การกระทบกระทั่งระหว่างคู่รักนั้น ตัวการสำคัญหนึ่ง คือ เหตุจาก ‘ความไม่เข้าใจกัน’ โดยเมื่อมีประเด็นปัญหามาสะกิดใจ หรือ เกิดความไม่ลงรอยทางความคิดบางอย่าง แล้วสร้างความรู้สึกอึดอัด ยากจะเก็บไว้ให้กระวนกระวาย หลาย ๆ คู่ก็จะใช้กระบวนการซักถาม และชี้แจง ซึ่งภาวะดังกล่าว มักดึงอารมณ์ฉุนเฉียวให้เข้ามาเกี่ยวข้องได้ง่าย
จริง ๆ แล้วการหันหน้ามาสื่อสารกันเพื่อปรับความเข้าใจ ถือเป็นเครื่องมือที่ไม่เพียงสำคัญสำหรับคู่รัก แต่ยังจำเป็นในทุก ๆ ความสัมพันธ์ก็ว่าได้ ซึ่ง ‘คงไม่ดีแน่หากการพูดคุยนั้นเต็มไปด้วยอารมณ์’ ซึ่งมักจะจบลงด้วยความขุ่นเคืองกันมากกว่าเดิม ทั้งยังไม่ได้ข้อยุติ หรือ พบทางออกที่รอบคอบรอบด้าน ด้วยเสียงตะคอกใส่กันไปมา ยั่วยุกระตุ้นให้เกิดความพลุ่งพล่านของอารมณ์ได้ง่าย
ควรรอให้ใจเย็นทั้งสองฝ่ายแล้วค่อยหันมา ‘เปิดใจรับฟัง เคารพความรู้สึกกันและกัน’ ด้วยการสื่อสารทางบวก เพื่อหาทางออกอย่างมีสติ และตั้งอยู่บนพื้นฐานของเหตุผล ร่วมแชร์ความต้องการของแต่ละฝ่ายอย่างตรงไปตรงมา เพื่อหาความพอดีตรงกลางที่ทั้งสองยอมรับได้ เข้าใจตรงกัน
นอกจากนั้น เมื่อเกิดความไม่เข้าใจกัน ‘ควรหลีกเลี่ยงการถือทิฐิต่างคนต่างอยู่’ ระวังจะเป็นปัจจัยบ่อนทำลายความรู้สึก และอาจนำมาซึ่งอุบัติเหตุรักด้านอื่น ๆ ตามมา อย่างไรก็ตาม ชีวิตรักมักมีเหตุการณ์ผ่านเข้ามาให้ทำความเข้าใจได้ตลอด เปรียบเหมือนหนังสือหลากหลายประเภทที่ต้องใช้เวลาอ่าน และศึกษา จึงต้องค่อย ๆ ปรับจูนเข้าหากัน พร้อมเรียนรู้ที่จะยืดหยุ่น และให้อภัย เพราะสุดท้ายแล้ว เป้าหมายก็เพื่อความเข้าใจกัน ทั้งยังเป็นการปูพื้นฐานสู่ความแข็งแรงของเส้นทางรักในอนาคต.