หัวอกชายที่เป็นพ่อ

หัวอกชายที่เป็นพ่อ



คุณพ่อต้องทำงานหนักทั้งหลาย
 
คุณเคยรู้สึกบ้างไหมคะว่าทั้ง ๆ ที่คุณอุตส่าห์ทำงานเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวให้อยู่สุขสบายยอมสละความสุข ส่วนตัว เอาแต่ทำงานชนิดหามรุ่งหามค่ำ แต่ทำไมบางครั้งลูก ๆ และแม้แต่แม่ของลูก จึงดูว่าไม่ยอมเข้าใจเอาเสียเลย โดยเฉพาะลูก ๆ กลับไป รักแม่ สนิทสนมกับแม่มากกว่าพ่อ มีความลับหรือมีปัญหาคับใจอะไรก็คอยแต่จะปรึกษากับแม่ ไม่ค่อยยอมเข้ามาหาพ่อหรือคลุกคลีกับพ่อให้ชื่นใจ กันบ้าง

เหตผลที่ทำให้ลูก ๆ เป็นเช่นนี้ ก็คงเนื่องมาจากสาเหตุสำคัญคือ คุณพ่อมีเวลาให้ลูก ๆ น้อยเกินไปนั่นเอง


เป็นธรรมดาที่ลูกย่อมจะรักใคร่สนิทสนมกับฝ่ายที่มีเวลาให้เขา และเห็นความสำคัญของเขามากกว่า เมื่อวันทั้งวันลูกอยู่แต่กับแม่ เช้าขึ้น แม่ก็หาข้าวให้ทาน พาไปส่งที่โรงเรียน บ่ายก็รีบกลับบ้าน สอนการบ้านให้ เป็นเพื่อนดูโทรทัศน์ด้วยกัน ฯลฯ ในขณะที่พ่อ เช้าขึ้นก็รีบไปทำงาน ก่อนลูกจะตื่น กว่าจะกลับบ้านก็ค่ำมืด ลูกหลับไปแล้ว จะเป็นเพราะอยู่ทำงานล่วงเวลา หรือไปสังสรรค์เฮฮากับเพื่อนฝูง หรือต้องแบ่งเวลาไปบ้าน ที่สอง บ้านที่สาม ก็ตามแต่



กรณีอย่างนี้ ลูกย่อมจะรักแม้ไว้วางใจแม่ และสนิทสนมกับแม่มากกว่าพ่อ อย่างแน่นอน



บางวันที่พ่อเกิดกลับบ้านเร็วกว่าปกติ แม่กับลูกอาจจะประหลาดใจถึงขนาดทำอะไรไม่ถูกเอาเลยก็ได้ ลูกก็ไม่รู้จะวางตัวอย่างไรจึงจะถูกใจพ่อ ตัวพ่อแม่ก็ไม่รู้จะทักทาย พูดจา หรือหาเรื่องอะไรมาคุยกับลูก จึงจะเข้ากับลูกได้ เพราะพ่อแทบจะไม่รู้เรื่องส่วนตัวของลูกเลย ไม่รู้แม้กระทั่งว่า เพื่อนลูกมีใครบ้าง บางคนลูกเรียนหนังสือชั้นไหน หรือเกิดวันที่เท่าไหร่ก็ยังไม่รู้เลย พ่อกับลูกจึงแทบจะกลายเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน



ทั้ง ๆ ที่ คุณพ่อก็คงอยากจะบอกลูกว่า

ที่ทำงานหนักอยู่ทุกวันนี้ก็เพื่อให้แม่และลูกได้อยู่กันอย่างสุขสบาย พ่อเองก็รักลูกเท่า ๆ กับที่แม่รัก เหมือนกัน แต่ถึงจะบอกอย่างไร ลูกก็คงไม่เข้าใจ เพราะการกระทำของพ่อที่มุมานะกับงานนอกบ้านมากเกินไป จนเกิดความห่างเหินกับลูก ย่อม แสดงให้ลูกเห็นว่าพ่อสนใจงานมากกว่าลูกอยู่นั่นเอง


ยิ่งในกรณีที่คุณพ่อกับคุณแม่มีปัญหาขัดใจกัน และยังไม่สามารถปรับความเข้าใจกันได้ มีการทะเลาะวิวาทปะทะคารมกัน ทำให้แม่มีความ ทุกข์ใจ ไม่สบายใจ ก็จะหาระบายปรับทุกข์กับลูก เพราะเป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิด และเพื่อหาพวกใหักับตัวเอง แม่จึงมักกล่าวหาพ่อให้ลูกฟัง พูดถึงแต่ ความไม่ดีต่าง ๆ นานาของพ่อ เมื่อลูกได้รับฟังบ่อย ๆ ก็จะฝังใจว่าพ่อเป็นคนไม่ดี ลูกจึงเลิกเคารพเชื่อฟังพ่อ ร้ายกว่านั้น คือเลิกศรัทธาพ่อไปเลยก็มี เมื่อพ่อลูกเผชิญหน้ากัน จึงเหมือนคนไม่รู้จักกัน หรือลูกเป็นฝ่ายหลบหน้าพ่อ พ่อเองก็ไม่รู้ตัวว่า ถูกกล่าวหาไว้อย่างไรบ้าง จริงหรือไม่จริง แค่ไหนไม่มีโอกาสแก้ตัวหรือชี้แจงข้อเท็จจริงกับลูกให้เข้าใจกันได้เลย

เพราะฉะนั้น

ถ้าคุณพ่อแม่อยากจะประสบกับเหตุการณ์แบบนี้ ที่ทำให้คุณพ่อต้องรู้สึกเสียใจ หรือน้อยใจว่าลูกไม่รักแล้วละก็ ขอให้คุณพ่อ จงรักแม่ของลูก ๆ ให้มาก มีปัญหาอะไรก็จงประนีประนอมเข้าหากัน แบ่งเวลาให้กับครอบครัวบ้างทั้งแม่และลูก หมั่นเอาใจใส่ใกล้ชิดกับลูก แสดง ให้ลูกรู้ว่าพ่อก็รักเขาไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าที่แม่รักเขา ลูกก็ย่อมจะรับรู้ได้แล้วเขาก็คงจะรักพ่อเท่ากับแม่แน่ ๆ ค่ะ


ขอขอบคุณเนื้อหาดีดี โดย: อินทิรา ปัทมีนทร

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์