แฉ....เรื่องจริง ของร้านอาหาร "โถพลู"
เพื่อน ๆ คงจะรู้จักร้าน "โถพลู" ที่สวนจตุจักรกัน เพราะเป็นร้านที่ขึ้นชื่อว่า
อาหารอร่อย ราคาก็พอไปไหว แถมยังเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ใครไปช้อปที่สวนฯ ถ้า
ไม่ได้ลิ้มลองอาหาร ก็ถือว่าไปไม่ถึงสวนฯค่ะ เราเอง + เพื่อน ๆ + ญาติ ๆ ก็ชื่นชอบในรสชาติ อาหารร้านนี้ แต่ไม่นึกไม่ฝันเลยค่ะ ว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงเช่นนี้
วันนั้นเราไป 3 คน คือ เรา แม่แฟน และเพื่อนของแม่แฟน อาหารที่พวกเราสั่งมีดังนี้ค่ะ * ทอดมัน
ปลากราย * ข้าวมันส้มตำ * ข้าวผัดสัปปะรด * ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ * น้ำดื่ม * น้ำมะพร้าว หิวมากค่ะ อะไรน่าทานก็สั่ง วันนั้นเราได้โต๊ะด้านหน้าของครัวใหญ่ และอยู่ระหว่างบริเวณที่ล้างจาน (ใครที่เคยไปร้านนี้คงทราบดีว่า ร้านโถพลูเค้าจะมีที่นั่งแบ่งเป็นหลาย ๆ ส่วน
และห้องครัว ก็จะมีหลายครัว ครัวผัด ครัวยำ ส่วนเตรียมเครื่องดื่ม อะไรแบบนี้)
อาหารจานแรกที่ยกมาคือ ทอดมันปลากราย จานเล็ก ๆ น่ารัก ประดับด้วยดอกกล้วยไม้และผัก
แต่งจานสวยงาม ซึ่งก็มีทั้ง แตงกวา กะหล่ำปลีซอย แครอท ประมาณนั้น ไม่แน่ใจนะคะ จำไม่ได้ว่า
เป็นผักดองหรือเปล่า ส่วนทอดมันนั้น มีประมาณ 5 ชิ้น จัดเรียงสวยอยู่ในมันทอดที่ทำเป็นกรวย ๆ หรือที่
รู้จักกันในชื่ออาหารว่า "รังนก" (ก็คงทราบกันดีว่าที่ โถพลู เค้าจะมีการจัดจานอาหารสวยงามน่ารับ
ประทานมาก) อาหารจานแรก หมดไปอย่างรวดเร็ว อร่อยมากๆ เลยค่ะ ขอบอก แม้แต่ผักแต่งจานก็
เกือบไม่เหลือ แล้วแม่แฟนเรายังแอบชิมเจ้ารังนกนั่นด้วย บอกว่าแข็ง ๆ ไปหน่อย สงสัยทิ้งไว้นาน แต่
พวกเราก็แอบคอมเพลนเล็กน้อยว่า แพงจัง จานนิดเดียวเอง ตั้ง 100 บาทแน่ะ แต่ก็อร่อยดีนะ
วันนั้นคนเยอะมาก อาหารค่อนข้างนาน พวกเราก็นั่งเม้าท์กันไปถึงเรื่องต่าง ๆ นั่งอีกสักครู่ใหญ่ ๆ
อาหารแต่ละอย่างก็ทยอยมาเสิร์ฟ พวกเราก็ก้มหน้าก้มตาทาน ไม่คุยแล้ว จนอาหารหมด อิ่มกันได้ที่ ก็ถึง
ตอนนั่งย่อย พูดคุยกันถึงรสชาติอาหาร บริการ ยังเอ่ยปากชมกันว่า อาหารอร่อย บริการก็ดี คนรับ
