ภัยร้ายรายวัน : แท็กซี่รมยา

ภาพประกอบทางอินเตอร์เน็ตภาพประกอบทางอินเตอร์เน็ต


ภัยร้ายรายวัน : แท็กซี่รมยา

ระยะหลังมานี้ เรามักจะได้ยินใครๆ พูดถึงภัยที่เกิดจากการใช้บริการรถแท็กซี่ ซึ่งจะเกิดขึ้นกับผู้โดยสารที่ใช้บริการเพียงลำพัง เมื่อขึ้นนั่งสักระยะจะมีอาการเวียนศีรษะ หายใจไม่ออก รู้สึกเหมือนจะหลับ จนกระทั่งหมดสติ สันนิษฐานกันว่า คนขับรถใช้สารระเหยบางอย่างรมที่ช่องแอร์ เพื่อให้ผู้โดยสารได้สูดกลิ่นจากสารระเหย มิจฉาชีพในคราบคนขับรถแท็กซี่ จะใช้วิธีที่แนบเนียนในการรมสารเคมีโดยผู้โดยสารไม่อาจสังเกตได้ว่าเขากำลังทำสิ่งผิดปกติ คือ การป้ายสารเคมีไว้บริเวณฝ่ามือก่อนจะกดมิเตอร์ จากนั้นจึงทำทีว่าปรับหน้ากากแอร์หันไปทางผู้โดยสาร ซึ่งคนขับจะจ่อมือไว้ที่แอร์สักพักพอให้แน่ใจว่าสารนั้นระเหยไปตามทิศทางของแอร์ ลักษณะดังกล่าว ผู้โดยสารบางรายมักจะคิดว่า คนขับนั้นต้องการอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร จึงมองข้ามความผิดปกตินั้นไป

ชายคนหนึ่ง ที่เคยตกเป็นเหยื่อภัยร้ายในลักษณะนี้ ขอเล่าประสบการณ์เพื่อเป็นอุทาหรณ์ ว่า

“เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมาเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นกับผม ผมเพิ่งเสร็จจากการทำธุระในย่านสีลมช่วงบ่าย โดยส่วนใหญ่ผมก็มักจะใช้บริการแท็กซี่เป็นประจำ นิสัยส่วนตัวเมื่อผมขึ้นนั่ง ระหว่างทางผมก็มักจะงีบหลับ แต่ผมเป็นคนที่รู้สึกตัวง่าย และจะหลับๆ ตื่นๆ ตลอดทางจนถึงที่หมาย ในวันนั้น เมื่อผมใช้บริการแท็กซี่ ผมก็งีบหลับระหว่างรถวิ่งตามเคย แต่คราวนี้ผมหลับแบบไม่รู้เรื่องอะไรเลย หรืออาจจะเรียกได้ว่าหลับลึก ผมมารู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อตอนที่คนขับรถ เขย่าตัวผมอย่างแรง แล้วถามว่าบ้านอยู่ที่ไหน รหัสบัตรเอทีเอ็มคืออะไร ทุกคำถาม ผมรู้ตัวว่าผมได้ตอบอะไรไป

แต่ก็ไม่เข้าใจว่าตอนนั้นผมตอบไปได้ยังไง ทำไมผมจึงบอก ในตอนนั้นมันไม่มีแรงเลย หลังจากนั้น ผมก็ไม่รู้สึกตัว มาตื่น ก็นอนอยู่หน้าบ้านช่วงดึก

รุ่งขึ้นผมตรวจดูทรัพย์สิน ปรากฏว่ากระเป๋าสตางค์หายไป ผมก็ปฏิบัติตามขั้นตอนในการแจ้งธนาคารเมื่อบัตรฯ สูญหาย แต่ปรากฏว่า เขาได้กดเงินของผมไปหมดแล้ว ตลอดทั้งสัปดาห์นั้นผมรู้สึกมึนหัว เบลอตลอด ลืมสิ่งที่ต้องทำจนคนรอบข้างต้องคอยบอก และผมจำรายละเอียดของรถแท็กซี่ไม่ได้ ผมจึงไม่ได้แจ้งความ แต่หลังจากนั้นมา เมื่อผมขึ้นแท็กซี่ ผมก็จะไม่หลับ และสังเกตพฤติกรรมของคนขับฯ อยู่ตลอดทาง”

ผมขอฝากไว้ว่าทางที่ดี หากจะต้องนั่งรถแท็กซี่เพียงลำพัง ควรสังเกตพฤติกรรมของคนขับ หากรู้สึกถึงความผิดปกติทั้งจากตัวคนขับ หรืออาการบางอย่าง ควรลงจากรถโดยเร็วที่สุด

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์