วิถีชีวิตยุคนี้ต้องปรับตัวให้ทันกระแส จนบางครั้งอาจละเลยการเลือกสรรอาหารที่มีประโยชน์ บางคนงดอาหารเช้า รับประทานอาหารผิดเวลา และรับประทานหนักในมื้อเย็นหรือดึก เป็นวิถีที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งองค์ประกอบหลักในอาหารแบ่งได้ 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นสารอาหาร และส่วนที่ไม่ใช่สารอาหาร องค์ประกอบทั้งสองมีความสัมพันธ์ต่อการป้องกัน และช่วยส่งเสริมการรักษาโรคเรื้อรัง เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และโรคกระดูกพรุน เป็นต้น
ผศ.ดร.เอกราช บำรุงพืชน์ ชมรมโภชนวิทยามหิดล บอกว่า กระแสอาหารเพื่อสุขภาพ ส่งผลให้นักโภชนาการ นักกำหนดอาหาร แพทย์ เภสัชกร ฯลฯ หันมาทำการค้นคว้าวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร ทำให้เกิดการค้นพบคุณประโยชน์และสรรพคุณทางยาของอาหารมากขึ้น
“อาหารฟังก์ชันนอล (Functional food) ก็คือ อาหารหรือสารอาหารชนิดใดๆ มีอยู่ในรูปธรรมชาติหรือที่ถูกแปรรูปไปเพื่อให้ประโยชน์ต่อสุขภาพนอกเหนือจากประโยชน์ที่ได้รับจากสารอาหารซึ่งรับประทานกันในชีวิตประจำวัน โดยประโยชน์ของอาหารดังกล่าวก็คือ ใช้รับประทานร่วมกับมื้ออาหารได้ และให้ผลต่อระบบการทำงานของร่างกายในการป้องกันโรค เพิ่มภูมิคุ้มต้านทาน ชะลอความเสื่อมของเซลล์ในอวัยวะต่างๆ ของร่างกายและส่งเสริมสุขภาพ สำหรับอาหารที่ถูกปรับเปลี่ยนไป รวมทั้งอาหารที่ถูกเสริมด้วยสารพฤกษเคมี หรือสมุนไพร เพื่อเพิ่มคุณค่าและคุณประโยชน์ให้แก่อาหาร ก็ถูกจัดอยู่ในประเภทอาหารฟังก์ชันด้วยเช่นกัน" ผศ.ดร.เอกราช กล่าว