คนทำงานมักจะใช้ช่วงเวลาที่ตื่นอยู่ในที่ทำงานเสียเป็นส่วนมาก ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมในการทำงานที่มีความสอดคล้องกลมเกลียวกัน การจัดวางฮวงจุ้ยในที่ทำงานอย่างเหมาะสมจะทำให้โลกแห่งความไม่ลงรอยกันผันแปรไปสู่โลกแห่งศักยภาพในการทำงาน และความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน คุณจะสนุกกับการมาทำงาน ความกลมเกลียวกันในที่ทำงานจะช่วยขจัดการกล่าวร้ายป้ายสี ลดปัญหาการเล่นการเมืองภายในองค์กร และทำให้การติฉินนินทากันลดน้อยลง ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่นำพาความไม่สงบสุขมาให้ทั้งสิ้น ฮวงจุ้ยที่ดีในที่ทำงานส่วนตัวของคุณจะช่วยให้คุณเป็นที่รู้จักและได้รับการส่งเสริมสนับสนุน บางครั้ง ตำแหน่งที่คุณนั่งทำงานอยู่มีส่วนทำให้คุณอึดอัดโดยไม่รู้ตัว ลองมาดูว่าตำแหน่งที่ตั้งโต๊ะอยู่นั้นมีอะไรบ้าง
ก่อนอื่นต้องยอมรับว่าสมัยนี้ บ้านหรือออฟฟิตจะมีหลายชั้นเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะอยู่ชั้นไหนก็ตาม เรามาดูว่ามุมที่ตั้งโต๊ะทำงานอยู่ตำแหน่งที่อะไรทับอยู่ เช่น
กรณีชั้นบนที่ทับตำแหน่งที่นั่งทำงาน เป็นห้องน้ำหรือส้วม ถือว่าอัปมงคล ผลจะทำให้ตำแหน่งที่ดีถูกทำร้าย ถ้าเป็นเจ้านายก็จะโดนแทงข้างหลัง ถ้าเป็นหัวหน้างานทุ่มเทเท่าไหร่ก็ไม่เห็นผลงาน
สามารถแก้ไขได้ระดับหนึ่งโดยนำเอาแจกันใส่น้ำแล้วเอาต้นไผ่กวนอิมไปปักไว้ 8-9 กิ่ง จะช่วยให้ชีวิตดีขึ้นระดับหนึ่ง หรือจะเสริมพลังเต่าดำเพื่อความหมายมั่นคง เพราะเต่าสื่อถึงมั่นคงยั่งยืน
ส่วนตำแหน่งที่ควรจะตั้งโต๊ะทำงาน อย่าให้อยู่ในตำแหน่งที่เปิดประตูเข้ามาแล้วเจอที่นั่ง ควรนั่งทแยงมุมซ้ายหรือขวา
การแก้เสริมให้หาหินก้อนใหญ่มาวางไว้ มุมซ้ายมือ ความหมายของหินก็คือความหนักแน่น ส่วนหินก็ใช้หินในแม่น้ำ เลือกเอาหินที่เกลี้ยงกลมสะอาด
ความหมายของ แจกัน ในวัฒนธรรมมงคลของจีนนั้น “แจกัน” หรือ “ผิง” เป็นของสิริมงคลที่อยู่ในวัฒนธรรมจีนมาช้านาน หลายคนเคยตั้งข้อสงสัยว่า เพราะเหตุใดคนจีนจึงนิยมชมชอบสะสมแจกันเป็นยิ่งนัก ผลงานศิลปหัตถกรรมที่มีลวดลายอันวิจิตรประดับบนแจกันนั้นเป็นที่นิยมกันมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซ่งและรุ่งเรืองมากในสมัยราชวงศ์หมิงและชิง ทั้งนี้เป็นเพราะชาวจีนมองแจกันไม่เหมือนคนชาติอื่น เพราะความหมายในความรู้สึกของคนจีนนั้น แจกันเป็นสัญลักษณ์แห่งความสงบสุขและความสันติ คำว่า “ผิง” หรือคำเต็ม ๆ ว่า “ผิงอัน” ที่แปลว่า “สันติสุข”
ด้วยเหตุนี้ ชาวจีนจึงนิยมตั้งแจกันประดับไว้ในบ้าน เนื่องด้วยต้องการบ่งบอกนัยความหมายว่า “ขอให้บ้านมีแต่ความสงบสันติ ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน” ยิ่งบ้านหลังยิ่งใหญ่ดั่งคฤหาสน์ ก็ยิ่งนิยมตั้งแจกันขนาดยักษ์ไว้เท่านั้น เพื่อเคล็ดความเชื่อให้บ้านหลังใหญ่มีความสงบสันติตลอดไป เมื่อนำมามาร่วมกับสัญลักษณ์มงคลอื่นๆ ก็สามารถขยายเป็นสัญลักษณ์มงคลใหม่ๆ เข้ากับยุคปัจจุบัน โดยมักจะออกแบบนำมาประยุกต์ ลาย สี เทรนใหม่ๆ เช่น
การนำเอาดอกโบตั๋น มาวาดเป็นลายบนแจกัน ซึ่งมักเรียกกันว่า “ฟู่กุ้ยผิงอาน” ความหมายก็คือ”มั่งมี–มีสุข” ดอกโบตั๋นสื่อถึง ความสง่า ความอ่อนหวาน ความเป็นผู้ดี กับการมีชื่อเสียงนำมาอยู่ร่วมกันกับแจกัน รวมกันแล้วก็ได้ความหมายมงคลว่า “ขอให้ท่านมั่งคั่งร่ำรวย และพบแต่สันติสุข” ย่อมหมายถึง การมีสมบัติผู้ดีมีพร้อม ทั้งความสุขสันติ มีชื่อเสียง เกียรติยศร่ำรวยเงินทองแล้วยังสามารถใช้ชีวิตที่มีมงคลและความสุข
แต่ถ้าเป็นห้องนอนก็ควรจะมีแจกันดอกไม้มาตั้งจะช่วยส่งเสริมด้านความรัก ความสมหวัง ความสุข โรแมนติก แต่ไม่ควรตั้งอยู่หัวเตียงนะจ๊ะ