วิธีการใช้และข้อควรระวัง ในการใช้ฟีเจอร์ Photo Syncing บนแอพ Facebook

ก่อนอื่นต้องทำการอัพเดตแอพ facebook บน iPhone และ Android กันเสียก่อนซึ่ง หลังจากอัพเดตแล้วทันทีที่เข้า facebook จะมีแนะนำฟีเจอร์ใหม่ ซิงค์รูปภาพ (Photo Syncing) ด้วย ดังรูปบน ให้แตะที่ เริ่มเดี๋ยวนี้

จะขึ้นหน้าต่างแนะนำฟีเจอร์ใหม่คือ Photo Syncing ซึ่งจะอธิบายสั้นๆว่ามันคืออะไร ? คราวนี้มาลองกันโดยแตะ

จะพบรูปภาพจางๆ คือรูปภาพที่ถ่ายด้วยมือถือ แต่ยังไม่ได้ sync ขึ้น facebook ซึ่งทันทีที่อนุญาตให้ sync แล้วนั้น ก็จะขึ้นแถบสถานะตรงรูปภาพว่า กำลังซิงค์ ขึ้น facebook ทันทีที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ผ่านทาง wifi หรือ 3G ตามที่คุณกำหนดไว้

แล้วภาพทั้งหมดก็จะอยู่ในอัลบั้มส่วนตัวในส่วนของแท็บ ซิงค์จากโทรศัพท์ โดยสามารถดูรูปได้ โดยเข้าไปที่>> แล้วเลือกที่ >> เลือก

ซึ่งสามารถเลือกรูปภาพ จากส่วน ซิงค์จากโทรศัพท์ นี้มาโพสโชว์บน สถานะ หรือ timeline ได้เลย หรือจะเอาไปทำอัลบั้มภาพบน facebook ก็ยังได้ หากภาพไหนไม่ได้เลือก ภาพนั้นก็จะไม่ปรากฏต่อเพื่อนๆของเรา หรือผู้ติดตามเรา มีแต่เจ้าของภาพถ่ายเท่านั้นที่จะเห็นในส่วนของ แท็บซิงค์จากโทรศัพท์

ซึ่งผลที่ได้จากการเสริมฟังก์ชั่น ซิงค์จากโทรศัพท์นี้ คือ ไม่ต้องรออัพโหลดรูปให้เสียเวลา สะดวกในการแชร์ภาพมากขึ้น

ส่วนข้อควรระวังในการซิงค์รูปภาพก็คือ เรื่องแบตเตอรี่ และค่าอินเตอร์เน็ต ด้วย เพราะฟังก์ชั่นนี้จะพาคุณเสียค่าอินเตอร์เน็ตบนมือถือที่สูงขึ้น และใช้พลังงานแบตเตอรี่มาก ดังนั้นควรมีแบตสำรอง ที่ชาร์จ และ สมัครโปรอินเตอร์เน็ตแบบไม่จำกัด จะดีกว่า หรือไม่ก็ปิดฟีเจอร์ Photo Syncing ชั่วคราวไปก่อน

คุณสามารถตั้งค่าการ ซิงค์ได้ด้วยบนมือถือ iPhone และ Android คุณดังนี้

ขณะที่ใช้แอพ facebook กดปุ่มเมนูบน android หรือ iphone ของคุณ แล้วเลือก ตั้งค่า (ภาพในตัวอย่างนี้ใช้ Android)

แล้วเลือกที่ เพื่อกำหนดรูปแบบการซิงค์ผ่านอินเตอร์เน็ต แบบต่าง

ซึ่งมีตัวเลือกถึง 3 ตัวเลือก ซึ่งหากต้องการเซฟปริมาณการใช้ข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตและแบตเตอรี่ ก็เลือก อย่าซิงค์รูปภาพของฉัน หากต้องการซิงค์รูปภาพจำนวนมากๆ แนะนำให้ไปอยู่ที่มี wi-fi แล้วเซ็ตค่าให้ ซิงค์ผ่าน wi-fi เท่านั้น จะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ของคุณด้วย

และนี่คือการใช้งาน Photo Syncing ผ่านทางแอพ facebook บนมือถือ Android และ iPhone ที่ทำให้คุณแชร์ภาพสะดวกรวดเร็วทันใจยิ่งขึ้น

ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม facebook help , cnet , it24hrs