่ด้วยกันได้อีกต่อไป จึงอยากเซย์กู้ดบาย งั้นเอางี้มะ…
1. ค่อยๆ พูดค่อยๆ จา และลองอดทนอีกนิด ก่อนแยกทางกันเถอะ
เมื่อเคยเป็นแฟนก็น่าจะมีอะไรดีๆ ที่เคยผูกพันกันอยู่มั่งฮี่ หากจะบ๊ายบายละก็ ควรทำอย่างถนอมน้ำใจไว้มั่ง แบบค่อยๆ บอก ค่อยๆ อธิบายให้เค้ารู้ ก็ได้ว่าตอนนี้คุณอยากอยู่คนเดียว แล้วให้เค้าไปตีความเอาเองต่อ หวังว่าคงมีเซนส์รับรู้ความรู้สึกของกันบ้าง แต่ถ้าจำเป็นต้องพูดตรงๆ ก็พูดไปเถอะ
2. อย่าลืมขอของของคุณที่เค้ามีอยู่กลับคืนมาด้วย
แต่อย่าเอาคืนเหมือน “คนหวงของ” โดย เฉพาะสิ่งใดที่คุณซื้อให้เค้าเป็นของขวัญ สิ่งเหล่านี้ถือว่าให้แล้วให้เลย อย่าไปเอาคืนเชียว ที่บอกให้เอาคืนก็เฉพาะในส่วนที่เป็นของคุณจริงๆ เช่น นาฬิกาของคุณที่ใส่อยู่ประจำ, สร้อยคอที่ใส่ติดตัวมาตั้งแต่ ไหนแต่ไร หรือรูปภาพของคุณ ก็เก็บคืนมาซะ เว้นแต่ ของหยุมหยิมเล็กๆ น้อยๆ ถ้าให้กันได้ก็ไม่ควรงกนะ ที่ให้นำสมบัติส่วนตัวคืน ก็ไม่ใช่อะไรเพราะเกรงว่าเค้าจะเอาไปทำพิธีวูดู กลั่นแกล้งคุณต่อน่ะซี แม้เค้าจะไม่ใช่หมอผีขนานแท้ ก็อย่าเสี่ยงเลย
3. ถ้าเค้ายังตื๊อโทร. มาขอนอนด้วยอีกล่ะ คุณจะทำไง?
บางทีไม่พูดออกมาอย่างโจ่งแจ้ง แต่คงพยายามใช้ลูกอ้อนให้เป็นประโยชน์ เผื่อว่าคุณอาจใจอ่อน และยอมกลับมามีความสัมพันธ์กันอีกครั้ง โดยครั้งนี้เค้าทำเนียนด้วยการให้สัญญิงสัญญาซะดิบดี ว่าจะเป็นคนใหม่ที่ไม่สะกดรอยตามคุณเวลาคุณไปไหนต่อไหนอีกแล้วอะไรเงี้ยะ หรือจะไม่เผายางรถยนต์เพื่อประชดคุณอีก…เป็นต้น เพื่อมามะมาคืนดีกัน ก็แล้วแต่คุณละกันว่าจะเชื่อรึเปล่า
หากการกระทำคราวก่อนของเค้า (ที่ทำให้คุณเสียความรู้สึก) เป็นเพราะหุนหันพลันแล่นชั่ววูบ และคุณไม่ได้ติดใจ ถือว่าการให้อภัยก็เป็นสิ่งที่ดี แต่หากเค้าโกหกล่ะ คงรู้นะว่าจะรับมือยังไงใช่มะ
4. อย่าลืมนำของของเค้าที่อยู่กับคุณ ไปคืนให้เค้าด้วย
เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องเก็บของเหล่านี้เอาไว้กับตัวแล้วนี่ อีกอย่างถ้าเก็บของของเค้าไว้แล้วทำให้คุณประสาทเสีย คล้ายเจอภาพหลอนกับการกระทำเพี้ยนๆ ของเค้าในอดีตล่ะก็ อาจทำให้คุณประสาทแด๊กซะเองนะยะ อย่าทำเป็นขี้เหนียวของที่ไม่ใช่ของเราเลย ต่อให้ของสิ่งนั้นมีราคาแพงยับเยิน เอ๊ย แพงระยับแค่ไหนก็เหอะ แต่หากคุณดันเก็บของของเค้าไว้โดยไม่ยอมคืนสิ (แถมเค้าก็ไม่ได้เอ่ยปากมอบให้คุณซะด้วย) ระวังเหอะ เดี๋ยวได้เจอฤทธิ์ขี้วีน หรือตามรังควานไม่เลิกไม่รา แล้วจะร้องจ๊าก อย่าให้เค้าตามมาเฉ่งแบบแอบเข้าไปทำลายข้าวของในบ้านของคุณ โอ๊ยหวาดเสียวสิ หนูเตือนแล้วน้า
5. ถ้าจะเลิกกันจริงๆ ขอให้เลือกสถานที่บอกลาในที่สาธารณะ
เพราะดีสำหรับคุณเองน่ะสิ หากเลือกบอกเลิกที่สวนสาธารณะ, ร้านอาหาร หรือในห้างสรรพสินค้า ที่มีผู้คนพลุกพล่าน ก็จะไม่เปิดโอกาสให้เค้ากรีดร้อง, คร่ำครวญ หรือแสดงความเสียใจมากมายเกินกว่าเหตุไง แล้วถ้าเค้าเกิดประสาทเสียเพราะรับเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ และอยากทำอะไรบ๊องส์ๆ ออกมา อย่างตะโกนต่อว่าคุณ, ใช้จานชามขว้างปาใส่ หรือแม้แต่ กระชากตัวคุณและกะจะทำร้ายละก็ ถึงงั้นคุณก็ไม่น่าตกอยู่ในอันตรายมากนัก เพราะที่สาธารณะมีพยาน เยอะแยะที่สามารถชี้ตัวคนที่ทำร้ายคุณได้
6. เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ซะให้หมด ส่วนอีเมล์เปลี่ยนด้วยก็ดี
หากเค้ารู้เบอร์โทร.ทุกเครื่องของคุณ ซึ่งแหงล่ะย่อมรู้อยู่แล้ว ถ้าอยากตัดความรำคาญไม่ให้เค้าติดต่อคุณได้อีกต่อไป ก็ต้องเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ทั้งมือถือและเบอร์บ้านซะแล้ว และอย่าให้เบอร์ใหม่ ล่วงรู้ไปถึงเค้าด้วย ไม่งั้นอาจเป็นไปได้ที่จะโทร.มาตามตื๊อ หรือโทร.มาจิกด่าว่าคุณซะงั้น ถ้ารับมือได้ ทั้งหมดตามที่เว้ามา หลังจากนี้คุณคงโล่งใจที่ได้เลิกกะคนพรรค์นี้แล้ว จริงไหมฮ้า…