เมื่อประจำเดือน ไม่เป็นประจำเดือน

ประจำเดือนเป็นเรื่องใกล้ตัวผู้หญิงทุกคน

แต่ก็ใช่ว่าผู้หญิงเราจะมีความรู้เรื่องนี้กันมากนัก เพราะบางคนพอเกิดอาการผิดแผกแตกต่างจากเดือนก่อนๆ ขึ้นมา ก็เป็นอันต้องตกอกตกใจแทบสิ้นสติ แต่สำหรับบางคนกลับกลับนิ่งนอนใจเหลือเกิน ไม่เคยสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับประจำเดือนของตัวเองเลยด้วยซ้ำ


นพ.ธีระ วัชรปรีชานนท์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญประจำศูนย์การแพทย์นวบุตร สตรีและเด็ก อาคารไลฟ์ เซ็นเตอร์ ถนนสาทรใต้ จึงมาให้ข้อมูลและคำชี้แนะเบื้องต้น เพื่อที่สาวๆ จะได้เตรียมตัวให้พร้อมรับมือกับเรื่องของประจำเดือนในทุกรูปแบบ


“ประจำเดือน คือเลือดที่ออกจากโพรงมดลูกเป็นรอบๆ ห่างกันทุก 28 วัน ผิดพลาดได้ไม่เกินบวกลบ 7 วัน หมายความว่าบางเดือนหรือของบางคน รอบของประจำเดือนอาจจะเป็น 21 วัน 22 วัน หรือ 30 วัน 35 วันก็ได้ ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ และระยะเวลาที่มีเลือดจะอยู่ที่ประมาณ 2-7 วัน”

ซึ่งคนที่มีประจำเดือนอยู่ในเกณฑ์นี้ก็เบาใจได้เพราะถือว่าปกติ

สำหรับผู้หญิงที่พบว่าตัวเองอาจจะมีความผิดปกติเกี่ยวกับระยะเวลาของรอบประจำเดือน ไม่ว่าจะเป็น ประจำเดือนมาช้ากว่าปกติ คือมีรอบประจำเดือนนานเกินกว่า 35 วัน แต่ไม่ถึง 3 เดือน ประจำเดือนมาเร็วกว่าปกติ หมายถึงรอบประจำเดือนสั้นกว่า 21 วัน และประจำเดือนขาด หมายถึงไม่มีประจำเดือนมานานเกินกว่า 3 เดือน บางทีระยะมีประจำเดือนนานกว่า 7 วันขึ้นไป หรือมาน้อยกว่า 1-2 วัน มาแบบกะปริบกะปรอยไม่เป็นเวลาแน่นอน มีเลือดไหลมาก หรือเป็นลิ่มเลือดก้อนใหญ่ๆ  


เมื่อประจำเดือน ไม่เป็นประจำเดือน


ปวดท้องน้อยขณะมีประจำเดือน พบได้ประมาณร้อยละ 71 ของผู้หญิงในวัยที่มีประจำเดือน

ส่วนใหญ่จะปวดไม่มากและสามารถทำงานได้ตามปกติ ทานยาแก้ปวด พักผ่อนเยอะๆ ใช้กระเป๋าน้ำร้อนประคบหน้าท้อง เดี๋ยวอาการปวดก็จะค่อยๆ หายไปเอง ส่วนน้อยเท่านั้นที่อาจปวดรุนแรงจนต้องพักงาน หรือปวดมากจนทำงานไม่ได้ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่ามีความผิดปกติของเยื่อบุมดลูก เช่น โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) เป็นหนึ่งในสามสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้หญิงเป็นหมัน โรคนี้จะเห็นชัดจากอาการปวดประจำเดือนอย่างรุนแรง ประจำเดือนมามาก และปวดอุ้งเชิงกรานเรื้อรัง หรือเกิดจากการอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน (Pelvic inflammatory disease – PID) ซึ่งเป็นการอักเสบของอวัยวะสืบพันธุ์ภายใน เช่น มดลูก หรือปีกมดลูก อาการที่พบ คือ ปวดท้องน้อย มีไข้ ตกขาวผิดปกติหรือเป็นหนอง บางรายอาจเรื้อรังจนทำให้เป็นหมันได้ แนะนำว่าควรตรวจภายใน เพื่อค้นหาสาเหตุให้แน่นอน และให้การรักษาตามสาเหตุที่พบ


