กลยุทธ์ที่ 1 : อย่าคาดหวังว่า "บ้าน"
ต้องเหมือนบ้านตัวอย่าง หรือ บ้านในแมกกาซีน
ระลึกไว้เสนอว่า บ้านคือสถานที่ที่ทุกคนใน
ครอบครัวใช้ดำรงชีวิตอยู่ประกอบกับกิจกรรมต่างๆ
ในครอบ ครัว การคาดหวังว่าบ้านบ้านต้องสมบูรณ์แบบ
เป็นระเบียบ สะอาดสะอ้านไม่มีที่ติ เป็นเรื่องเป็นไปได้ยาก
หากคุณไม่มีตำแหน่งคนดูแลบ้าน คนดูสวน แต่ต้อง
ทำกันเองทั้งหมด ก็อย่าได้ไปเครียด หรือวิตก กังวล
เพราะบ้านที่อบอุ่น มีชีวิตชีวา ต้องมีความเคลื่อนไหว
และเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
กลยุทธ์ที่ 2 : หาเวลารับประทานอาหารร่วมกัน
คงเป็นไปได้ยาก หากบุคคลในครอบครัวจะมา
นั่งรับประทานอาหารร่วมกันทุกมื้อ เพราะสภาพสิ่ง
แวดล้อมของการทำงาน เวลาเลิก งาน ความรับผิดชอบ
รวมทั้งปัญหาจราจรซึ่งทำให้เวลาไม่ตรงกัน แต่การ
หาเวลารับประทานอาหารร่วมกัน โดยถือเป็นมื้อของ
ครอบครัว ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป เช่น กำหนดให้วัน
อาทิตย์มื้อเย็นเป็นการรับประทานอาหารในครอบ
ครัวหนึ่งมื้อ
กลยุทธ์ที่ 3 : ให้ความสำคัญกับทุกคนในครอบ
ครัวด้วยการแบ่งปันหน้าที่รับผิดชอบในบ้าน
กลยุทธ์นี้หมายถึงนอกจากให้ความสำคัญกับ
สมาชิกในครอบครัวแล้ว ยังเป็นการแบ่งเบาภาระ
หน้าที่ของ ผู้เป็นแม่บ้านด้วย ยกตัว อย่าง เช่น
ลูกสาวคนโตมีหน้าที่จ่ายตลาด ลูกสาวคนรอง
เข้าครัวเป็นลูกมือ คุณพ่อต้องตัดหญ้าและล้าง
รถร่วมกับลูกชายในทุกวันเสาร์ ฯลฯ
กลยุทธ์ที่ 4 : ให้สมาชิกแต่ละคนมีความรับผิดชอบต่อตนเอง
กรณีนี้หมายถึง การหัดเด็กๆ ในบ้าน รู้เวลาเข้านอน
ตื่นนอน เตรียมอุปกรณ์การเรียน การทำความสะอาดห้อง
การเก็บที่นอน ฯลฯ เพราะกิจกรรมดังกล่าวจะเป็น
การเสริมสร้างนิสัยที่ดีให้กับสมาชิก ครอบครัวและยังเป็น
การแบ่งเบาภาระของครอบครัวร่วมกันด้วย
กลยุทธ์ที่ 5 : ให้สมาชิกแต่ละคนมีความรับผิดชอบต่อตนเอง
การปรึกษาหารือ เป็นเรื่องสำคัญที่พ่อและแม่มีบทบาทสำคัญ
การใช้เวลานั่งดูโทรทัศน์ หรือ ใช้เวลาตอนรดน้ำต้นไม้สอบถาม
เรื่อง การเรียนของลูก การทำงานของสามี-ภรรยา คุยถึงเพื่อนๆ
หรือกิจกรรมพิเศษของลูกในโรงเรียน เป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย
เพราะการพูดคุยเช่นนี้จะไม่ทำให้เกิดถาวะการสะสมเรื่องราว
อีกทั้งสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ และความใกล้ชิดระหว่างกัน
กลยุทธ์ที่ 6 : ให้ความสำคัญกับวันพิเศษของสมาชิกในครอบครัว
วันครบรอบการแต่งงาน วันเกิดลูกๆ วันรับปริญญา หรือวันที่ลูก
เข้าแข่งขันกีฬานัดสำคัญ สิ่งเหล่านนี้ล้วนสำคัญและไม่น่ามอง
ข้าม เพราะสมาชิกในครอบครัวต้องการกำลังใจ และความเอา
ใจใส่จากคนในครอบครัวมากกว่าบุคคลอื่น
กลยุทธ์ที่ 7 : ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
หากสามี หรือ ภรรยา เกิดปัญหาจากการทำงาน การพูดคุย
ปรึกษาหรือถามไถ่ในเวลาที่สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ ถือเป็นน้ำ
ทิพย์ชโลม จิตใจที่ดี เหมือนสายฝนที่ชุ่มฉ่ำ แม้กระทั่งการให้กำ
ลังใจลูกเมื่อพลาดจากการสอบ หรือพลาดจาการชนะในการ
แข่งขันกีฬา อย่าได้ซ้ำเติม หรือเพิกเฉย ปล่อบให้คิดแก้ปัญ
หาเองโดยไม่มีคำปรึกษาที่ดี
กลยุทธ์ที่ 8 : หาอุปกรณ์อำนวยความสะดวก
ช่วยผ่อนแรงงานในบ้านบ้าง
ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องซื้อทุกอย่างที่อำนวยความสะดวก
มาซะทุกชิ้น แต่ต้องพิจารณาว่าชิ้นไหนควร ? ไม่ควร ?
หรือเหมาะสมกับ สภาพทางการเงินในครอบครัวหรือไม่ ?
เพราะการใช้เครื่องอำนวยความสะดวกใบบ้านบางชิ้น
สามารถประหยัดเวลาในการทำงาน ซึ่ง นั้นก็หมาย
ความว่าคุณมีเวลาได้ทำกิจกรรมอื่นภายในบ้าน
หรือมีเวลาให้กับคนในครอบครัวมากขึ้น
กลยุทธ์ที่ 9 : หากิจกรรมพักผ่อนในวันหยุดร่วมกัน
สิ่งนี้เป็นสำคัญเพราะว่าเป็นจุดทำลายความตึงเครียด
ของทุกคนในบ้านด้วยการเปลี่ยนบรรยากาศ เปลี่ยน
สถานที่พักอาศัยชั่วคราว เปลี่ยนรสชาติของอาหาร
ฯลฯ การเปลี่ยนแปลงในสิ่งต่างๆ เหล่านี้ จะทำให้ทุก
คนได้ผ่อนคลายจากภาระการทำงานนอกบ้าน ภาระ
การทำ งานในบ้าน ภาระการเรียนหนังสือ ฯลฯ
กลยุทธ์ที่ 10 : เริ่มต้น - จบลงด้วยบรรยากาศที่ดี
กลยุทธ์นี้สัมพันธ์กับการพูด การพูดที่ดีต่อกันของ
สมาชิกในครอบครัว เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างบรร
ยากาศที่ดีในครอบครัว การ พูดจากระแทกแดกดัน
หรือใช้อารมณ์ที่ขุ่นมัว ซึ่งติดมากับที่อื่น จะทำให้สมา
ชิกในบ้านเกิดความตรึงเครียด
10 กลยุทธ์ของการลดความเครียดในบ้านที่เอามาฝาก
ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงอาศัยความละเอียดอ่อน ความสังเกต
และความรัก เป็น ที่ตั้งอันสำคัญ เตรียมพร้อม เพื่อปก
ป้องเรื่องราวต่างๆ ที่จะทำให้เกิดความเครียดในครอบ
ครัวแล้วอย่าลืมตระเตรียมร่มคู่ใจ ให้สำหรับสมาชิกใน
บ้านด้วยนะค่ะ เพราะย่างเข้าฤดูฝนกันแล้ว สุขภาพจิตดี
ต้องสัมพันธ์กับสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงเสมอ....