
เรื่องนี้เป็นเรื่องของกรรมที่ต้องชดใช้ในเวลาอันรวดเร็วดัง
ที่โบราณกล่าวไว้ว่าภายใน 3 วัน 7 วัน ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ
เพราะเรื่องนี้ได้เกิดขึ้นแล้ว!!เรื่องนี้ ท่านดร.พระราชวรมุนี รองเจ้าคณะภาค 17
และรองเจ้าอาวาสวัดดุสิดาราม กทม. ได้นำมาเล่าให้ฟังอีกต่อหนึ่ง
ท่านเจ้าคุณเล่าว่า
วันหนึ่งท่านได้รับนิมนต์ให้ไปสวดศพแม่ครัวที่วัดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
แม่ครัวคนนี้ถึงแก่กรรมด้วยอุบัติเหตุที่ ไม่น่าเชื่อ
คือตกหม้อข้าวต้มตายแล้วท่านเจ้าคุณก็ขยายความต่อไปว่า
แม่ครัวผู้นี้เป็นมารดาของข้าราชการระดับสูงท่านหนึ่ง
เธอเป็นแม่ครัวรับจ้างทำอาหารเลี้ยงแขกที่มาในงานศพที่วัดแห่งนี้
แบบผูกขาดมานานจนร่ำรวย สามารถส่งเสียลูกๆเรียนจบมหาวิทยาลัย
ได้ดีไปหลายคนกรรมที่ทำให้เธอต้องมาพบอุบัติเหตุจนถึงแก่ความตายนั้น
เรื่องมีอยู่ว่า
วันหนึ่ง แม่ครัวผู้นี้เห็นว่าเนื้อหมูจำนวนมากที่นำมาสับเพื่อเตรียมทำข้าวต้มหมู
เลี้ยงแขกที่มาในงานศพนั้น หายไปอย่างผิดปกติทั้งๆที่เพิ่งสับเสร็จไม่นาน
แค่หันไปหยิบเครื่องปรุงหรือไปทำอย่างอื่นแค่ชั่วประเดี๋ยวประด๋าว
พอหันกลับมาอีกครั้งเพื่อจะนำเนื้อหมูที่สับวางทิ้งไว้บนเขียงใส่ลงหม้อข้าวต้ม
ปรากฏว่าเนื้อหมูอันตรธานหายไปหมด โดยไม่มีร่องรอย
พอถามคนโน้นคนนี้ก็ไม่มีใครรู้เรื่อง
เพราะต่างก็วุ่นกับงานของตัวเองแรกๆเธอก็คิดว่าไม่เป็นไร
แต่ครั้นเป็นอย่างนี้ติดต่อกันบ่อยครั้งเข้าใน
ทุกครั้งที่เผลอ เธอจึงอดรนทนไม่ได้
ดังนั้นจึงได้วางแผนที่จะจับเจ้าขโมยตัวดีเธอทำทีเป็นสับเนื้อหมูวางไว้
บนเขียงไม้เหมือนเดิมแล้วก็แสร้งหันไปทำอย่างอื่นเหมือนเคยแต่ทว่าตาคอย
แอบจับจ้องอยู่ที่เขียงไม้ตลอดเวลาทันใดนั้นก็มีลูกสุนัขผอมโซตัวหนึ่งซึ่งแอบ
ซ่อนอยู่ใต้โต๊ะทำกับข้าวนั่นเองปีนขึ้นมากินเนื้อหมูสับจนหมดอย่างรวดเร็ว
แล้วก็กระโดดวิ่งหนีไปเมื่อเห็นว่าเจ้าหัวขโมยเป็นลูกสุนัข
เธอจึงรู้สึกโกรธแค้นมากจึงได้วางแผนที่จะจัดการเจ้าลูกสุนัขตัวนี้
ดังนั้นในวันรุ่งขึ้นเธอก็ทำทีสับเนื้อหมูทิ้งไว้บนเขียงไม้เหมือนเช่นเคย
แต่คราวนี้เธอไม่ได้วางเขียงไม้ไว้ที่เดิม
แต่กลับนำเขียงไม้ไปพาดกับปากหม้อข้าวต้มใบใหญ่ที่กำลังเดือดพลั่กๆ
อยู่แล้วเอาปลายไม้ข้างหนึ่งพาดหมิ่นๆไว้ที่ปากหม้อข้าว
จากนั้นเธอจึงเดินออกไปแอบดูอยู่ใกล้ๆฝ่ายเจ้าลูกสุนัขเมื่อเห็นไม่มีคนอยู่ตรงนั้น
มันจึงกระโดดเต็มแรงเพื่อขึ้นมากินเนื้อหมูสับอย่างเคย
แต่ทว่าปลายไม้ที่วางหมิ่นๆพาดกับปากหม้อข้าวไว้นั้นได้กระดกขึ้นมา
ทำให้เจ้าลูกสุนัขตกลงไปในหม้อข้าวต้มที่กำลังเดือดพลั่กๆทันทีผลคือตายคาที่
โดยไม่มีโอกาสได้ร้องเลยสักแอะเดียว
อนิจจา..เจ้าหมาน้อย
เมื่อจัดการกับเจ้าลูกสุนัขได้แล้วเธอก็รู้สึกปลอดโปร่งโล่งใจเป็นอันมากเพราะไม่
ต้องมาคอยกังวลว่าเนื้อหมูสับจะหายไปอีกเพียงไม่กี่วันเธอก็ลืมเรื่องนี้เสียสนิท
ประกอบกับหลังจากนั้นไม่มีงานศพที่วัดเธอจึงไม่มีงานที่ต้องมาทำอาหารเลี้ยง
แขกเวลาผ่านไป 7 วันครบวันที่ลูกสุนัขตายพอดี
วันนั้นเผอิญมีงานศพที่วัดแม่ครัวคนนี้ก็เข้าไปรับงานจัดเลี้ยงเหมือนเดิม
วันนั้นเป็นวันแรกของงานศพเธอจึงได้ต้มข้าวต้มหมูเหมือนทุกครั้งที่ผ่านๆมา
ขณะที่ข้าวต้มกำลังเดือดพลั่กๆอยู่นั้นเธอก็บอกคนงานให้มาช่วยยกหม้อข้าวลง
จากเตาไฟแต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นหูหิ้วหม้อข้าวต้มข้างที่เธอถือนั้น
เกิดหักหลุดจากมือ ตัวเธอจึงถลำลื่นหัวทิ่มลงไปในหม้อข้าวต้มใบใหญ่ที่กำลัง
เดือดพลั่กๆ นั้น ตายทันทีโดยไม่ทันได้ร้องสักแอะเดียว
เป็นชะตากรรมเดียวกับที่เธอทำกับเจ้าลูกสุนัขตัวนั้นอย่างไม่ผิดเพี้ยน!!
ลูกสุนัขกับแม่ครัวคนนี้คงจะเคยเป็นเจ้ากรรมนายเวรกันมาหลายภพหลายชาติ
ผูกพยาบาทอาฆาตกันไม่จบสิ้น ในชาตินี้จึงมาสร้างกรรมทำเวรซึ่งกันและกัน
เพิ่มเข้าไปอีก
ผู้เขียนขอย้ำว่ากฏแห่งกรรมนั้นมีจริง
เป็นจริงได้ตลอดเวลาโดยไม่คาดฝันสุดแท้แต่ว่าจะให้อโหสิกรรมต่อกัน
เลิกอาฆาตพยาบาทจองเวรกันและกันหรือไม่หากไม่ได้
ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน เจริญสติปัฏฐาน 4ก็จะไม่รู้ซึ้งถึงกฏแห่งกรรม
จะไม่รู้ถึงการให้อภัยทานการเลิกอาฆาตพยาบาทกันและกัน
กฏแห่งกรรมนั้นนอกจากจะมีจริง
เป็นจริงแล้วยังเกิดขึ้นได้โดยไม่เลือกกาลเวลาและสถานที่อีกด้วยดังนั้นคงไม่มี
อะไรประเสริฐเท่ากับความมีเมตตา ให้อภัยต่อกัน ไม่ว่ากับคนด้วยกัน
หรือกับสรรพสัตวเพราะต่างก็มีชีวิต มีความรู้สึกเจ็บปวด ทุกข์ทรมานเหมือนๆกัน
P.s ขอขอบคุณบทความจาก อารมณ์ดีดอทคอม




กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday