จิตเป็นกลาง...ใจพ้นทุกข์

จิตเป็นกลาง...ใจพ้นทุกข์


อีกครั้ง...กับการสูญเสียพระอริยสงฆ์  ครูบาอาจารย์สายวิปัสสนากรรมฐานที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ไปอย่างไม่มีวันกลับ..  พระอริยเจ้าองค์นั้นคือ พระราชนิโรธรังสี คัมภีร์ปัญญาวิสิษฐ์  หรือที่พวกเรา

เรียกขานกันติดปากว่า ‘หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี’ พระอาจารย์ใหญ่รุ่นเดียวกับหลวงปู่แหวน หลวงปูฝั้น อาจาโร ในสายแม่ทัพธรรมหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต...

        ...ท่านได้มรณภาพเมื่อคืนวันที่ 17 ธันวาคม 2537 ที่ผ่านมา...

หลังจากมาพำนักที่วัดถ้ำขาม จังหวัดสกลนคร ได้ประมาณสองปี...ผู้เขียนขออนุญาตกล่าวถึงประวัติของท่านสั้น ๆ พอสังเขป เพราะเนื้อที่สำหรับธรรมะ 5 นาทีมีไม่มาก  หลวงปู่เทสก์เกิดในตระกูล ‘เรี่ยวแรง’ เกิดเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2445 ที่บ้านสีดา ตำบลกลางใหญ่ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี เป็นบุตรคนที่ 9 ในจำนวนพี่น้อง 10 คน

ท่านมีนิสัยใฝ่ธรรมมาตั้งแต่เด็ก  จนมีอายุเพียง 14 ปีก็ได้พบท่านอาจารย์สิงห์  ขันตยาโม  ศิษย์ใกล้ชิดหลวงปู่มั่น  จึงฝากตัวเป็นศิษย์และได้บวชเป็นสามเณรที่วัดหนองขอน  ตำบลหัวตะพาน  อำเภอเมือง อำนาจเจริญในปัจจุบัน  จนกระทั่งได้อุปสมบทเรียนธรรมบาลีแตกฉาน  ท้ายสุดจึงได้เดินทางติดตามไปพบพระอาจารย์มั่น  ภูริทัตโต  ครั้งแรกที่บ้านค้อ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี  หลังจากนั้นก็ถือธุดงควัตรด้วยการเดินทางเข้าพม่า  ลาว และเขมร  ด้วยความพากเพียรเป็นเวลายาวนาน...

 ต่อมาเมื่อท่านสู่วัยชราภาพมากขึ้น  ท่านจึงกลับวัดหินหมากเป้ง  เมื่อปี พ.ศ. 2508 เพื่อปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังต่อเนื่อง รวมทั้งนำเอาธรรมโอสถของพระบรมศาสดา  มาบำบัดปัดเป่าความทุกข์ให้ชาวบ้านไทย-ลาวสองฝั่งโขง จนได้รับขนานนามว่าเป็น ‘ดวงประทีปเหนือฝั่งโขง’ ตลอดมา...

 ‘ผู้ใดทำจิตให้เป็นกลางได้ ผู้นั้นจะพ้นทุกข์’ คำกล่าวประโยคนี้เป็นธรรมะอันสูงค่าของหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี   และเป็นคำยืนยันให้เห็นถึงภูมิจิตอันยิ่งยงของท่าน...
เป็นธรรมชาติจิตที่พ้นโลกียวิสัยสู่โลกุตรธรรม!

จิตปกติของมนุษย์ล้วนยังประกอบด้วย  ความอยากได้  อยากมี และอยากเป็น  บวกสิ่งตรงข้าม คือ ความไม่อยากได้ ไม่อยากมี  และไม่อยากเป็น...

 ความอยากคือ   ภวตัณหา

เฉกเช่น... ชีวิตมนุษย์ที่ยังต้องมีสุขและทุกข์ควบคู่กันไปเสมอ... ‘ความเป็นกลาง’ เท่านั้น จึงทำให้มนุษย์พ้นจากทุกข์ จากสุข อันเป็นโลกียวิสัยได้

จิตเป็นกลาง...คือ


ความไม่ข้องแวะกับสุขหรือทุกข์  อยากหรือไม่อยาก จิตเป็นกลาง  จึงเป็นความสุขสงบจากอาการปรุงแต่งทั้งปวง!

ซึ่งตรงกับคำว่า ‘ผู้ใดทำจิตให้เป็นกลางได้ ผู้นั้นจะพ้นทุกข์!  ที่หลวงปู่เทสก์กล่าวไว้มิผิดเพี้ยน...

จะเห็นว่าเพียงธรรมะเรียบง่ายไม่กี่คำของหลวงปู่ที่แสดงออกมานั้น  สามารถครอบคลุมหลักการพัฒนาจิตยกสู่ภูมิโลกุตรธรรมอย่างสิ้นเชิง...ดังที่เคยกล่าวไว้แล้ว  ศาสนาของพระพุทธเจ้าสอนเรื่อง ‘จิต’ เพราะจิตเป็นใหญ่เป็นประธาน จิตทำให้เราเกิดทุกข์ เกิดสุข จิตทำให้เราอยากได้อยากมี หรือไม่อยากได้อยากมี จิตเป็นที่สถิตของปัญญา หรือความอปัญญา ท้ายสุดจิตเป็นที่บันทึกผลกรรมอันเกิดจากการกระทำทั้งดีและชั่ว...

ทุกประการอยู่ที่จิตทั้งสิ้น !

พุทธศาสนาจึงสอนให้เรารู้จักควบคุมจิตให้ผ่องแผ้วด้วย ‘สติ’ สติเหมือนหางเสือที่คอยควบคุมจิตใจของเราไม่ให้ประพฤติชั่วในขั้นโลกียธรรม...

 มหาสติ...ควบคุมจิตมิให้เกิดอาการปรุงแต่ง ไม่ว่าสุขหรือทุกข์  ควบคุมให้ละวางอุปาทาน จาก ‘ตัวกู...ของกู’ ลง...เมื่อวางอุปาทานได้ ปัญญาภายในจะเกิดขึ้นเป็น วิมุติปัญญา แผ้วถางทางสู่พระนิพพานในที่สุด...

จิตเป็นกลางโดยสรุป...คือความสงบความนิ่ง ว่าง ประหนึ่งน้ำใสที่สงบนิ่ง  ปราศจากคลื่น  ฤา...แผ่นกระจกที่ปราศจากฝุ่นเกาะ  เช่นเดียวกับจิตที่ไม่มีสิ่งเร้ารบกวนปราศจากกิเลสอย่างตัณหาเกาะกุม...

จิตสงบ  จาก...อารมณ์ปรุงแต่ง

จิตวาง  สรรพสิ่งที่ร้อยรัดเสียดแทงใจได้                           
จิตจึง ‘ว่าง’ จากกิเลสและตัณหาเป็นธรรมดา                           
จิตว่างจากกิเลสตัณหาตรงนี้  ก็มิห่างจากคำกล่าวของหลวงปู่เทสก์ที่ว่า ‘จิตเป็นกลาง’ โดยนัยเดียวกัน...

ครั้งหนึ่งผู้เขียนเองก็เคยไปกราบหลวงปู่ที่วัดหินหมากเป้ง หากมิได้สนทนาธรรมกับท่าน  เพราะญาติโยมหนาแน่นตามประสาพระอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง และเป็นพระสุปฏิปันโนที่มหาชนเลื่อมใส...  แต่กระนั้นภูเตศวรก็ถือตนเป็นลูกศิษย์อยู่ห่าง ๆ มาโดยตลอด...ขอถือโอกาสนี้แสดงความอาลัยต่อหลวงปู่มา ณ ที่นี้ด้วย...

ขอพระวิญญาณของหลวงปู่ได้เสวยสุขในแดนพระนิพพาน ตลอดกาลนานเถิด...
 
ฉบับนี้ขอจากกันด้วยการตอบจดหมายของท่านผู้อ่านที่เขียนมาสักเล็กน้อย  หลังจากที่ได้ว่างเว้นมานาน  ก่อนอื่นต้องขออนุญาตบอกกล่าวกันสักนิด  บางท่านที่เขียนจดหมายมาแล้ว อาจจะไม่ได้คำตอบนั้น  เป็นเพราะบางคำถามไม่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม  หรือไม่มีสาระสำคัญทางธรรมะ

ขอขอบคุณเนื้อหาดีดี โดย:dhamma5minutes

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์