1. มะเขือเทศ
มะเขือเทศหั่นเป็นชิ้น 1 ถ้วย ให้วิตามินซี 76 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน นอกจากนั้นยังมีสารต้านอนุมูลอิสระไลโคปีนสูง ซึ่งช่วยป้องกันโรคมะเร็ง รวมถึงปกป้องเซลล์ผิวไม่ถูกแสงแดดทำลาย
คำแนะนำ : ควรนำมะเขือเทศไปปรุงให้สุกด้วยความร้อนจะช่วยให้ไลโคปีนในมะเขือเทศสูงขึ้น รวมทั้งควรรับประทานกับไขมันที่ดี เช่น น้ำมันมะกอก เพื่อช่วยให้ร่างกายดูดซึมสารไลโคปีนได้ดีขึ้น
2. แครอท
แครอทเป็นหนึ่งในผักที่มีวิตามินเอสูง แครอทสุก 1 ถ้วยมีวิตามินเอมากกว่าที่ร่างกายต้องการแล้ว แครรอทมีสารต้านอนุมูลอิสระ falcarinol ซึ่งช่วยป้องกันมะเร็ง
คำแนะนำ : รับประทานแครอทแบบปรุงสุกดีกว่ารับประทานดิบ และควรต้มก่อนนำมาหั่น เพราะผลการวิจัยพบว่าช่วยให้มีสาร falcarinol สูงกว่า หั่นก่อนต้ม 25 เปอร์เซ็นต์
3. เห็ด
นักวิจัยจากสหรัฐอเมริกาพบว่าเห็ดมีสารอาหารซึ่งช่วยกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนั้นยังมีผลการวิจัยหลายชิ้นพบว่าเห็ดมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย
4. ถั่วแดง
ผลการวิจัยพบว่าถั่วแดงที่ราคาไม่แพงและหาซื้อได้ง่าย มีสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยป้องกันโรคร้ายต่าง ๆ มากกว่าสตรอว์เบอรรี่ ราสเบอรี่ และแอบเปิ้ลเสียอีก
5. กระเทียม
กระเทียมช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาว เพื่อใช้ต่อต้านเชื้อโรคต่าง ๆ ได้มากขึ้น นอกจากนั้นกระเทียมยังมีสารที่ช่วยลดคอเลสเตอรอล ส่งผลให้หัวใจมีสุขภาพแข็งแรงมากขึ้น
คำแนะนำ : กระเทียมดิบมีสารอาหารมากกว่ากระเทียมสุก ถ้าจะนำไปผัดหรือใช้ความร้อนควรทุบกระเทียมก่อนปรุงประมาณ 10 นาที เพื่อป้องกันไม่ให้ความร้อนทำลายสารอาหารสำคัญไปเสียหมด และไม่ควรผัดหรือปรุงด้วยความร้อนนานเกินไป
6. กล้วย
กล้วยเป็นผลไม้ที่มีโปแตสเซียมสูง ผลการวิจัยจากเกาหลีพบว่า กล้วยเป็นหนึ่งในผลไม้ที่มีสารอาหารซึ่งช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ รวมทั้งยังช่วยป้องกันโรคหัวใจวายอีกด้วย
7. มันเทศ
มันเทศ มีวิตามินเอ 61 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน นอกจากนั้นยังอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีนที่ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง วิตามินอีที่ช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี รวมทั้งเป็นอาหารไฟเบอร์สูงที่ช่วยลดคอเลสเตอรอลและเป็นผลดีต่อระบบการย่อยอาหาร