ครั้งแรกที่ฉันเห็นหน้าเธอ เมื่อ 13 ปีก่อนฉันรู้สึกเหมือนต้องมนต์สะกด
ตัวชาวาบ จนขยับเขยื้อนไม่ได้
ได้แต่ยืนนิ่ง มองดูเธอผ่านไปจนลับตา
ความรู้สึกมันบอกว่า
คนนี้แหละนะ...ที่ใจตามหามาเนิ่นนาน
นับแต่วันนั้น...
ใจฉันไม่เคยลืมคิดถึงเธอ
ฉันเชื่อในพรหมลิขิต เสมอมา
วันเวลาผ่านไป
เราได้รู้จักกัน ได้ทำงานร่วมกัน
รู้จักนิสัยใจคอกัน
ฉันก็ยิ่งมั่นใจในความรู้สึกของตัวเอง
ฉันเคยแอบเอา วัน เดือน ปี ของเธอมาเขียนกราฟชีวิต
น่าแปลกนัก
ที่มันเหมือนกันกับของฉันราวกับแกละ
เหมือนกันทุกตัวเลข
ทั้งที่เกิดคนละวัน เดือน และ ปี
จวบจนถึงวันที่ความในใจฉันเปิดเผย
ฉันไม่รู้ว่าจริงๆแล้ว...ใจเธอคิดยังไง
แต่เธอก็แสดงออกว่ารับรู้ และยินดี
เธอเคยบอกว่า เธอรักฉันที่ความดี
ทั้ง รัก หวง และห่วงฉัน
เธออยากให้ฉันดูแล และ อยากได้ฉันเป็นแม่ของลูก
แต่ตลอดเวลา...เธอก็มีใครอีกคน
ปากบอกว่าอยากให้ฉันดูแล
แต่กลับให้เขาดูแล
ฉันต้องเสียน้ำตาเรื่อยมานับแต่วันที่เธอรู้ความในใจ
แต่ฉันก็ยังเชื่อมั่นในรัก และ พรหมลิขิต
อดทนและรอคอยว่าสักวัน
เธอจะทำให้สิ่งที่เธอพูดเป็นความจริง
แต่วันนั้นไม่เคยมาถึงเลย
ทุกวันที่เจ็บปวด ทุกเวลาที่เสียใจ
ช่วยบ่มเพราะต้นกล้าอย่างฉันให้เติบโตขึ้น
วันนี้ฉันได้เรียนรู้อะไรมากมายจากคำว่า รัก
ถ้อยคำหนึ่งจากหนังสือ
วาทะดังตฤณ ฉบับความรักหลากสี
บอกฉันว่า
รักแท้นะมีจริง แต่ที่จริงกว่าคือกิเลส
ฉันเองก็อยากรู้ ว่าความรู้สึกที่ฉันมีเป็นรักแท้ หรือเป็นเพียงกิเลส
นับแต่วันที่เธอ กล่าวคำขอโทษที่ทำให้ฉันเสียใจ
และบอกว่าฉันดูแลเธอไม่ได้เหมือนเขา
ใจหนึ่งฉันอยากถามว่า ดูแลไม่ได้ หรือ ไม่เต็มใจให้ดูแล
แต่ฉันไม่รู้จะถามไปทำไม
เพราะสุดท้ายไม่ว่าเหตุจะเพราะอะไร แต่ผลคือ เธอเลือกเขา
วันนี้ฉันเลิกเชื่อ พรหมลิขิต แต่หันมาเชื่อ กฎแห่งกรรม
ฉันยอมรับคำขอโทษ ฉันอโหสิกรรมให้ และขออวยพรให้เธอพบแต่ความสุข
***************
ขออย่าให้เราต้องมีเวรกรรมต่อกันอีกเลย
***********************