รายการยิ้มแย้ม คล่องแคล่ว แถมยังพูดภาษาอังกฤษได้ด้วย ร้านก็คนเยอะแยะ ฝรั่งมากินกันเต็มไปหมด
น่าอิจฉาเจ้าของร้านจริง ๆ เลย ประมาณนั้น ในขณะที่พนักงานก็เริ่มเข้ามาเก็บจานออกไป พวกเราก็
สอดส่ายสายตารอบ ๆ ร้านไปด้วย ชี้โบ้ชี้เบ้ ประกอบการสนทนา
นั่นเอง.......สิ่งที่พวกเราไม่คาดฝันว่าจะเห็น ว่าจะเกิด ขอเล่าเป็นข้อ ๆ เลยนะคะ
เห็นกันจะ ๆ ต่อหน้าต่อตา แบบนี้จริง ๆ ค่ะ
1. จานทอดมันฯ อันแสนโอชะของพวกเรา ถูกยกเข้าไปยังส่วนของการล้างจาน ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่
ประจำอยู่หนึ่งคน เป็นผู้หญิงอายุประมาณ 30 ปลาย ๆ ภาพที่เราเห็นเผิน ๆ คือ เค้าคอย - แยก
อาหาร แยกขยะ หรือกวาดเศษอาหารทิ้งจากจานก่อนล้าง แต่ดูไปดูมามันไม่ใช่ค่ะ พอสังเกตดี ๆ จะ
เห็นว่า ตรงนั้นมันจะมี ตระกร้าแบบเหลี่ยม ทรงเตี้ย ใบเล็ก ใบใหญ่ อยู่หลายใบ ทีเดียว แต่ละใบก็
จะบรรจุสิ่งของต่าง ๆ กัน ที่เห็นก็มีดังนี้ค่ะ * รังนกทอด * ผักแต่งจาน * กล้วยไม้ที่ใช้ประดับจาน *
หลอดน้ำดื่ม * ขยะรวม
จานทอดมันฯของพวกเราถูกยกไปวางแถว ๆ นั้น พร้อม ๆ กับจานอาหารแต่ละประเภท จากแต่ละโต๊ะ
ญ. คนดังกล่าวก็เริ่มทำการ "แยก" กล้วยไม้ไว้ในตะกร้ากล้วยไม้ รังนกทอด หยิบมาดู ๆ เห็นว่าถูก
หักเป็นชิ้น ๆ แล้ว ทิ้งไปในขยะรวม ส่วนรังนกที่มาจากโต๊ะอื่น ๆ ยังสภาพดีอยู่ รวมไว้ในตะกร้ารังนก
ด้วยกัน
2. ข้าวผัดสัปปะรด ลักษณะเวลาเสิร์ฟคือ เป็นข้าวผัด ที่อยู่ในลูกสัปปรรดที่ถูกผ่าซีกในแนวนอน แล้วถูก
ควักเนื้อออกหมดแล้ว ประดับขอบด้วยกล้วยไม้ บัดนี้ เมื่อทานหมด จับเข้าส่วนล้างจาน ถูกกระทำด้วยผู้
หญิงคนเดิม กล้วยไม้ ถูกแยกไว้กับตะกร้ากล้วยไม้ กวาดเศษข้าวผัดที่เหลือ ๆ ออก
นำสัปปรรดซีกนั้น แกว่ง ๆ จุ่มๆ ในกะละมังที่มีน้ำอยู่ แล้วนำไปรวมกันไว้กับสัปปรรดซีกอื่นๆ ในตะกร้า
สัปปะรด
ตอนนี้พวกเราเริ่มมองหน้ากันตาปริบ ๆ สงสัยกับการกระทำนั้น ๆ ว่าเค้าทำอาไรเน้อ
3. น้ำมะพร้าว เวลาเสิร์ฟ ลักษณะคือ มาทั้งลูก แล้วเสียบหลอด เมื่อทานหมด บัดนี้ ถูกนำมาตั้งรวมไว้
ที่เดียวกัน ถูกผู้หญิงคนเดิม นำหลอดออก แล้วมารวมกันไว้ในตะกร้าหลอด วางตั้งไว้สักพัก มีผู้ชายคน
หนึ่งมาหยิบเอาลูกมะพร้าวไป โอ้.........พระเจ้าจอร์ช น่าสะอิดสะเอียนมาก เมื่อเห็นชายผู้นั้น
นำลูกมะพร้าวดังกล่าว มาเปิดฝา แล้วเทน้ำมะพร้าวที่บรรจุไว้ในขวดเข้าไป แล้วจัดแจงเสียบหลอด ปิด
ฝา จิ้มด้วยกล้วยไม้ แล้วเดินหายลับตาไป คาดว่าน่าจะเอาไปเสิร์ฟผู้โชคร้ายสักคน (ทั้ง ๆ ที่เราก็แงะ
เนื้อกินไปแล้ว 2-3 คำ)
ตะลึงค่ะ บอกได้คำเดียวว่าตะลึง ทั้งโต๊ะ อ้าปากค้างกันเป็นแถว หันกลับไปดู ผู้หญิงด้านล้างจานกันแบบ
ไม่ได้นัดหมาย
4. จานอาหารที่ผ่านการรับประทานยังทยอยกันมาไม่ขาดสาย ผู้หญิงคนนั้นก็ยังขมักเขม้นกับการ "แยก"
วัตถุต่าง ๆ อย่างชำนาญ ไม่ว่าจะเป็น รังนกทอด ผักแต่งจาน ดอกกล้วยไม้ หลอด ลูกมะพร้าว ลูก
สัปปะรด ฯลฯ ส่งต่าง ๆ ที่ยังดูไม่สึกหรอ เมื่อบางตะกร้าเริ่มมีจำนวนของมากพอสมควร ก็จัดแจง
ส่งเข้าครัว (ซึ่งตรงนั้นมันจะเป็นช่อง ๆ ไว้สำหรับผ่านสิ่งของกัน ระหว่างห้องครัวกับที่ล้างจาน)
ไม่ต้องเล่าต่อแล้วใช่มั้ยคะ ว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่นึกไม่ฝันว่า จะเกิดการรักษ์โลก รีไซเคิลกันได้ถึงเพียง
นี้ สิ่งที่รับประทานไปเมื่อตะกี้ แทบจะออกมาทางเดิมเลยค่ะ ท่านผู้อ่านที่เคารพรัก
พวกเรามองกันอยู่นานนนนนมากกกกก จนผู้หญิงคนนั้นเค้าเริ่มจะรู้สึกตัว กิจที่ทำอยุ่เริ่มเป็นไปอย่าง
ตะกุกตะกัก แบบว่า ไม่ค่อยรื่นน่ะค่ะ ทำแบบเคอะเขิน จนเมื่อมีพนักงานเสิร์ฟเดินเอาจานมาวางไว้ให้
เค้าก็เริ่มกระซิบกระซาบกัน แล้วก็หันมามองพวกเรา จนพวกเรามีความเห็นตรงกันว่า.....ถอยดีกว่า
ไม่อาวดีก่า แล้วก็เช็คบิล รีบออกมาจากที่นั่นทันใด
ค่าอาหารมื้อนี้ ตกราว ๆ 600 กว่า บาท จำตัวเลขที่แน่นอนไม่ได้ค่ะ ยังคุยกันเลยว่าค่อนข้างแพงถึง
แพงที่สุดกับการนำอาหาร "ขยะ" มาให้ทาน
หนำซ้ำการคิดราคาค่าอาหาร ยังบวกแวต (ภาษีมูลค่าเพิ่ม) เข้าไปอีก 7 เปอร์เซ็นต์ ทำเหมือนเมือง
นอกเลยค่ะ ระบบนี้ในเมืองไทยไม่ค่อยเห็น นอกจากตามโรงแรมหรือภัตตาคารใหญ่ ๆ ระดับ
อินเตอร์ ฯ
เดินกันออกมาจากร้าน ยังขนลุกอยู่ไม่หาย กับพฤติกรรมดังกล่าว
พวกเราคิดกันว่า ไม่ใช่ตัวลูกจ้างหรอก ที่จะกล้าทำแบบนั้น ถ้าหากว่าเจ้าของร้าน ไม่สั่งให้ทำ ไม่รู้
จะหากำไรอะไรกันขนาดนั้นคะ ใช้วิธีสกปรกมากไปหรือเปล่า
เรื่องที่เราเจอนี้ เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมานี้เองค่ะ ตอนแรกกะว่าจะเข้ามาเล่าให้ชาว
พันธุ์ทิพย์ฟังตั้งนานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสสักที ได้แต่เล่าให้เพื่อนฝูงคนรู้จักกันฟัง ให้เค้าได้ไปเล่า ต่อ ๆ
กัน
อ้อ......วันนั้นกลับบ้านกันไป ตัวเรา ระหว่างทางกลับบ้าน ปวดท้องนิดหน่อย แบบมวน ๆ แต่ไม่
เป็นไรมาก เพราะปกติ เป็นคนธาตุแข็ง ส่วนแม่แฟนเรา อายุ 60 แล้ว ท้องเสียทั้งคืนเลย แต่โชคดีที่
ไม่เสียแบบหนัก ๆ และเพื่อนของแม่แฟน จากที่ได้โทรฯ สอบถามอาการกันแล้ว ก็มีท้องเสียบ้างเหมือน
กัน 2-3 ครั้ง
ยังนึกเสียดายอยู่ว่าวันนั้นไม่ได้ถ่ายรูปไว้ จะได้มาโพสต์ให้เห็นกันจะๆ ไปเลย มีแต่กล้องจากโทรฯมือถือ
ซึ่งไม่สามารถถ่ายเห็นในระยะนั้นได้
แต่คิดไปคิดมาอีกที ถ้ามีกล้องจริง ๆ ก็ไม่รู้ว่าจะกล้าถ่ายหรือเปล่า กลัวถูกอุ้มค่ะ
เมื่อประมาณเดือนที่แล้วนี่เอง หลังจากที่เราได้เล่าเรื่องนี้ให้แก๊งค์เพื่อนสนิทเราฟัง เราก็ได้มีโอกาส
ไปเดินสวนฯ อีกครั้ง เราก็เลยบอกเพื่อนๆ ว่า จำได้มั้ย เรื่องที่เคยเล่าให้ฟัง เดี๋ยวเราจะพาไปดู
สถานที่จริง ก่อนไปถึง เราก็เตี๊ยมกับเพื่อน ๆ ว่า อะไรอยู่ตรงไหน ให้สังเกตอะไรส่วนไหนบ้าง
วันนั้นไปกันทั้งหมด 4 คนค่ะ รวมตัวเราด้วย ก็ทำเป็นว่า เดินหลงกัน แล้วก็ไปหยุดรอกันตรงที่เกิดเหตุ
พอดี ก็สายตาใครสายตามันค่ะ กวาดบรรยากาศรอบ ๆ กันใหญ่ เราเห็นแล้วก็ยังอดขำไม่ได้ ทำหน้า
เหมือนคนหลงทางกันจริง ๆ เลย เราเองก็ยืนอยู่แถว ๆ นั้นด้วยเหมือนกัน ก็เห็นแบบเดิม ๆ เลย
ค่ะ เพื่อน ๆ เห็นแล้วต่างก็อุทานเป็นเสียงเดียวกันว่า "แหวะ"
โชคร้ายที่วันนั้น ยังไม่มีใครทานข้าวกันไปเลย แล้วก็เลยไม่กล้าทานข้าวนอกบ้านเลยค่ะวันนั้น ต้องหิ้ว
ท้องกลับมาทำทานกันที่บ้าน
เข้าเรื่องต่อค่ะ หลังจากที่หมดแผนทำเป็นหลงทาง หาเพื่อนไม่เจอแล้ว
เราก็นัดกันว่า ให้เดินมาเรื่อย ๆ จนสุดร้าน ให้ไปจนถึงโซนที่เริ่มมีร้านขายของ ให้ไปรอกันแถว ๆ นั้น
นะ (ตรงแถวนั้น ร้านแรกจะเป็นร้านขายกระโปรงแนวแขก ๆ ) ซึ่งเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งไปถึงก่อน ก็
