เมืองจีนติดโผค่าครองชีพแพงสุดในเอเชีย

มหานครในจีนติดทำเนียบเมืองที่มีค่าครองชีพแพงสุดในเอเชีย เหตุหยวนแข็งค่าแซงหน้าค่าเงินอื่น

มหานครถึง 16 แห่งในจีน ได้ผงาดขึ้นติด 1 ใน 50 เมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดสำหรับชาวต่างชาติที่ทำงานในเอเชียแล้ว โดยคิดเป็นสัดส่วนถึง 32% เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ทั่วเอเชีย นำโดยกรุงปักกิ่ง ซึ่งอยู่ในอันดับ 5 ในเอเชีย หรืออันดับ 22 ของโลก ขยับขึ้นมาจากที่ 35 ในปีที่แล้ว ขณะที่นครเซี่ยงไฮ้อยู่อันดับ 7 ในเอเชีย หรืออันดับที่ 26 ของโลกจากที่ 41

ผลการสำรวจเมืองค่าครองชีพแพงที่สุดในเอเชียสำหรับชาวต่างชาติ โดยบริษัท อีซีเอ อินเตอร์เนชันนัล ระบุว่า เงินหยวนที่แข็งค่าขึ้นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เมืองต่างๆ ในจีนมีค่าครองชีพแพงขึ้นอย่างรวดเร็วในปีนี้ ซึ่งยังรวมถึงเมืองกว่างโจว เสิ่นเจิ้น ชิงเต่า ต้าเหลียน ฉงชิ่ง ซูโจว เฉิงตู หวู่ฮั่น เซี๊ยะเหมิน หนานจิง และซีอาน ด้วย

หลี่ เกวน กรรมการผู้จัดการของอีซีเอ ประจำภูมิภาคเอเชีย กล่าวว่า เงินหยวนที่แข็งค่าขึ้นเหนือค่าเงินอื่นๆ กำลังทำให้จีนแพงขึ้น และอาจทำให้เสียเปรียบในการแข่งขัน จากเดิมที่จีนเคยใช้จุดแข็งเรื่องค่าครองชีพถูกในการดึงดูดต่างชาติมาแล้ว

ทางด้านญี่ปุ่นยังคงครองแชมป์เมืองที่แพงที่สุดในเอเชีย 4 อันดับแรก นำโดยกรุงโตเกียว นาโงยา โยโกฮามา และโกเบ
 
ในขณะที่มหานครหลายแห่งมีค่าครองชีพถูกลง อาทิ สิงคโปร์ ซึ่งหล่นจากที่ 6 มายังที่ 8 กรุงจาการ์ตา หล่นจากที่ 15 มายังที่ 25 ขณะที่กรุงเทพฯ ถูกลงจากอันดับที่ 22 มายังที่ 28 หรือคิดเป็นอันดับที่ 162 ในการจัดอันดับทั่วโลกและเชียงใหม่ หล่นจากที่ 31 มายังที่ 33 หรืออันดับโลกที่ 189

ทั้งนี้ อีซีเอได้จัดทำผลสำรวจดังกล่าวปีละ 2 ครั้ง โดยสำรวจราคาสินค้า พืชผัก เครื่องนุ่งห่ม และอาหารต่างๆ จากชาวต่างชาติที่ไปทำงานในกว่า 400 เมืองทั่วโลก ทว่าไม่ได้รวมราคาที่อยู่อาศัยและค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน