นักวิทยาศาสตร์สหรัฐฯเปิดเผยว่า ปี 2012 ถือเป็น 1 ใน 10 ปี ที่อากาศร้อนที่สุด เท่าที่โลกเคยประสบมานับตั้งแต่ปี 1880
นักวิจัยจากนาซาเปิดเผยว่า ปีที่แล้วถือเป็นปีที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดเป็นอันดับ 9 ขณะที่หน่วยงานรัฐบาลอีกแห่งเผยว่าร้อนเป็นอันดับที่ 10
อย่างไรก็ดี ทั้งสองหน่วยงานเปิดเผยว่า อุณหภูมิอาจสูงมากกว่านี้ หากไม่เกิดปรากฏการณ์ลา นิญญา ที่ทำให้บางภูมิภาคมีสภาพอากาศเย็นลง และเชื่อว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้สภาพอากาศโดยรวมร้อนขึ้นในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา
สำนักงานบริหารมหาสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติ (เอ็นโอเอเอ)ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอุณหภูมิจากเครือข่ายสถานีตรวจอากาศทั่วโลกชี้ว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของปีที่แล้วอยู่ที่ 0.57 องศาเซลเซียส เหนือค่าเฉลี่ยของอุณหภูมิในช่วงศตวรรษที่ 20
เอ็นโอเอเอ ระบุว่า 12 ปี แรกของศตวรรษที่ 21 ถือเป็นปีที่มีอุณหภูมิสูงขึ้น ใน 14 ปีแรกที่มีอุณหภูมิสูงสุด ในรอบ 133 ปี ที่มีการบันทึกสถิติ ผู้อำนวยการเอ็นโอเอเอเปิดเผยว่า นับตั้งแต่ปี 1976 อุณหภูมิล้วนสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั้งสิ้น
ด้านนาซา ซึ่งใช้ข้อมูลเดียวกัน แต่ใช้วิธีการวิเคราะห์ที่ต่างออกไปเล็กน้อย เปิดเผยว่า ปี 2012 ถือเป็นปีที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงที่สุดเป็นอันดับ 9 โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงกว่าฐานอุณหภูมิในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 ราว 0.6 องศาฯ
ผู้อำนวยการสถาบันอวกาศศึกษาของนาซา เชื่อว่าแม้อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วไปจะสูงขึ้น แต่พบว่าในบางช่วงฤดู อากาศอาจเย็นกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว หากสังเกตจะพบว่าจำนวนความถี่ของอากาศที่สูงขึ้นผิดปกติกำลังเพิ่มขึ้น ซึ่งมีผลกระทบต่อมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆบนโลก
ตามข้อมูลจากกลุ่มนักวิจัยทั้งสองฝ่าย พื้นที่ส่วนใหญ่ในโลกมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงกว่าในปี 2012 ขณะที่เขตอาร์คติก พบการละลายของน้ำแข็งขั้วโลกที่มากผิดปกติ