“แต่ถ้าเลือดประจำเดือนออกมากผิดปกติ มักเกิดจากภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล ทำให้การตกไข่ไม่สม่ำเสมอ ซึ่งมีสาเหตุมาจาก การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในช่วงวัยรุ่น หรือวัยใกล้หมดประจำเดือน (วัยทอง) โรคเบาหวาน ความผิดปกติของต่อมธัยรอยด์ หรือต่อมใต้สมอง (Pituitary) อ้วนมากเกินไป บางทีอาจมีความเสี่ยงเป็นเนื้องอกของมดลูก หรือมีเยื่อบุโพรงมดลูกเติบโตผิดปกติของผนังมดลูกภายใน โดยทั่วไปจะไม่ใช่เนื้อร้าย แต่ในบางกรณีก็สามารถกลายเป็นเนื้อ ร้ายได้”

 โดยเฉพาะถ้ามีเลือดออกผิดปกติร่วมกับรอบเดือนไม่สม่ำเสมอในผู้สูงอายุ


สำหรับผู้หญิงที่พบว่าประจำเดือนมาห่างเกินไป อาจเกิดจากความผิดปกติของรังไข่ และต่อมหมวกไตผลิตฮอร์โมนเพศชายมากเกินไป ทำให้ไม่มีการตกไข่ และผลจากการมีระดับฮอร์โมนเพศชายสูงขึ้นในร่างกายผู้หญิง ย่อมก่อให้เกิดปัญหาน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ความผิดปกติเกี่ยวกับระดับน้ำตาลในเลือดและระดับโคเลสเตอรอลในเลือดสูงขึ้น มีบุตรยากเนื่องจากภาวะไข่ไม่ตกเรื้อรัง รวมถึงการเริ่มมีสิวขึ้นมากตามใบหน้าและผิวหนัง ขนขึ้นดกตามใบหน้าและลำตัวผิดปกติอีกด้วย
 

สำหรับผู้ที่เกิดอาการผิดปกติแล้ว ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษาโดยด่วน ส่วนผู้ที่ยังไม่ปรากฏอาการผิดปกติใดๆ ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ

ทางออกที่ดีคือ
 
ควรตรวจร่างกายประจำปีเพื่อส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ซึ่งเป็นการช่วยให้สามารถตรวจพบโรคตั้งแต่ระยะเริ่มแรก ตอนที่โรคยังเป็นไม่มากนัก ส่วนคนที่ป่วยเป็นโรคแล้วก็จะได้ป้องกันต่อไปเพื่อไม่ให้เป็นโรคแทรกซ้อน


โดยเฉลี่ยแล้วผู้หญิงสามารถเริ่มตรวจร่างกายได้ตั้งแต่อายุ 20 ปี ซึ่งช่วงวัยนี้จะพบในเรื่องของ ฮอร์โมนผิดปกติ ประจำเดือนมาไม่ปกติ ป้องกันมะเร็งปากมดลูก ไวรัสตับอักเสบบี หัดเยอรมัน รับคำแนะนำก่อนแต่งงานหรือก่อนมีบุตร
 


ต่อมาคือ ช่วงอายุ 20 – 40 ปี ควรได้รับการตรวจมะเร็งปากมดลูก การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ ภาวะการเป็นพาหะนำโรคที่สามารถถ่ายทอดสู่บุตร ปรึกษาเรื่องการคุมกำเนิด การวางแผนครอบครัว พออายุ 40 ปีขึ้นไป ร่างกายจะเริ่มจะแสดงความเสื่อมหลายอย่าง เช่น ไขมันเลือดจะสูงขึ้น มีภาวะอ้วนขึ้น มีความดันโลหิตสูงมากขึ้นได้ เบาหวาน มะเร็งเต้านม เตรียมตัวเข้าสู่วัยทอง ดูแลกระดูก เป็นต้น


สำหรับแง่ของการดูแลสุขภาพ การป้องกันโรคดูจะเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งสำหรับคนไทยในยุคนี้ อย่ารอให้อาการเจ็บป่วยเกิดขึ้น เพราะสำหรับบางคนอาจจะสายเกินไปแล้ว


ขอขอบคุณเนื้อหาดีดี โดย:ผู้หญิงนะค่ะ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์