“สวดล้างอาถรรพณ์” เป็นหนึ่งในพิธีกรรมที่ทีมงานพยัคฆ์ภูเพ็ก จะจัดขึ้นปราสาทภูเพ็ก ต.นาหัวบ่อ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ในคืนก่อนวันสิ้นโลก คือ วันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๕ คือ เวลาประมาณ ๒๐.๐๐ น จะมีการรำบวงสรวงเทพเจ้า จากนั้นจะมีการสวดมนต์ตามความเชื่อของแต่ละกลุ่ม จากนั้นตั้แต่เวาง ๒๓.๐๐ เป็นต้นจะมีการสวดเพื่อให้พระอาทิตย์เข้าไปสถิตในฤดูเหมายันต์ ไปจนถึงเวลา ๐๑.๐๐ น.เช้ามืดวันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ จากนั้นเวลา ๐๔.๐๐ น. ไป จนสว่างจะมีการสวดมนต์รับพลังจากสุริยะเทพ นำโดย อ.วรวิทย์ ตงศิริ หรือที่ชาวสกลนครรู้จักในนาม “ฤาษีเอก อมตะ” ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิญญาณ และลุงบุปผา ดวงมาลย์ ผู้นำท้องถิ่นที่รู้จักปราสาทภูเพ็ก ทุกซอกทุกมุม

ในการการสวดล้างอาถรรพณ์วันสิ้นโลก อ.วรวิทย์ บอกว่า เริ่มด้วยการไหว้พระสวดมนต์ในบทปกติที่พุทธศาสนิกชนสวดกันทุกวันได้ บทสวดพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ และสมาทานรับศีล ๕ จากนั้นได้อธิษฐานจิตให้ผู้คนในประเทศไทยให้รอดพ้นจากภัยพิบัติทุกประการที่จะมี รวมทั้งให้ผู้คนทุกประเทศทั่วโลกจงอยู่เย็นเป็นสุขรอดพ้นจากภัยพิบัติทุกประการ ที่หนักก็ให้เป็นเบา ที่เบาอย่แล้วก็ให้หายสิ้น จากนั้นก็เริ่มสวดบททิพย์พมนต์ ซึ่งมีความเชื่อว่า สามารถให้คนอยู่ดีมีสุข รวมทั้งมีการสวดพระคาชินบัญชร พระคาถาชัยมงคล บทสวดมหาไชยซึ่งเป็นตำราโบราณของชาวอีสานแถบลุ่มแม่น้ำโขง (บทสวดไชยใหญ่) และคาถาพระปริตรต่างๆ นอกจากนี้แล้วยังมีการสวดพระคาถาตามตำราของพระฤาษีที่สืบทอดกันมา

อย่างไรก็ตามแม้ว่าคนจำนวนไม่น้อยอาจจะมองว่าการประกอบพิธีกรรมทางไสยศาสตร์แก้อาถรรพณ์วันสิ้นโลกเป็นเรื่องเหลวไหล แต่ อ.วรวิทย์ พูดไว้อย่างน่าคิดว่า "ใครจะเชื่อหรือไม่เป็นเรื่องธรรมดา แต่คาถาและพุทธมนต์ที่สวดทุกบทล้วนมีที่มาตั้งแต่สมัยพุทธกาล โดยพุทธมนต์แต่ละบทล้วนเป็นคำสอนที่พระพุทธองค์สอนไว้ พิธีมงคลต่างๆ พระก็สวดกันทั้งสิ้น ถึงจะแก้อาถรรพณ์ไม่ได้ทันตาเห็น แต่ก็เป็นสิริมงคล และเป็นขวัญกำลังใจให้ผู้สวดและผู้ฟัง"