11 เทคโนโลยีที่ เมืองอัจฉริยะ ควรมี

11 เทคโนโลยีที่ เมืองอัจฉริยะ ควรมี

11 เทคโนโลยีที่ 'เมืองอัจฉริยะ' ควรมี


ภายในปี 2573 ประชากรโลกส่วนใหญ่ จะอาศัยอยู่แถบชานเมืองมากถึง 5,000 ล้านคน ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาตามมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นสภาพความเป็นอยู่อันแออัด การจราจรที่ติดขัด และความสกปรกที่อาจตามมาได้ ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีจึงได้รวบรวมเทคโนโลยี ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าว และทำให้เมืองใหญ่น่าอยู่มากขึ้น ตามรูปแบบของเมืองอัจฉริยะหรือสมาร์ท ซิตี

1.แอปพลิเคชั่นที่รวบรวมข้อมูลของเมืองนั้นๆ เช่น ที่นิวยอร์ก มีแอปพลิเคชั่นที่ชื่อว่า BigApps ซึ่งเป็นแอปรวบรวมข้อมูลสำคัญต่างๆของนิวยอร์ก และอัพเดทความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา เช่น ระดับมลภาวะในอากาศ ความสะอาดของห้องน้ำในร้านอาหารต่างๆ รวมถึงเขตก่อสร้าง เป็นต้น ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า สมาร์ท ซิตี ควรมีแอปพลิเคชั่นในลักษณะนี้ และเปิดให้ประชาชนดาวน์โหลดได้ฟรี

2. แอปพลิเคชั่นช่วยจอดรถ ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ มักประสบปัญหาเรื่องที่จอดรถ แต่หากมีแอปที่สามารถช่วยให้คนขับรถหาที่จอดที่ใกล้ที่สุด และระบุได้ว่า ที่จอดดังกล่าวเหลือที่ว่างกี่คัน ก็จะช่วยร่นระยะเวลารถติดบนท้องถนน และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศอีกด้วย นอกจากนี้ ควรมีการจัดทำบัตรจอดรถอัตโนมัติ หรือ อีซี พาร์คกิ้ง ให้แก่ผู้ใช้รถทุกคน เพื่อให้สะดวกต่อการจ่ายเงินค่าที่จอด และยังเป็นการประหยัดเวลาไปได้มากอีกด้วย

3.ติดตั้งตัวปล่อยสัญญาณไวไฟให้ครอบคลุมทั้งเมือง รวมถึงระบบขนส่งสาธารณะ เช่น รถเมล์ หรือรถไฟใต้ดิน เพื่อให้ประชาชนไม่ขาดการติดต่อ และสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ในทุกๆที่

4. ป้ายจราจรอัจฉริยะ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหารถติด ควรติดตั้งป้ายในลักษณะนี้เอาไว้ทั่วเมือง เพื่ออัพเดทข้อมูลข่าวสารแบบเรียล ไทม์ เช่น ควรหลีกเลี่ยงถนนเส้นไหน สภาพอากาศล่าสุดตอนนี้เป็นอย่างไร รวมถึงการรายงานข่าวด่วน เพื่อให้ประชาชนไม่พลาดเรื่องสำคัญ แม้ว่าจะอยู่บนท้องถนนก็ตาม

5. ระบบขนส่งมวลชนอัจฉริยะ เมืองใหญ่ทั้งหลาย ควรมีระบบรถไฟความเร็วสูง และการให้บริการรถเมล์ที่เป็นระบบ และตรงตามเวลา เพื่อช่วยให้การเดินทางในเมืองเป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็วมากขึ้น

6. การติดตั้งไฟชนิดพิเศษ รวมถึงระบบตรวจตราตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันปัญหาอาชญากรรม โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงทั้งหลาย โดยเมืองใหญ่หลายเมืองได้นำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้ และประสบความสำเร็จในการลดปัญหาอาชญากรรมได้เป็นอย่างดี เช่น ที่นครนิวยอร์กของสหรัฐฯ

7. ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ทั้งหลาย ควรติดตั้งแผงเซลล์สุริยะบนหลังคาบ้านของตัวเอง เพื่อช่วยลดการใช้พลังงานจากแหล่งอื่นๆ ขณะที่ หน่วยงานของรัฐ ก็ควรติดตั้งแผงเซลล์สุริยะตามสถานที่ราชการ หรือที่สาธารณะเช่นเดียวกัน เพื่อเป็นต้นแบบให้ประชาชนได้เห็นถึงประโยชน์ของการใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์

8.ควรมีถนนที่ได้มาตรฐาน สำหรับจักรยานโดยเฉพาะ โดยเมืองใหญ่ของโลกทั้งหลาย เช่น อัมสเตอร์ดัม ปารีส วอชิงตัน ลอสแองเจลิส และนิวยอร์ก ต่างก็ประสบความสำเร็จในการสร้างเส้นทางเพื่อผู้ใช้จักรยาน รวมถึงระบบรับฝากจักรยาน เช่น ที่กรุงโตเกียวของญี่ปุ่น ที่มีที่เก็บจักรยานอัตโนมัติ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้จักรยานทุกคน

9. ระบบบำบัดน้ำเสียที่มีประสิทธิภาพ สมาร์ท ซิตี ควรให้ความสำคัญกับการจัดการน้ำที่เป็นระบบ โดยเฉพาะการนำน้ำเสียมาบำบัดใช้ใหม่ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

10. แอปพลิเคชั่นเตือนภัยเหตุด่วนเหตุร้าย  ควรจัดทำแอปที่ให้ประชาชน และตำรวจได้เข้าถึงข้อมูลข่าวสารด้านอาชญากรรม เช่น การเตือนภัยหลังจากที่เกิดเหตุร้ายต่างๆ รวมถึงระบบเตือนภัยก่อนที่จะเกิดพายุหรือน้ำท่วม เพื่อให้ประชาชนรับมือกับภัยร้ายต่างๆได้อย่างทันท่วงที

และสุดท้าย คือการชำระเงินสินค้าและบริการต่างๆ ผ่านทางสมาร์ทโฟน หรือ Mobile payments โดยผู้เชี่ยวชาญมองว่า ในอนาคตเทคโนโลยีดังกล่าวจะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นอีก และประชาชนส่วนใหญ่ จะใช้จ่ายผ่านสมาร์ทโฟนของตนเอง เพื่อเป็นการประหยัดเวลา และยังช่วยให้ไม่ต้องกังวลเวลาที่ต้องพกเงินสดติดตัวเป็นจำนวนมากอีกด้วย


11 เทคโนโลยีที่ เมืองอัจฉริยะ ควรมี


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์