ฉันท้อง ฉันทำแท้ง...และถูกสามีทำร้ายตั้งแต่อายุไม่ถึง 19 ปี
บ่ายแก่ๆวันหนึ่ง คลีโอได้มีโอกาสนั่งคุยกับสาวน้อยหน้าใส แต่เรื่องของเธอที่เล่าให้คลีโอฟังนี่สิ ไม่น่าสดใสเหมือนแววตาเธอเลย **นัท เป็นเพียงนามสมมุติ
"ตอนนี้หนูรอเรียนต่ออยู่ค่ะ หยุดเรียนไปหลายปีเหมือนกัน หยุดเรียนไปตอนที่แต่งงานค่ะ หนูแต่งงานตั้งแต่อายุ 16 เจอกับแฟนตอนที่ไปเที่ยวกลางคืนแล้วก็เจอกันค่ะ วันนั้นจำได้ว่าสอบวันสุดท้ายจบ ม.ปลายค่ะ ไปกับเพื่อนๆแล้วเขาก็อยู่ตรงโต๊ะข้างๆก็เลยคุยกัน รู้สึกปิ๊งกันตั้งแต่แวบแรกเลย เขาหล่อที่สุดในกลุ่มเลยค่ะ ก็เต้นด้วยกันทั้งคืน แล้วตอนหลังก็เลยมานั่งคุยกันทั้งคืน แต่ยังไม่มีอะไรกันนะคะ คืนแรกแค่จูบอย่างเดียว"
แล้วจูบนั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง แนทเริ่มรู้สึกรักผู้ชายคนนั้นมากขึ้นเรื่อยๆ เธอให้เบอร์โทรศัพท์ก่อนจะจากกัน
แล้วก็นั่งลุ้นต่อไปไม่ถึง 5 ชั่วโมงเขาก็โทร.มา แล้วก็เริ่มคบกันเป็นแฟน "หนูมารู้ว่าเขาแก่กว่าหนู เรียนอยู่มหาวิทยาลัยเอกชน อายุ 22 แล้วแต่ยังไม่จบ ออกไปเที่ยวกันอีก 2 - 3 ครั้ง เขาก็บอกว่าเรามาเป็นแฟนกันมั้ย ก็โอเคค่ะ ก็ชอบเขาแล้วนี่คะ แล้วเขาก็พาไปบ้าน ไปเจอกับแม่เขา แต่มีเรื่องน่าตกใจนิดหน่อย คือหนูเจอลูกของเขาด้วย เขามีลูกชายแล้วกับแฟนคนก่อน แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน แม่เป็นคนเลี้ยงลูกให้ วันนั้นเห็นเขาเล่นกับลูกแล้ว รู้สึกรักเขามากกว่าเดิม เขาบอกว่าเขาทำแฟนเขาท้องแล้วเขาต้องรับผิดชอบ เราก็ไม่รู้สึกต่อว่าเขาหรืออะไร เราเป็นคนชอบเด็กอยู่แล้ว พอต่อจากนั้นเวลาไปไหนหนูก็พาลูกเขาไปด้วย รู้สึกดีเหมือนเป็นครอบครัวกันเลย"
นัทใช้เวลาเลี้ยงลูกของแฟนไม่นาน ก็ถึงคราวที่เธออยากจะมีครอบครัวเป็นของตัวเองบ้าง
"ก็พอดีเขาขอแต่งงาน ตอนนั้นคบกันมาได้ 3 เดือน ยังไม่มีอะไรกัน ก็เลยว่างั้นเราแต่งงานกันดีกว่า มีคนห้ามเหมือนกันว่ายังเด็กไปหรือเปล่า แล้วก็ไม่ได้บอกพ่อกับแม่ด้วย เพราะเขาอยู่ต่างจังหวัดทั้งคู่ แต่ปกติหนูก็ไม่ค่อยได้คุยกับเขาอยู่แล้ว ก็เลยคิดว่ามันเป็นเรื่องของเรา แล้วตอนนั้นถึงห้ามก็ไม่เชื่อหรอกค่ะ ตอนนั้นมีความสุขมาก พอตกลงว่าเราจะแต่งงานกัน หนูก็ย้ายไปอยู่กับเขา ตอนมีอะไรกับเขาครั้งแรก มันรู้สึกดีมาก รู้สึกเหมือนเราสนิทกันมากขึ้น มีอะไรเราพูดกันได้หมด เขาเป็นเหมือนพี่เหมือนพ่อเราเลยค่ะ เรารู้สึกว่าเราตัดสินใจไม่ผิด ผู้ชายคนนี้ล่ะคือทุกอย่างของชีวิตเรา เรื่องที่หนูแต่งงานก็บอกแค่น้องสาวคนเดียว"
แต่ความจริงกับความฝันไม่จำเป็นต้องไปด้วยกัน ความสุขของนัทมีอยู่ให้เป็นน้ำหล่อเลี้ยงชีวิตได้ไม่นาน วี่แววว่าจะไปไม่รอดก็เริ่มออก
เมื่อเธอรู้ว่าเขายังคบอยู่กับแฟนเก่า แม่ของลูกเขา "แฟนเก่าเขาบอกว่าเขายังนอนด้วยกันอยู่เลย " หนูโกรธมาก ให้เขาเลิกให้ขาดเดี๋ยวนั้นไม่ให้เจอกันอีก แต่เขาบอกว่าเขาต้องพาลูกไปเจอแม่ หนูก็เลยไม่รู้จะทำยังไง แล้วตอนนั้นก็มีเรื่องยุ่งๆ คือ พ่อกับแม่หนูรู้เรื่องเข้า ก็เลยไม่ยอม บอกให้แต่งงานเป็นเรื่องเป็นราว เราก็เลยต้องเตรียมงานแต่งงาน แต่ตอนที่หนูมัวแต่ยุ่งๆเขาก็ไปมีผู้หญิงคนอื่นอีก คราวนี้ก็เลยวีน บอกเขาว่าถ้าไม่ยอมเลิกกับคนนั้น จะโทร.ไปด่า แต่ตอนนั้นหนูแค่ขู่ หยิบโทรศัพท์มาทำท่าจะโทร.เขาก็เลยโกรธ ขว้างโทรศัพท์ทิ้ง แล้วหันมาตบหน้าจนหนูคว่ำลงไปกับพื้น ตอนนั้นมันชาไปหมด ไม่ใช่แค่หน้าแต่ทั้งตัวเลย ไม่คิดว่าคนนี้จะทำร้ายเราได้ ตอนนั้นเสียใจ ทนไม่ไหวร้องกรี๊ด เขาก็ตบอีกให้หยุดร้อง รู้ตัวอีกทีก็เลือดเต็มปากเลย แล้วเขาก็ขังหนูไว้ในห้อง บอกว่าถ้าพูดไม่รู้เรื่องก็อยู่ในนั้นนั่นล่ะ"
เธอรอดจากวันนั้นมาได้เพราะแม่ของเขามาช่วยเปิดประตูให้ ก่อนที่จะหนีออกไปอยู่กับเพื่อน แต่อีกไม่กี่วันแฟนของเธอก็มาตามกลับ
ช่วงเวลายากลำบากเข้ามาแทนที่ความสุข เมื่อความรักอย่างเดียวไม่สามารถหล่อเลี้ยงชีวิตคู่ไว้ได้ นัทกับแฟน ลูกของเขา แล้วยังจะมีลูกของนัทตามมาอีก คำนวนดูแล้วเหมือนว่าครอบครัวนี้จะเลี้ยงตัวเองไปไม่รอด การตัดสินใจว่าจะให้ชีวิติใหม่เกิดมาหรือไม่ ถูกนำมาคิดให้ดี "หนูรู้ว่าเราคงเลี้ยงตัวเองไม่รอด แล้วลูกเราก็ไม่รอดเหมือนกัน ก็เลยบอกลูกว่า...รอให้แม่พร้อมก่อนนะแล้วค่อยมาใหม่ เสียใจมากที่ต้องทำอย่างนั้น แต่ก็ไม่มีทางเลือก แฟนเขาก็ยังไม่ได้ทำงานแล้วก็ยังเที่ยวเหมือนเดิม ก็ตกลงไปว่าเอาออกเถอะ เขาเป็นคนพาหนูไปเอง"
"ช่วงหลังจากทำแท้งไปแล้ว เขาดูแลเราดีมากเลย เอาใจทุกอย่าง แล้วเขาก็เริ่มได้งาน ก็รู้สึกว่าทุกอย่างมันกำลังดีขึ้น เราคงผ่านเรื่องร้ายๆไปแล้วล่ะ แต่ปรากฎว่าเขาไปชอบผู้หญิงที่ทำงานที่เดียวกันอีก แล้วก็มาหงุดหงิดกับหนู เขาใช้เงินเยอะขึ้น ทำให้เงินเริ่มไม่พอใช้ ซึ่งธรรมดาก็ไม่ค่อยมีใช้อยู่แล้ว แต่ตอนนี้มันหนักขึ้นกว่าเดิม แล้วก็เริ่มว่าเรื่องที่หนูไม่ทำอะไร..คำที่เจ็บมากที่ไม่เคยคิดว่าเขาจะพูดก็คือ เขาถามหนูว่าคิดจะเกาะเขากินไปตลอดชาติเลยเหรอ ตอนนั้นก็เริ่มเสียใจกับสิ่งที่ตัวเองทำแล้ว อยากกลับบ้านไปหาพ่อกับแม่ ไปบอกเขาว่าไม่ต้องมีงานแต่งงานแล้ว ไม่อยากอยู่แล้ว"
เพราะความอึดอัด นัทตัดสินใจกลับไปเยี่ยมบ้านที่ต่างจังหวัด "พอหนูกลับมาจากบ้านที่ต่างจังหวัด หนูมาเจอเขาพาผู้หญิงอีกคนเข้ามานอนในบ้าน
เป็นคนทีทำงานกับเขานั้นแหละ หนูทนไม่ได้จึงกรี๊ดใส่ผู้หญิงแต่ยังไม่ได้ทำอะไรเขาเลย แฟนหนูหันมาตบแล้วบอกให้หยุด ตอนที่เขาไปส่งผู้หญิงคนนั้น หนูก็เลยออกจากบ้าน แล้วตั้งใจว่าจะไม่กลับไปอีก"
"พออีกสองวันเขาก็มาขอโทษแล้วบอกว่าเขาจะไม่ทำอย่างนั้นอีก ขอให้กลับบ้านเถอะ แต่หนูไม่ไหวแล้ว หนูยกโทษให้เขาไม่รู้กี่ครั้งมันก็เป็นอย่างนั้นอยู่เรื่อยๆ เขาตีหนูเสร็จ แล้วก็ขอโทษ หนูก็ขอร้องว่าเราเลิกกันเถอะ...ขอให้หนูไปเถอะ ให้จบแค่นี้"
แล้ววันนี้ วันที่ชีวิตของนัทเข้มแข็งขึ้น ความแข็งแกร่งที่เธอได้จากประสบการณ์ชีวิตจริง ที่ไม่มีสอนในตำราบทไหน แต่เธอบอกว่าไม่จำเป็นต้องเรียนจากเรื่องจริงโดยตรง ฟังคำจากคนอื่นบ้างก็ได้ เหมือนอย่างที่เธอจะบอกผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เคยมองโลกสวยงามแบบเธอ
"อย่าคิดว่าทุกอย่างมันจะเป็นอย่างที่เราฝันนัก ฟังคำของผู้ใหญ่ไว้บ้าง ไม่มีใครรักเราได้เท่าพ่อแม่ของเราอีกแล้ว ตอนเราเป็นเด็ก เราชอบคิดว่าเราโตแล้ว แต่จริงๆแล้วยังมีเรื่องอีกเยอะมากที่เราไม่รู้ จะรักใครต้องดูให้ดี เราเปลี่ยนใครไม่ได้หรอกค่ะ"
วันที่คลีโอได้คุยกับนัท นัทได้เริ่มต้นชีวิตที่เหลือใหม่อีกครั้ง เธอกลับเข้าไปสู่เส้นทางการเรียนอีกครั้ง ในฐานะน้องใหม่ของมหาวิทยาลัยเปิด อีกไม่นานเธอคงเรียนจบ และมีเส้นทางชีวิตของตัวเอง..ที่เข้มแข็งและรอบคอบมากกว่าที่เป็นมาที่มาจาก
ขอขอบคุณแง่คิดดีดี..จากนิตยสาร คลีโอ