ยืนดูกระโปรงร้านนั้นอยู่ เมื่อเจอกันจนครบแก๊งค์ ก็เริ่มเม้าท์แตกกัน เจ้าของร้านเค้าก็ฟังอยู่ด้วย
เค้าก็ถามขึ้นมาว่า "มีอะไรกันเหรอคะ" เราก็เริ่มเม้าท์พฤติกรรมร้านโถพลูให้ฟัง ว่าอย่างโน้นอย่างนี้
พี่เค้าก็ทำ ปากจุ๊ ๆ แบบว่า ให้หยุดพูด ตอนแรกเราก็งง ๆ เอ๊ะ ทำไมเหรอ พี่เค้าก็ชี้ไปที่ข้าง ๆ
ร้าน ช่องถัดไป อ้าว.......กลายเป็นส่วนจัดเตรียมน้ำของร้านโถพลูซะงั้น โห อะไรมันจะขยาย
สาขาได้มากมากก่ายกอง
เราหันไปมอง เพื่อน ๆก็มองตามกันไป มีคนอยู่ในนั้น 2 คน คนหนึ่งเป็นคนเดินเสริฟและเก็บแก้ว อีกคน
หนึ่งเป็นคนตระเตรียมเครื่องดื่มไว้คอยท่า (จากการสังเกตค่ะ) อีกแล้วครับท่าน ภาพที่เห็นนั้น มัน
น่าขยะแขยงอีกแล้ว ไม่นึกเลยว่าจะต้องมาเจอภาพเหตุการณ์แบบนี้อีก แก้วน้ำต่าง ๆที่ผ่านการดูดดื่ม
มาแล้ว ถูกยกมาวาง หลอดถูกแยกออกไปรวมกันไว้ แน่นอนค่ะ นำกลับมาใช้ใหม่ แก้วน้ำที่ยังมีน้ำ
และน้ำแข็งค้างอยู่ ถูกเททิ้ง.....ไม่ล้างค่ะ นำน้ำแข็งชุดใหม่อัดใส่แก้วแล้วเสิร์ฟเลยทันทีทันใด
โอ้.....พระเจ้าจอร์ช มัน......อะไรดี เกินบรรยายค่ะ
หันไปมองหน้าเพื่อน ๆ แล้วทำหน้าแหย ๆ ใส่กัน
หันไปมองหน้าพี่ขายกระโปรง พี่เค้าได้แต่ยิ้ม ๆ
" พี่ขา วันก่อนนู้นหนูก็มาทาน เจอยิ่งกว่านี้อีกค่ะ"
พี่ขายกระโปรง ยังเอาแต่ยิ้ม
เรากะเพื่อน ๆ "โห เลวว่ะ ทำงี้ได้งัย" "แหวะ" "แบบนี้มันต้องแจ้ง" ฯลฯ
"พี่อยู่แถวนี้ก็คงพอเห็นบ้างใช่มั้ยคะพี่" เรายิงคำถาม
พี่เค้าก็ได้แต่ยืนยิ้ม คงไม่กล้าพูดอะไรมาก เพราะต้องขายของแถวนั้น
หลังจากที่พวกเราเม้าท์กันอย่างดุเดือด และกำลังจะเดินจากไป
พี่เค้าก็พูดขึ้นมาว่า " เห็นกันจนชินแล้วน้อง คนขายของที่จตุจักรเค้าไม่กินกันหรอกร้านเนี้ย"
กึ๋ย....หยอง
คือเรื่องจริงนะคะ ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ ไม่ได้กุเรื่องใด ๆ ขึ้นมาทั้งสิ้น
แล้วเราก็ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับร้านนี้นะคะ ไม่ใช่พวกที่เข้ามาก่อกวน
ให้ร้านเค้าเสียหายค่ะ หากจะถามหาหลักฐาน ขอบอกว่า "ไม่มี"ค่ะ
แต่ถ้าอยากจะเห็นกับตา ลองไปที่ร้านดูนะคะ
จาก Pantip.com


กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday