อันดับที่ 5 กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน
(ดีที่สุดในด้าน : วัฒนธรรม , ความคุ้มค่า , อาหาร)
ปักกิ่งเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองรองจากเซี่ยงไฮ้ ทั้งยังได้ชื่อว่าป็นศูนย์กลางด้านศิลปวัฒนธรรมของประเทศจีนอีกด้วย แม้การจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนที่กรุงปักกิ่งจะผ่านไปนาน 4 ปีแล้ว แต่ยังคงทิ้งร่องรอยต่างๆ เช่น ป้ายบอกทางภาษาอังกฤษ และสถานที่จัดการแข่งขันที่มีรูปแบบสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นเอาไว้ให้ระลึกถึง และเมื่อไม่นานมานี้ ได้มีการเปิดใช้รถไฟความเร็วสูงบนเส้นทางปักกิ่ง - เซี่ยงไฮ้ ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวระหว่างสองเมืองสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น เพราะใช้เวลาไม่ถึง 5 ชั่วโมง สำหรับการเดินทางราว 1,300 กม.
อันดับที่ 4 ลอนดอนเดอร์รี่ ไอร์แลนด์เหนือ
(ดีที่สุดในด้าน : วัฒนธรรม , กิจกรรม , ครอบครัว)
ลอนดอนเดอร์รี่ หรือ เดอร์รี่ เป็นหนึ่งในเขตการปกครองของไอร์แลนด์เหนือ* ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเมืองแห่งวัฒนธรรมของสหราชอาณาจักร ประจำปี 2013 นักท่องเที่ยวจึงไม่ควรพลาดการเข้าร่วมกิจกรรมด้านศิลปวัฒนธรรมในเมืองเดอร์รี่ ที่จะจัดหนักจัดเต็มตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลดนตรี การแสดงและการละเล่นต่างๆ ตลอดจนนิทรรศการด้านศิลปะ นอกจากนี้ ในปีหน้าเมืองเดอร์รี่ยังได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดงาน "All Ireland Fleadh" ซึ่งเป็นเทศกาล (ประกวด) ดนตรีไอริชที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก (จัดขึ้นในไอร์แลนด์เหนือเป็นครั้งแรก)
* ไอร์แลนด์เหนือ คือ 1 ใน 4 เขตการปกครองหลักของสหราชอาณาจักร (ประกอบด้วย อังกฤษ สกอตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ) มีพื้นที่ติดต่อกับประเทศไอร์แลนด์
อันดับที่ 3 เมืองไฮเดอราบัด รัฐอานธรประเทศ ประเทศอินเดีย
(ดีที่สุดในด้าน : วัฒนธรรม , อาหาร , ความคุ้มค่า)
ในอดีตไฮเดอราบัดเคยเป็นเมืองหลวงของรัฐปกครองตนเอง (ภายใต้จักรวรรดิอังกฤษ) ที่มั่งคั่ง หลังอินเดียได้รับเอกราชจากอังกฤษ วังและสวนที่สวยงามต่างถูกนำออกขาย บ้างก็ถูกรื้อทิ้งแล้วสร้างใหม่ หรือไม่ก็โดนมือดียกเค้า นับว่ายังดีที่วังหลายแห่งในเขตเมืองเก่าของไฮเดอราบัดถูกบูรณะซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพสวยงามดังเดิม และหนึ่งในนั้นก็คือ "ฟาลัคนุมา พาเลซ" ที่ปัจจุบันกลายเป็นโรงแรมหรูเจ็ดดาวของทาจกรุ๊ป นอกจากวังแล้วยังมีอาคารและอนุสรณ์สถานหลายแห่งที่อยู่ในระหว่างการบูรณะซ่อมแซมด้วยเช่นกัน แต่ยังมีบางพื้นที่ในเมืองไฮเดอราบัดที่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยี่ยมชม ดังนั้น ปีหน้าจึงเป็นปีที่เหมาะสมสำหรับการเดินทางไปสำรวจพื้นที่อันซีนในย่านเมืองเก่าของไฮเดอราบัด
อันดับที่ 2 กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
(ดีที่สุดในด้าน : วัฒนธรรม , กิจกรรม , อาหาร)
อัมสเตอร์ดัม เป็นเมืองที่มีมนต์เสน่ห์เสมอในสายตานักท่องเที่ยว แต่ในปี 2013 เมืองนี้จะยิ่งเต็มไปด้วยสีสันและมีกิจกรรมที่สำคัญให้ร่วมเฉลิมฉลองมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การเฉลิมฉลองระบบคลอง (ที่รายล้อมเมือง 4 ชั้น) ครบรอบ 400 ปี , งานฉลองครบรอบ 160 ปี "วินเซนต์ แวน โกะห์" , พิพิธภัณฑ์ "วินเซนต์ แวน โกะห์" จะเปิดให้เข้าชมอีกครั้งในวาระครบรอบ 40 ปี , พิพิธภัณฑ์ไรค์ส (Rijksmuseum) จะเปิดให้เข้าชมอีกครั้งหลังปิดปรับปรุงนาน 10 ปี , วงซิมโฟนี ออร์เคสตราดีที่สุดในโลก "เดอะ รอยัล คอนเสิร์ตเคอะบาว ออร์เคสตรา" ในกรุงอัมสเตอร์ดัม จะครบรอบ 125 ปี นอกจากนี้ สวนสัตว์ "อาร์ติส รอยัล ซู" และ ศูนย์วัฒนธรรม "ฟีลิกซ์ เมอริติส" ก็จะฉลองครบรอบ 175 ปี และ 225 ปี (ตามลำดับ) ด้วยเช่นกัน
อันดับที่ 1 ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา
(ดีที่สุดในด้าน : วัฒนธรรม , กิจกรรม , อาหาร)
โลนลี่ แพลนเน็ต เลือก "ซานฟรานซิสโก" ให้เป็นเมืองน่าเที่ยวที่สุดในโลก ประจำปี 2013 เพราะนอกจากจะเป็นเมืองที่มีลักษณะภูมิประเทศโดดเด่น มีทิวทัศน์ที่สวยงาม และมีความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรมแล้ว ในปีหน้า ซานฟรานซิสโกจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเรือใบ "อเมริกา’ส คัพ" ครั้งที่ 34 ส่งผลให้มีการแปลงโฉมและปรับปรุงสถานที่โดยรอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ริมอ่าวซานฟรานซิสโก
--------------------
(หมายเหตุ : ที่มา : http://paow007.wordpress.com/)
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว