10 วิธีลดเสี่ยง-เพิ่มสุข กับการหาเพื่อนออนไลน์
ได้ยินได้ฟังข่าวคราวเรื่องวัยรุ่นหลายคนกลายเป็น "เหยื่อ" ไป
เพราะ "เพื่อนใหม่" ที่คบหากันผ่านทางอินเตอร์เน็ตแล้ว อย่าว่าแต่ผู้ปกครองที่มีลูกหลานรุ่นราวคราวเดียวกันจะกังวลใจเลยครับ อย่างผมเองก็ไม่สบายใจ เพราะไม่อยากให้ใครๆ มองว่า อินเตอร์เน็ตหรือห้องแช็ตต่างๆ เป็น "ไอ้ตัวร้าย" ไปเสียทั้งหมด
คุณงามความดีของมันก็มีอยู่บ้างละครับ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกใช้มันเป็นเครื่องมือไปในทางไหน
แล้วก็มานึกถึงว่า น่าจะพอมีวิธีการต่างๆ ที่ช่วยเหลือบรรดาผู้ใช้อินเตอร์เน็ตด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพื่อประโยชน์ที่ต้องการจริงๆ ก็ให้บังเอิญได้รับข้อเขียนเชิงแนะนำของ มาเรียน เมอร์ริตต์ บล็อกเกอร์อเมริกันที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากเว็บล็อกเกี่ยวกับเรื่องผู้หญิงล้วนๆ ของเธอ ซึ่งตอนนี้หันมารับหน้าที่เป็นผู้ส่งเสริมการใช้อินเตอร์เน็ตอย่างปลอดภัยภายใต้การสนับสนุนของ ไซแมนเทค บริษัทด้านซีเคียริตี้ชื่อดังของสหรัฐอเมริกา มาเรียนแนะนำวิธีลดเสี่ยง เพิ่มความสุข ความสนุกให้กับการติดต่อกับเพื่อนออนไลน์ครับ
คำแนะนำประการแรกก็คือ
ถ้าเรายังใหม่ หรือเพิ่งไปพบเพื่อนใหม่ๆ ออนไลน์แล้วละก็ ทางที่ดีที่สุดก็คือ อำพรางตัวเองซะ อย่างน้อยก็ในระดับหนึ่ง มาเรียนแนะเอาไว้ว่า อย่าใช้ชื่อจริง ให้เบอร์โทรศัพท์ หรือเปิดเผยสถานที่ทำงานกับเพื่อนใหม่ที่คุณพบออนไลน์ และถึงแม้จะพัฒนากันจนถึงขั้นนัดเจอะเจอกันเป็นครั้งแรกแล้วก็ยังไม่บังควร เก็บเอาไว้จนกว่าคุณจะแน่ใจก่อนว่า เราต้องการสานต่อความสัมพันธ์กับเขาจริงๆ ไม่งั้นอาจต้องมานั่งปวดหัวกับถูกตามตื๊อไม่สิ้นสุด และยังป้องกันการตกเป็นเหยื่อของคนร้ายได้อีกต่างหาก
ข้อแนะนำข้อ 2 นั้น มาเรียนบอกว่า
ควรเปิดใช้อี-เมล แอดเดรสใหม่สำหรับการหาเพื่อนออนไลน์ ห้ามใช้ปะปนกับอี-เมลที่คุณใช้อยู่เป็นประจำครับ อ้อ! เธอบอกด้วยว่า อย่าตั้งชื่ออี-เมล จนดูเป็นการ "เชิญชวน" หรือ "ล่อแหลม" ไม่เหมาะไม่ควร และต้องไม่ใช้ชื่อจริงด้วย
ข้อ 3 นั้น มาเรียนแนะว่า
ถ้ามีเวลา ก็ลองทำตัวเป็นนักสืบ สืบเสาะเรื่องราวเกี่ยวกับเพื่อนใหม่ของคุณดู ใช้ ยาฮู, กูเกิ้ล นี่แหละครับ ลองตรวจสอบดูว่า ผลของมันแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหนกับที่เขาเปิดเผยกับคุณ หรือ คนคนนี้ไปร่วมอยู่ในชุมชนออนไลน์ที่ไหน ในลักษณะใดอีกบ้าง
ในสหรัฐอเมริกาเขามีเว็บไซต์หนึ่งน่าสนใจครับ ชื่อ www.dontdatehimgirl.com เป็นแหล่งที่คุณผู้หญิงใช้ในการแฉโพยคู่เดตประวัติร้ายทั้งหลาย เพื่อไม่ให้ใครตกเป็นเหยื่ออีก ผมว่าแนวคิดทำนองนี้น่าจะนำมาใช้ในบ้านเราบ้างก็คงได้นะครับ แต่คงต้องประยุกต์ใหม่กันอยู่บ้างให้เข้ากับแนวทางไทยๆ เรา
ข้อ 4 มาเรียนแนะว่า
แม้จะนัดเจอกันแล้ว ก็ควรระมัดระวังตัวให้รอบคอบครับ เริ่มตั้งแต่การป้องกันข้าวของส่วนตัว หรือเอกสารต่างๆ เช่น ใบเสร็จ กุญแจรถ กระเป๋าเงิน ให้ดีเพราะสิ่งของเหล่านี้อาจชักนำภัยร้ายเข้ามาใกล้ตัวเรา อย่างเช่นเราอาจตกเป็นเหยื่อถูกขโมยหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้โดยไม่รู้ตัวเป็นอาทิ เอาไว้รู้จักมักคุ้นกันจนวางใจได้ ค่อยเปิดเผยกันก็ไม่สายครับ
ข้อ 5 นี่ก็เป็นคำแนะนำที่น่าสนใจครับ มาเรียนบอกว่า
เมื่อนัดกันหนแรกนั้น ให้บอกคนอื่นให้รับรู้ด้วยว่า นัดกันที่ไหนอย่างไร อาจเป็นเพื่อนสนิทที่เราไว้วางใจ ขอให้แอบไปเป็นเพื่อนชนิดที่เขาคนนั้นไม่รู้เรื่องด้วยในครั้งแรกๆ แล้วก็อย่าลืมช่วยกันหาทางหนีทีไล่ คำแก้ตัวที่สมเหตุสมผลเอาไว้ "ชิ่ง" พ่อตัวดี ถ้าหากสถานการณ์เกิดไม่เข้าทีขึ้นมา
ข้อ 6 เธอแนะนำไว้ง่ายๆ ครับว่า
อย่าให้เบอร์โทรศัพท์ของคุณไปจนกว่าจะแน่ใจว่าเขาไม่มีพิษมีภัยแล้วจริงๆ
ข้อ 7 มาเรียนแนะว่า
ในการนัดพบกันครั้งแรกหรืออีก 2-3 ครั้งถัดมา ต้องนัดพบกันในที่สาธารณะที่มีคนเยอะๆ เท่านั้น อย่านัดพบกันที่บ้านเขา หรือเผลอไปนัดมาที่บ้านคุณเด็ดขาด ถ้าเห็นเขาทำท่าทีลึกๆ ลับๆ ละก็ ให้รีบปฏิเสธและผละหนีมาทันที
ข้อ 8 ในกรณีที่ต้องการ "หาคู่รัก" ออนไลน์ หรือหาเพื่อนผ่านเว็บไซต์ต่างๆ
มาเรียนแนะนำว่า ขอให้ใช้บริการของเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ มีระบบป้องกันข้อมูลรั่วไหลที่ดี (ถึงค่าบริการจะแพงกว่าก็เถอะ)
ข้อ 9 มาเรียนบอกว่า
อย่าไว้ใจบริษัทจัดหาคู่ หรือให้บริการหาเพื่อนเหล่านี้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าพวกเขาจะเก็บสำเนาข้อความหรือข้อมูลต่างๆ ของคู่เดตเอาไว้ให้เรา แต่ขอให้ทำสำเนาเก็บไว้เองด้วย เผื่อเอาไว้ จับพลัดจับผลูอาจกลายเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญของคุณในอนาคตก็ได้
ข้อสุดท้ายนั้น
ก็ไม่พ้นเรื่องของการเก็บรักษาข้อมูล ป้องกันคอมพิวเตอร์ของคุณให้รอดปลอดภัยจาก มัลแวร์ ต่างๆ นานา ไม่ว่าจะผ่านทางแช็ตรูมหรือมากับอี-เมล ทั้งที่เป็นสแปมและฟิชชิ่ง โดยใช้ซอฟต์แวร์เพื่อการรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ และต้องหมั่นอัพเดตอยู่เสมอๆ ครับ
ทำทั้ง 10 ข้อได้ ผมเล็งเห็นว่าน่าจะลดความเสี่ยงในการคบเพื่อนออนไลน์ของคุณลงได้อักโขแล้วละครับ