แนะวิธีเลือกทูน่าให้เหมาะกับสุขภาพ

งานวิจัยของฐานข้อมูลด้านโภชนการสหรัฐ (USDA Nutrient Composition Database) เผยว่า ปลาทะเลต่างชนิดกันจะมีปริมาณของโอเมก้า 3 แตกต่างกัน เช่น ในปริมาณ 100 กรัมเท่ากัน ปลากะพงขาวมีโอเมก้า 3 ประมาณ 310 มิลลิกรัม ขณะที่ปลาแซลมอนมีโอเมก้า 3 ประมาณ 1,000-1,700 มิลลิกรัม ส่วนปลาทูน่ามีโอเมก้า 3 สูงถึง 1,000-4,000 มิลลิกรัม

สำหรับในบ้านเรา ปลาทู อาหารคู่ครัวไทยก็มีโอเมก้า 3 ถ้าเทียบกับปลาในชนิดข้างต้นด้วยปริมาณ 100 กรัมเท่ากัน ปลาทู มีโอเมก้า 3 อยู่ 2,000-3,000 มิลลิกรัม หากแต่แม่บ้านพ่อบ้านสมัยใหม่มักไม่ถนัดเข้าครัว ลงมือทอดปลาทูเพราะกลัวน้ำมันกระเด็น ทางเลือกเพื่อการได้รับโอเมก้า 3 ที่ง่ายและใกล้ตัวก็ต้องหันพึ่งปลาทูน่ากระป๋อง ซึ่งมีโอเมก้า 3 ใกล้เคียงกับปลาทู

โอเมก้า 3 ที่มีอยู่ในปลาทูน่าประกอบด้วยสารหลัก 2 ชนิด ได้แก่ EPA ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนของโลหิตในร่างกายให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เสมือนเกราะป้องกันไขมันอุดตันในหลอดเลือด ลดภาวะเสี่ยงป่วยโรคหัวใจ และ DHA มีประโยชน์โดยตรงต่อสมอง ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ บำรุงเซลล์สมอง เสริมสร้างระบบความจำ

ที่สำคัญ ปลาทูน่ายังเป็นแหล่งโปรตีนชั้นเยี่ยมที่ย่อยง่ายกว่าเนื้อสัตว์อื่นๆ เหมาะกับผู้ที่ควบคุมน้ำหนัก ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย เสริมสร้างให้ร่างกายเจริญเติบโตและมีพัฒนาการตามวัย นอกจากนี้ยัง มีไขมันชนิดดีหรือไขมันอิ่มตัวที่ให้พลังงานต่ำมาก ช่วยป้องกันการสะสมของไขมันอิ่มตัวหรือคอเลสเตอรอลซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดเส้นเลือดอุดตัน

ทว่าปัญหาของคนส่วนใหญ่ในการเลือกซื้อปลาทูน่ากระป๋องตามท้องตลอด คือ ไม่ทราบว่า ปลาทูน่าบรรจุกระป๋องที่มีหลากหลายชนิดนั้น ชนิดไหนเหมาะกับเรา โดยเฉพาะในด้านสุขภาพ ทาง 'ซีเล็คทูน่า' กูรูด้านทูน่าจึงไขความกระจ่างของเรื่องนี้ว่า...

ทูน่ากระป๋องมีรสชาติและคุณสมบัติแตกต่างกัน ทูน่าในน้ำเกลือให้รสชาติเค็ม เหมาะสำหรับคนที่ควบคุมน้ำหนัก สามารถนำไปปรุงอาหารที่ไม่มัน เช่น ยำ พล่า ลาบ น้ำพริก น้ำยา ซุป เป็นต้น ส่วนทูน่าในน้ำมันถั่วเหลือง ให้รสชาติมันและเค็ม เนื้อทูน่าจะนุ่มกลมกล่อม สามารถนำไปปรุงอาหารที่มีน้ำมันผสม เช่น สลัด แซนวิช แกง ผัด เป็นต้น

ทูน่าในน้ำแร่ ให้รสชาติจืด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ เช่น ควบคุมน้ำหนัก เป็นโรคหัวใจ และเบาหวาน เพราะมีปริมาณไขมัน และเกลือต่ำมาก สามารถนำไปปรุงอาหารประเภท ยำและต้ม สุดท้าย ทูน่าในน้ำมันดอกทานตะวัน ให้รสชาติมันและเค็ม เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบรสชาติกลมกล่อมและใส่ใจเรื่องสุขภาพ เพราะน้ำมันดอกทานตะวันมีกรดไขมัน CLA ที่ช่วยยับยั้งการเกิดไขมัน สามารถนำไปปรุงอาหารที่มีน้ำมันผสม เช่น สลัด แซนวิช แกง และผัด

อย่างไรก็ตาม ทูน่ากระป๋องยังมีการแบ่ง 2 ลักษณะ คือ ทูน่าสเต็ก และทูน่าแซนวิช โดยทูน่าสเต็กหมายถึงทูน่าที่มีลักษณะเป็นชิ้นก้อนสวยงามแบบเดียวกับเนื้อสเต็ก เหมาะสำหรับการนำไปทำอาหารที่ต้องการทูน่าเป็นชิ้นเนื้อ เช่น แกง ผัด ทอด ส่วนทูน่าแซนวิช หมายถึงทูน่าที่มีลักษณะเป็นชิ้นเล็กๆ ซึ่งได้จากการตีทูน่าชิ้นใหญ่ให้เป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อความสะดวกในการประกอบอาหาร เหมาะสำหรับการนำไปทำอาหารที่ต้องการทูน่าที่เป็นชิ้นเล็กๆ เช่น สลัด แซนวิช หลน หรือขนมจีนน้ำยา

ลองนำข้อมูลนี้ไปใช้ เมื่อแวะซูเปอร์มาร์เก็ตคราวหน้า รับรองดีต่อสุขภาพ.