กระทรวงกลาโหมอังกฤษออกแถลงการณ์ด่วนเมื่อวันอาทิตย์ (18 พ.ย.) แก้ต่างกรณีถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เกี่ยวกับปฏิบัติการซ้อมรบโดยใช้หมูเป็น “เหยื่อ” ในการฝึกยิง ก่อนส่งมอบหมูที่บาดเจ็บต่อให้ศัลยแพทย์ทหารใช้ฝึกเย็บแผล
น.ส.แคลร์ เคนเน็ธ โฆษกหญิงของราชสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์ ( อาร์เอสพีซีเอ ) กล่าวว่า ปฏิบัติการซ้อมรบดังกล่าว ที่จัดขึ้นปีละ 2 ครั้งในเดนมาร์ก เป็นการกระทำที่ “น่าขยะแขยง” และ “น่าสะพรึงกลัว” อย่างยิ่ง เนื่องจากหมูเป็นสัตว์ที่มีความเฉลียวฉลาด และรักการอยู่อาศัยอย่างสงบ แต่กลับถูกนำมาฉีดยาชา ก่อนปล่อยลงสู่สนามเพื่อการฝึกซ้อมยิง ที่บางครั้งเป็นการยิงในระยะเผาขน ทั้งที่รัฐบาลมีทางเลือกอื่นอีกมากมายในการจัดซ้อมรบ โดยไม่จำเป็นต้องทารุณสัตว์อย่างโหดร้ายเช่นนี้
ทว่าแถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมอังกฤษ กลับระบุว่า ปฏิบัติการซ้อมรบดังกล่าวจะช่วยพัฒนาฝีมือ และสร้างเสริมประสบการณ์ให้แก่ศัลยแพทย์ของกองทัพ พร้อมกับแก้ต่างว่า แม้ยาชาที่ทางกองทัพใช้จะมีฤทธิ์ค่อนข้างรุนแรง แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อระบบอวัยวะภายในของหมูอย่างแน่นอน นอกจากนี้ ปฏิบัติการฝึกซ้อมที่จัดขึ้น เป็นความต้องการฝึกฝนศัลยแพทย์ให้ช่วยชีวิตผู้ได้รับบาดเจ็บให้ได้มากที่สุด ซึ่งในที่นี่คือหมู และทางกระทรวงมีนโยบายจำกัดจำนวนหมูที่นำมาใช้ในการฝึกซ้อมทุกครั้ง
ทั้งนี้ ปฏิบัติการซ้อมรบลักษณะนี้ เคยถูกระงับไปช่วงหนึ่งเมื่อปี 2541 ก่อนที่รัฐบาลอังกฤษจะตัดสินใจรื้อฟื้นโครงการขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยเหตุผลว่า ไม่สามารถหา “อุปกรณ์” อื่นมาทดแทนการฝึกฝนในลักษณะนี้ได้ แม้กลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านการพิทักษ์สัตว์จะออกมาแย้งว่า การใช้หุ่นจำลองมนุษย์มีประสิทธิภาพดีกว่าการใช้สัตว์ที่มีชีวิตก็ตาม